ดูฟุตบอล ย้อนดูการเมืองไทย


ลองย้อนมาดูการเมืองไทยกันบ้าง เมื่อเราอยู่คนละพรรค คนละพวก คนละฝ่าย คนละสี คนละฯลฯ อีกฝ่ายที่ตรงข้ามกับเรา ไม่มีอะไรดีที่ทำให้เรายอมรับได้

 

แม้จะไม่ได้ติดฟุตบอล ไม่ค่อยรู้จักทีมฟุตบอล ยิ่งนักฟุตบอล ผมก็ยิ่งไม่ค่อยรู้จักครับ แต่สำหรับการแข่งขันระดับโลก ก็ต้องดูมั่ง ถือเป็นขวัญตา

ผมชื่นชมหลายเรื่องของการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ รวมถึงครั้งอื่น ๆ ด้วยแหละครับ โดยเฉพาะกติกา ความเป็นนักกีฬา น้ำใจของนักกีฬา

มันเป็นกีฬาที่ทุกคนต้องยอมรับกับกติกา ยอมรับกับการแข่งขัน ยอมรับทั้งนักกีฬา ทีมกีฬา และผู้ชมทั้งโลก  ผมรู้สึกว่าทุกคนตื่นเต้นกับมัน สนุกกับมัน และมันส์กับมัน

เราแทบไม่เห็นเลยว่า มีคนรับไม่ได้ ยอมไม่ได้ แพ้ไม่ได้ ไม่ยอมรับในกติกา ไม่ยอมรับในความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นและได้รับ ไม่ยอมรับในการตัดสินของกรรมการ ไม่ยอมรับกรรมการ ไม่ยอมรับสนาม ไม่ยอมรับเวลาแข่งขัน ไม่ยอมรับที่พัก ไม่ยอมรับที่ซ้อม ไม่ยอมรับ ฯลฯ

ลองย้อนมาดูการเมืองไทยกันบ้าง เมื่อเราอยู่คนละพรรค คนละพวก คนละฝ่าย คนละสี คนละฯลฯ อีกฝ่ายที่ตรงข้ามกับเรา ไม่มีอะไรดีที่ทำให้เรายอมรับได้ นโยบายผิด แผนงานผิด โครงการผิด วิธีการผิด การทำงานผิด การแต่งตั้ง(ใครสักตำแหน่ง)ผิด, การออกกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับทุกอย่างผิดหมด ก็คือว่าทุกอย่างของพวก(มันที่)ตรงข้ามกับเรา ต้องผิดเสมอ  เราไม่สามารถยอมรับและชื่นชมการกระทำของอีกฝ่ายได้เลย โดยประการทั้งปวง (อาจจะมีบางคำที่เป็นวาทกรรมว่า เราจะเอาความจริงมาตัดสินว่าอะไรควรสนับสนุนหรือคัดค้าน)

วันๆหนึ่ง ตอนเย็น ตอนเช้า เราจึงมักจะได้ยินข่าวการบริภาษพวกตรงข้ามกับพวกเขา โดยสื่อที่ขยันซอกแซกซักถาม และตีพิมพ์ แสดงภาพ ให้เป็นข่าวกันเกรียวกราวเพื่อขายข่าวในแต่ละวัน

ผมสงสัยมากจังเลยว่า วิธีการแบบไทยๆ ที่เกิดขึ้นดังกล่าวข้างต้น มันมาจากไหน มันถูกปลูกฝังในสังคมไทยมาตั้งแต่สมัยไหน ยุคไหนกันแน่  ดูเหมือนจะหาคำตอบไม่ค่อยได้ครับ ไม่เคยมีใครศึกษาเรื่องนี้กระมังครับ

ผมตั้งสมมติฐานแบบทดลองนำเสนอ ผมเข้าใจว่า เราถูกปลูกฝังในระบบการศึกษาของเรา ตั้งแต่อนุบาลด้วยซ้ำกระมัง เราถูกสอนให้แข่งขัน ตั้งแต่เข้าเรียนอนุบาล ในโรงเรียนที่ดีที่สุด เพื่อจะเอาชนะคนอื่นให้ได้ จะต้องเสียเงินจ่ายเงินบนโต๊ะใต้โต๊ะ เราก็ยอม เพื่อให้เราชนะ คือเข้าเรียนได้

แล้วเราก็ต่อสู้อีกครั้งตอนเข้าเรียนประถม เราต้องแข่งขัน เอาชนะ เหนือคนอีกจำนวนหนึ่ง จะต้องจ่ายเงินอีกเท่าไร เราก็ต้องยอม เพราะการเข้าโรงเรียนดี ย่อมหมายถึงได้ใช้ทรัพยากรของรัฐที่ดี ที่ทุ่มเทให้มากมายมหาศาล เราจะเบียดคนอีกกี่คนออกไป เราก็ต้องยอม และเข้าเรียนมัธยมต้น เข้าเรียนมัธยมปลาย จนถึงมหาวิทยาลัย ก็เช่นเดียวกัน คือ ต้องเอาชนะ ต้องได้ ต้องจ่าย ต้องเบียดคนอื่นออก เพื่อให้เราได้ดีกว่า สอบไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีการสารพัดวิธี การใช้เงิน ใช้อิทธิพล ใช้ผู้มีอำนาจช่วยเหลือ ตลอดจนเส้นสายทั้งหมด เราก็ต้องทำ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็ต้องด้วยคาถา

