มองต่างมุม...ต่างมุมมอง


@ มองต่างมุม...ต่างมุมมอง

เมื่อยังเด็ก เรามักมองโลกแคบ ๆ ที่มีแต่ตัวเองเท่านั้น จำได้ว่าผมแค่ขอซื้อกางเกงตัวเดียวแล้วแม่ไม่ให้ ก็งอนและไม่พูดกับแม่ไปครึ่งวัน ทั้ง ๆ ที่แม่อธิบายเหตุผลมากมาย แต่ตอนนั้นไม่ฟังเลย

ให้อภัยเถอะ เพราะ ผมยังเยาว์ ผมเขลา มารู้อีกทีว่าแม่เสียใจมากที่วันนั้นไม่ซื้อของตามที่ผมขอเพราะต้องเอาเงินไปลงทะเบียนเรียนให้พี่ชาย นี่ไงเหตุผล ที่ผมไม่ยอมฟังในตอนนั้น ตอนนี้รู้แล้วอยากด่าตัวเองเหลือ

อ่านข่าวหนังสือพิมพ์แล้วเศร้าใจจัง ทุกวันนี้ ปัญญาสังคมรุนแรงขึ้นทุกวัน พ่อแม่ห้ามลูกนิดหน่อย ก็เป็นเรื่องใหญ่ ห้ามไม่ให้คบเพื่อน ก็ประชดโดยการหนีออกจากบ้าน ไม่ให้เล่นเกมที่ชอบ ก็ประชดด้วยการไม่กินอะไร ผู้ชายหรือผู้หญิงที่ตนรัก ไม่รักตอบก็ฆ่าตัวตายประชดชีวิต

คิดแล้วก็น่าเศร้านะครับ กว่าจะโตมาป่านนี้ พ่อแม่ลำบากแค่ไหน ห่วงใยสารพัด แต่อารมณ์ชั่ววูบก็พัดพาความหวังที่จะได้พึ่งพิงยามแก่เฒ่าสูญสลาย

อยากให้ทุกคนที่กำลังมีปัญหา มองไกล ๆ อีกนิดดีไหม มองคนใกล้ตัวที่รักเรา ว่าเขาเหนื่อยและทำอะไรเพื่อเรามาบ้าง อย่ามัวมองแต่คนอื่นที่เรารัก เพราะยามที่เราทุกข์ เราล้ม คนที่ร้องไห้ไปกับเราไม่ใช่คนที่เรารักแต่เป็นคนที่รักเราต่างหาก

เพราะเรามองโลกมุมเดียวหรือเปล่า


ถ้าเรามองมุมพ่อแม่ ด้วยประสบการณ์ที่มากกว่า และความรัก ความห่วงใย จึงห้ามปราบเราบ้าง เพื่อให้อยู่ในร่องในรอย

ถ้ามองในมุมของเด็ก เขาก็จะว่าชีวิตเป็นของเขา ไม่อยากให้ผู้ใหญ่มาบงการ และอยากเป็นอิสระ ถ้าเราต่างมองและเข้าใจมุมของการและกัน และปรับมุมเหลี่ยม ๆ นั้นให้มน เราคงเข้าใจกันมากขึ้น

เมื่อก่อนผมเคยคิดว่าคนอื่นเสมอ
ว่าทำไมเขาทำอย่างนั้น ทำไมเขาทำอย่างนี้
สิ่งที่คนอื่นทำอะไรไม่เห็นดีเลยสักอย่าง พอมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับเราคล้าย ๆ เขา ถูกบีบบังคับจากหลาย ๆ ด้าน บางครั้งเราก็ทำเหมือนที่คนอื่นเคยทำทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่ดีเลย

วันนี้เมื่อโตขึ้น ฉันจึงเข้าใจว่า บางสิ่งที่ไม่ดี ที่เราไม่ต้องการทำเลย แต่เราอาจต้องทำเพราะความจำเป็นบีบบังคับและอาจเป็นทางเลือกเดียวที่เรามีในตอนนั้น

แต่ละคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง ในการที่จะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เพราะเริ่มมองในมุมมองของคนอื่น ฉันจึงเห็นโลกอีกด้าน นอกจากด้านของตัวเอง และเข้าใจเขามากขึ้น

ผมเคยตั้งคำถามกับเพื่อนสองคน ว่า
“ถ้าวันหนึ่งรู้ว่าเพื่อนรักเป็นภรรยาน้อยเสี่ยคนหนึ่ง จะรู้สึกและมีปฏิกิริยาต่อเพื่อนคนนั้นอย่างไร”

คนแรก ตอบว่า “ ไม่เอาเลิกคบไปเลย นิสัยแย่มาก ผู้ชายตังเยอะตั้งแยะมีไม่ไป...พวกนี้ชอบทำลายครอบครัวคนอื่น....(และอีกมากมาย)”

คนที่สอง ตอบว่า “ก็ทำเหมือนเดิมสิ เรื่องส่วนตัวนี่นา ขอแค่เขายังเป็นเพื่อนที่ดีกับเราอย่างนี้ก็พอ เรื่องอื่นจะเป็นไงก็ช่าง ชั้นไม่สน”

ฟังแวบแรก ผมไม่ค่อยพอใจคำตอบของเพื่อนคนแรกเท่าไหร่ ดูจิตใจคับแคบจัง แต่พอใช้เหตุผลและลองมองในมุมของเพื่อนคนนี้บ้าง ผมเข้าใจเขานะ เพราะเขามีครอบครัวที่น่ารัก อบอุ่นทีเดียว เขาก็มองในมุมเมียหลวงที่ไม่ชอบบรรดาเมียน้อยเพราะเขาหวงแหนครอบครัวของเขา

ส่วนเพื่อนคนที่สอง สาวโสด รักสนุก และไม่มีครอบครัว มุมมองของเพื่อนคนนี้จึงมีแต่คำว่าเพื่อนเท่านั้น ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีข้อแม้สำหรับคำว่ามิตรภาพ คืออยู่ในมุมคนอื่น ที่ไม่ใช่ทั้งเมียน้อยและเมียหลวง
มองต่างมุมบ้างก็ดี เราจะได้เห็นคนอื่นในอีกด้าน
จะดีแค่ไหนนะ
ถ้าเราเห็นโลกในมุมของคนอื่นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ตามจำนวนผู้คนที่เราพบเจอ คบหา
กว่าเราจะตาย เราได้มุมมองเพิ่มขึ้นมากมาย
และได้เข้าใจโลกในหลากหลายมุม


แต่อย่ามัวแต่เรียนรู้และดูแต่มุมมองของคนอื่น
จนลืมย้อนกลับมามองมุมของตัวเองด้วยว่า อยู่มุมไหนขณะนี้...มืด...สว่าง...กว้าง...แคบ และควรใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ในมุมของคนอื่นเพื่อปรับมุมของตัวเองให้พอดี เพราะสิ่งที่ดีที่สุด คือ

เห็นความผิดของตัวเอง ก่อนคนอื่น
เข้าใจตัวเองก่อน เพื่อเข้าใจผู้อื่นได้ถูกต้อง
 
คำสำคัญ (Tags): #ข้อคิดดีๆ
หมายเลขบันทึก: 366158เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2010 03:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท