+*+ วันที่ เก้า ของการเป็นคุณครู+*+


วันนี้มีสอนคาบแรก  1/9 วิชาครอบครัว ห้องนี้มีสมาชิกไม่มาก ไม่เหมือน 1/8 ที่นอกจากสมาชิกจะเยอะแล้ว กระเทยยังเยอะอีกด้วย พูดมาก ปวดหัวค่ะ ก็ทวงงาน Mind Mapping และประวัติส่วนตัว จากนั้นก็มาสรุปบทที่ 1 ร่วมกัน ส่วนเวลาที่เหลือก็ให้เด็กทำการบ้าน นั่งอ่านประวัติส่วนตัวเด็ก มีบางคนอยู่แถวๆลำพูน เลยถามว่าบ้านอะไร แล้วก็บังเอิญว่า เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับหลาน(ญาติ)ดิฉัน แถมยังเคยเรียนกับน้าดิฉันด้วย โลกกลมจริงๆค่ะ เด็กๆบ่นว่าคาบต่อไปที่เรียนกับคุณครูXXX เรียนไม่รู้เรื่อง ก็เลยบอกว่าให้เปิดใจยอมรับท่านสักนิด อาจารย์เค้าเก่งนะ ประสบการณ์เยอะ เพียงแต่ว่าอาจจะยังสอนไม่เป็น ซึ่งครูเองก็เช่นกัน ฮ่าๆ ใช่ว่าจะสอนรู้เรื่องนะคะ เอิ๊กๆ

คาบ 2 และ 3 ว่าง ก็นั่งเช็คงานเด็กๆ แล้วก็เตรียมการสอน ซึ่งดิฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะเอาะไรไปสีซอ เอ๊ย เอาอะไรไปสอนเด็กพวกนี้ดี ในเมื่อเด็กไม่ตั้งใจเรียน ไม่ขวนขวายหาความรู้เอง คนที่สอนก็เหนื่อยที่จะจ้ำจี้จ้ำไชนะคะ

คาบที่ 4  สอนห้องลองของ พอเข้าไปในห้อง ก็กวาดสายตามมองรอบๆห้อง เอ๊ะ หายไปไหนตัวนึง เอ๊ย คนนึง ก็เช็คชื่อก่อน เลยได้ความว่า ไม่สบาย เมื่อวานก็มาเรียนด้วยอาการแฮงค์ มิน่า ถึงบ่นๆกับดิฉันว่าวันนี้ไม่มีอารมณ์เรียนหนังสือ แล้วก็พบว่ามีเด็กมาเรียนใหม่ แม่เจ้า ก็เลยให้ตามงานกับเพื่อนค่ะ และให้เลือกเพื่อนด้วย พวกแกงค์หลังห้องอย่าไปถาม ไม่ได้เรื่องแน่นอน เลยให้เค้าถามผู้หญิงที่นั่งแถวหน้า เพราะนอกจากจะตั้งใจเรียนแล้ว ทำงานก็เรียบร้อย ลายมือสวยดีค่ะ

เนื่องจากว่าสอนเร็วเกินกว่าแผนการสอน เลยให้เด็กนั่งทำงานที่ค้างในห้อง และช่วยกันสรุปบทที่ 1 ยกเคสมาถามเด็ก ให้เด็กตอบ โดยเฉพาะพวกหลังห้อง ตลกดีค่ะ ตอบผิดๆถูกๆ แต่หนักไปทางที่ผิดมากกว่า ก็สอนแล้วนะคะว่าให้ตั้งใจเรียน มันเป็นผลดีกับตัวนักเรียนเอง ไม่ใช่ตัวครู แต่เด็กก็ไม่ฟัง ทำนองว่า “ครูอย่ามาสอนเค้าหน่อยเลย” ท่าทางการพูดก็กวนมากๆค่ะ เฮ้อ...ทำดีที่สุดแล้วค่ะ วันนี้ยังใช้มาตราการยึดโทรศัพท์ด้วย แต่ไม่ถึงกับยึดไว้ที่ตัวเอง ให้เอามาวางบนโต๊ะ แต่ชั่วโมงหน้า จะเอาตระกร้ามาใส่เหมือนเด็กSJC(เซ็นโยฯ)ค่ะ

