๑. วัตถุประสงค์ประสงค์ของการเรียนรู้
๑.๑ รู้จักการให้ทานและการเสียสละแบ่งปันทรัพยากรที่มีเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม
๑.๒ รู้จักช่วยเหลือครอบครัวและชุมชน
๑.๓ มีสติในการเลือกใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า
๑.๔ รู้จักคบมิตรแท้และความละอายเกรงกลัวต่อบาป
๑.๕ รู้จักประโยชน์ของการเจริญภาวนาและนำไปปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้
๒. รายละเอียดของเนื้อหาการเรียนรู้
๑. การคบมิตรแท้กับความพอประมาณ
๒. การให้ทานกับความมีเหตุผล
๓. หิริโอตตัปปะกับการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว
๔. การเจริญภาวนากับเงื่อนไขความรู้
๕. สติกับเงื่อนไขคุณธรรม
๓. แนวทางการเรียนการสอน (กิจกรรมการเรียนรู้)
๓.๑ การสร้างความพร้อม
๑) ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสร้างกติกาในการเรียนรู้เพื่อถือปฏิบัติเป็น “วินัยประจำวิชา” เช่น การแต่งกายให้เรียบร้อย การตรงต่อเวลา การตั้งใจเรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีความพร้อมที่จะเรียนรู้
๒) อธิบายเรื่องการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยก่อนเรียนจะต้องมีการการบูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีล นั่งสมาธิ และแผ่เมตตาก่อนการเรียน (ประมาณ ๕ นาที) ในทุกชั่วโมงเรียน โดยเน้นให้ผู้เรียนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการกระทำดังกล่าว
๓) ให้ผู้เรียน ๑ คน เป็นผู้นำกล่าวบูชาพระรัตนตรัย และสมาทานศีล (โดยต้องวนเวียนกันไปไม่ซ้ำบุคคล เพื่อให้ผู้เรียนมีประสบการณ์อย่างทั่วถึง)
๔) นำผู้เรียนเจริญภาวนาด้วยวิธีง่ายๆ คือ การดูกาย ดูจิต
๓.๒ การสร้างปัญญา
๑. ขั้นเสวนาผู้รู้
- ผู้สอนกล่าวชื่นชมและอนุโมทนาในการทำความดีของผู้เรียน
- ผู้สอนแจ้งรายละเอียดของเนื้อหาโดยภาพรวมทั้งหมดว่าจะต้องเรียนอะไรบ้าง
- ผู้สอนนำเข้าสู่บทเรียน โดยการตั้งคำถามว่า การให้ทานและการเสียสละแบ่งปัน มีความสำคัญอย่างไรกับชีวิต
- ผู้สอนกระตุ้นความคิดของผู้เรียน โดยให้ผู้เรียนบอกเล่าประสบการณ์การช่วยเหลือครอบครัวและชุมชน
- ผู้สอนให้นักเรียนช่วยกันสำรวจว่า ตนเองมีสติในการเลือกใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและคุ้มค่า มากน้อยเพียงใด
- ผู้สอนให้นักเรียนช่วยกันระดมความคิดว่า การเลือกคบมิตรแท้ ทำได้อย่างไรบ้าง
- ผู้สอนตั้งคำถามว่าประโยชน์ของการเจริญภาวนาและนำไปปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างไรบ้าง
- ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน
๑.๒ รู้จักช่วยเหลือครอบครัวและชุมชน
๑.๔ รู้จักคบมิตรแท้และความละอายเกรงกลัวต่อบาป
๑.๕ รู้จักประโยชน์ของการเจริญภาวนาและนำไปปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้
๒. ขั้นสดับคำสอน
- อธิบายความสำคัญ คุณธรรมและยกตัวอย่างของการให้ทานและการเสียสละแบ่งปันทรัพยากรที่มีเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม
- อธิบายความสำคัญ คุณธรรมและยกตัวอย่างของการช่วยเหลือครอบครัวและชุมชน
- อธิบายความสำคัญ คุณธรรมและยกตัวอย่างของการมีสติในการเลือกใช้ทรัพยากรในชีวิตประจำวันอย่างประหยัดและคุ้มค่า
- อธิบายความสำคัญ คุณธรรมและยกตัวอย่างของการคบมิตรแท้และความละอายเกรงกลัวต่อบาป
- อธิบายความสำคัญ ลักษณะและยกตัวอย่างประโยชน์ของการเจริญภาวนาและนำไปปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้
๓. ขั้นสร้างสรรค์ความคิด
- ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียนกลุ่มประมาณ ๕ คน
- ผู้สอนแจกใบงานให้ทุกคน
- ผู้สอนให้ผู้เรียนช่วยกันระดมความคิด โดยยกตัวอย่างลักษณะของการให้ทานและการเสียสละแบ่งปันทรัพยากรที่มีเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม และการมีสติในการเลือกใช้ทรัพยากรในชีวิตประจำวันอย่างประหยัดและคุ้มค่า
- ผู้สอนให้ผู้เรียนช่วยกัน บอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการเจริญภาวนาและนำไปปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ นำเสนอภายในกลุ่ม คนละ 1 นาที
- ให้ผู้เรียนแต่ละคนบอกเล่าเรื่องราวของตนเองที่เกี่ยวกับการคบมิตรแท้และความละอายเกรงกลัวต่อบาป โดยการวาดรูปในใบงาน ให้เวลา 10 นาที
- ให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มออกมานำเสนอผลงานการวาดรูปและบอกเล่าประสบการณ์ของตนเองภายในกลุ่ม คนละ 2 นาที
- ให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันคัดเลือกเรื่องราวและรูปภาพที่ดีที่สุดในกลุ่ม ส่งเป็นตัวแทนกลุ่ม เพื่อนำเสนอหน้าชั้นเรียนต่อไป
๔. ขั้นนำเสนอและสรุป
- ผู้สอนให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
- ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการให้ทานและการเสียสละแบ่งปันทรัพยากรที่มีเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม การช่วยเหลือครอบครัวและชุมชน การมีสติในการเลือกใช้ทรัพยากรในชีวิตประจำวันอย่างประหยัดและคุ้มค่า การคบมิตรแท้และความละอายเกรงกลัวต่อบาปประโยชน์ของการเจริญภาวนาและนำไปปฏิบัติตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ โดยการถามตอบและแสดงความคิดเห็น
- สรุปความรู้และประโยชน์ที่ได้จากการเรียนและการทำกิจกรรมในชั้นเรียน
- เปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามข้อสงสัย
- ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน
๔. สื่อการเรียนการสอน
๑. หนังสือเรียนวิชา ธรรมะกับเศรษฐกิจพอเพียง
๒. รูปภาพโครงการพระราชดำริและเศรษฐกิจพอเพียง
๓. วีดีทัศน์ / สื่อเสียง
๔. สื่อประดิษฐ์
๕. ใบความรู้ เรื่อง การให้ทานและการเสียสละแบ่งปันทรัพยากรที่มีเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม
๖. การนำเสนอด้วย PowerPoint
๗. E-Learning วิชา ธรรมะกับเศรษฐกิจพอเพียง
๕. การวัดและประเมินผลการเรียนการสอน
๑. ประเมินจากพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน เช่น การตั้งคำถาม การตอบคำถาม การนำเสนอ
๒. ประเมินจากพฤติกรรมการเข้าชั้นเรียนและการส่งงานที่ได้รับมอบหมาย
๓. ประเมินจากความรับผิดชอบในงานที่มอบหมายทั้งระดับรายบุคคลและกลุ่ม
๔. ประเมินจากการรับฟัง และการปรับปรุงแก้ไขผลงาน
๕. ประเมินจากการแสดงความคิดเห็น
๖. ประเมินจากการทำกิจกรรมกลุ่มและการนำเสนอหน้าชั้นเรียน
๗. ประเมินจากการสอบวัดผลการเรียนรู้ก่อนและหลังเรียน
๖. หนังสืออ่านประกอบ http://www.nesdb.go.th/Default.aspx?tabid=326
หนังสือ "หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"
จำนวนหน้า : (40 หน้า)
หนังสือ "เรียนรู้หลักการทรงงาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"
จำนวนหน้า : (78 หน้า)
หนังสือ "เส้นทางสู่ความพอเพียง"
จำนวนหน้า : (82 หน้า)
หนังสือการ์ตูน "เศรษฐกิจพอเพียง"
จำนวนหน้า : (200 หน้า)
ไม่มีความเห็น