เพื่ออะไร

ก็เพื่อชนะ เพื่อได้เปรียบ เพื่อให้เหนือคนอื่น เพื่อให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้ทรัพยากรของรัฐ มารับใช้ตัวเรา แล้วเราก็จะยิ่งใหญ่

การศึกษาเช่นนี้ ยังจะส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงการทำงาน เราอยากได้งานที่ดีที่สุด สบาย เงินเดือนสูงๆ ตำแหน่งดี ๆ ใกล้ๆศูนย์อำนาจ ก็เพื่อชนะ เพื่อรวยกว่า เพื่ออำนาจมากกว่า ตำแหน่งสูงกว่าและเร็วกว่า  และเราก็ต้องทำทุกวิธีการด้วย ไม่ว่าจะวิ่งเต้น เส้นสาย อิทธิพล ใช้เงินซื้อให้ได้มา ไม่ยอมจำนนกับระบบระเบียบที่มีอยู่หรอก อย่าคิดว่าจะยอมกับกติกาที่องค์กรตั้งไว้

ประเทศชาติของเรา ถูกปลูกฝังอย่างนี้ครับ ต้องชนะ ต้องได้เปรียบ คนอื่นต้องเลวเสมอ ต้องถูกจัดการ ถูกโค่น ถูกตรวจสอบ เพื่อให้เราได้มาเป็นของเรา

ผมคิดว่าการศึกษาคือจำเลยหลัก และแน่นอนครับ สังคมของเราก็มีผู้คนที่เป็นผลผลิตของการศึกษาแบบนี้ ผู้คนของเราก็เลยเต็มไปด้วยคนคิดและต้องการอย่างนี้ การกระทำอย่างนี้ จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องของทุกคนในสังคม ใครไม่ทำ ประหลาด เชย และต้องอยู่อย่างซอมซ่อ เรียนโรงเรียนกระจอก ๆ ทำงานในสถานที่กระจอก ๆ กรมกระจอก กระทรวงกระจอก ตำแหน่งกระจอก

เราต้องปฏิรูปการศึกษาอย่างจริงจัง เปลี่ยนวิธีการศึกษาใหม่ครับ เปลี่ยนระบบทั้งหมด  ความจริงผมไม่เชื่อหรอกครับว่าคนที่มีอำนาจในระบบการศึกษาแบบนี้ จะมาปฏิรูปการศึกษาได้ เพราะคนเหล่านี้ เขาก็เป็นผลผลิตของการศึกษาเหล่านี้ เขาจะทำลายหรือทำร้ายตัวเองหรือ จะให้โจรมาทำเครื่องมือปราบโจร คงยากครับ

จะเปลี่ยนการศึกษาอย่างไร ผมจะลองเสนอต่อไป

 

ศักดิ์ ประสานดี

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 367040เขียนเมื่อ 16 มิถุนายน 2010 22:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ยอมรับกับกติกา ยอมรับกับการแข่งขัน ยอมรับทั้งนักกีฬา ทีมกีฬา และผู้ชมทั้งโลก  ผมรู้สึกว่าทุกคนตื่นเต้นกับมัน สนุกกับมัน และมันส์กับมัน

เป็นบันทึกที่มีหลายประเด็นได้ต่อยอดนะคะ ขอบคุณค่ะ ฝันดีนะคะ ไว้จะมาใหม่ค่ะ ;)

เรียนท่านอาจารย์ศักดิ์

   แวะมาเรียนรู้กติกาสังคมด้วยคนนะคะ ถ้าคนไทยเคารพ "กติกา" บ้านเมืองคงไม่ลงเอยแบบนี้หรอกค่ะ อาจารย์ว่าจริงมั๊ยคะ

ขอบคุณมากสำหรับทั้งสองความเห็นครัย คงจะได้แลกเปลี่ยนกันในโอกาสต่อไป อย่าลืมติดตามบทความเรื่องการปฏิรูปการศึกษาของผมต่อเนื่องนะครับ

(ยังคิดไม่ออกว่าจะเขียนได้วันไหน 5555)

เรียนท่านอาจารย์ ศักดิ์

มาติดตามงานเขียน ปฎิรูปการศึกษา

ด้วยเนื่องว่า มหาวิชาลัยภูมิปัญญาชุมชนท้องถิ่น มาบอกเล่าข่าวดีให้ ผู้ประกอบการได้พัฒนาศักยภาพ แกนนำเรียนรู้ ของผู้ประกอบการ จากอาจารย์ นิคม ฟูสกุลสุข

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท