หัวใจบริการ
เสียเวลาอธิบายให้เข้าใจดีกว่าต้องเสียเงินตามจ่าย
คุณ “รัตน์” ถือบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล โรงพยาบาล “ก” โดยคุณ “รัตน์” มีอาการปวดท้องหลายครั้ง เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาล “ก” มาตลอด แพทย์หญิง A เป็นผู้ให้การรักษา รักษาเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน แพทย์หญิง A เห็นว่าอาการคุณ “รัตน์” ไม่ดีขึ้น จึงส่งพบนายแพทย์ B แต่สงสัยจังเลยว่าทำไม แพทย์หญิง A ถึงพูดว่าให้รับประทานยาแล้วไม่หาย หมอก็ไม่รู้ว่าคุณเป็นอะไรกันแน่ รักษาไม่ได้แล้ว (แสดงว่าแพทย์หญิง A ยอมแพ้แล้วหรืออย่างไร) คุณ “รัตน์” ได้พบ นายแพทย์ B ก็ยังไม่ทันถามอาการ เอาหูฟังแตะๆที่ลำตัวบริเวณหัวใจ 2 ครั้ง วินิจฉัยว่าเป็นโรคกระเพาะ ยาที่ได้คือ ยาลดกรดในกระเพาะ เวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่พบนายแพทย์ B คุณ “รัตน์” มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง สามีคุณ “รัตน์” จึงพาเข้าโรงพยาบาล “ข” โดยใช้สิทธิประกันชีวิต วินิจฉัยว่าคุณ “รัตน์” ป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบ กำลังจะแตกต้องรีบทำการผ่าตัดด่วน รับไว้รักษาเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล 3 วัน มีค่าใช้จ่ายเป็นหลักหมื่น คุณ “รัตน์” จึงขอร้องเรียนโรงพยาบาล “ก” ให้การรักษาเหมาะสมตามมาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่
สำนักงานประกันสังคมพิจารณาเห็นว่า โรงพาบาล “ก” ให้การรักษาไม่เหมาะสมตามมาตรฐานทางการแพทย์เห็นควรให้โรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล
เห็นไหมล่ะคะ ถ้าแพทย์โรงพยาบาล “ก” ตรวจร่างกายให้ละเอียดและส่งแพทย์เฉพาะทางตรวจซ้ำ หรือตรวจพิเศษเพิ่มเติม ก็สามารถวินิจฉัยโรคได้ ผู้ประกันตนก็ไม่ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น และโรงพยาบาล “ก” ก็ไม่ต้องตามไปจ่ายคราวนี้ เห็น หัวใจของการบริการ (Service mind) แล้วหรือยังคะ
ประสบการณ์ผู้เขียน
สำหรับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล---การชี้แจงให้ผู้ประกันตนเข้าใจถึงอาการของโรคเป็นเรื่องสำคัญนะคะ อย่าละเลย
ขอขอบคุณ--กลุ่มงานคุ้มครองสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์ สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม และน้องเจี๊ยบ พิมพิมล ดอนผิวไพร น้องธุรการที่ช่วยจัดพิมพ์บทความให้ค่ะ
ไม่มีความเห็น