ช่วงบ่ายว่างๆ ก็วุ่นๆกับการเช็คราคารถ โทรนัดเซลล์เทสรถ เพราะคุณพ่ออนุมัติรถใหม่ให้แล้ว เร็วดีจังเลยค่ะ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววว่าจะให้ ท่านบอกว่าจะออกรถใหม่ก็ต่อเมื่อได้งานทำที่มั่นคง ฮ่าๆ จากนั้นก็นั่งตรวจงานเด็กต่อ บางคนก็เอางานมาส่งที่ห้อง ทั้งๆที่นัดส่งวันศุกร์ แต่หนักใจกับลายมือมากๆค่ะ อ่านยากมาก แล้วจะตรวจยังไงละเนี่ย จะพยายามอ่านอักขระขอมก็แล้วกันนะคะ เด็กบางคนส่งงาน แต่ไม่ครบ ก็ตามไปถึงห้อง ให้ไปทำมาเพิ่ม แล้วส่งในห้องชั่วโมงหน้า

ช่วงค่ำดูช่องทีวีไทย งานเสวนา “เศรษฐกิจไทยเติบโตไม่ได้ ภายใต้สังคมที่ล้มเหลว” แทนที่จะดูละคร หรือดูฟุตบอล เพราะว่าสอนเรื่องธุรกิจ เรื่องแบบนี้ต้องรู้ไว้ จะได้เอาไปสอนเด็ก และเผื่อเด็กถามจะสามารถตอบได้ค่ะ จริงๆแล้วดิฉันเติบโตมากับสายงานราชการ แต่เรื่องธุรกิจ การค้าขายก็พอจะคลุกคลีมาบ้าง ญาติมีร้านขายของชำ ตอนเด็กๆชอบไปช่วยญาติขายของ พอโตมาอีกนิดก็มาอยู่เชียงใหม่ น้า(และญาติๆ)ทำงานธนาคาร เลยพอจะรู้เรื่องเงินๆ ทองๆ นิดหน่อย พอจะรู้ว่าใครรวยจริงๆ ไม่รวยจริง แต่ไม่ถึงกับรู้ลึกนะคะ(ที่เป็นความลับมากๆ น้าจะไม่บอก) บางทีเราเห็นว่านักธุรกิจคนนี้ รวย แต่จริงๆแล้วกิจการกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย ไม่ก็บ้าน ร้าน กำลังจะถูกยึด อย่างนี้กระมังคะเค้าถึงสอนว่า อย่ามองคนแต่ภาย(เปลือก)นอก แต่ดิฉันก็ดูบ้างไม่ดูบ้างนะคะ เปิดฟังเสียมากกกว่า แต่ก็ยังดีนะคะ ยังพอผ่านหูมาบ้าง ฮ่าๆ  แต่มีคนแนะว่า น่าจะตั้งชื่องานเสวนาใหม่ว่า “เศรษฐกิจไทยเติบโตไม่ได้  สังคมเสื่อมโทรม ภายใต้การล้มเหลวของการเมือง” เอิ๊กๆ แต่เสียดายที่ดูไม่จบ เพราะรายการ(จริงๆ)เค้าตัดมาแค่บางส่วนค่ะ เป็นครูนี่เหนื่อยเนอะ ต้อง(ใฝ่)หาความรู้อยู่ตลอดเวลา อิอิ

คำสำคัญ (Tags): #ฝึกสอน#วราพิมพ์
หมายเลขบันทึก: 366992เขียนเมื่อ 16 มิถุนายน 2010 20:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อันนี้เป็นบันทึกของเมื่อวานนะคะ

แต่เมื่อวานเน็ตเสีย

เลยมาบันทึกวันนี้แทนค่ะ

อันนี้เป็นบันทึกของเมื่อวานนะคะ

แต่เมื่อวานเน็ตเสีย

เลยมาบันทึกวันนี้แทนค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท