เงินสดทันที หรือหนี้สินทันใด


เงินสดทันที หรือหนี้สินทันใด

 

   จากนโยบายแก้หนี้นอกระบบ ถือเป็นนโยบายที่ดี แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายในการจัดการปัญหาหนี้นอกระบบ จะว่าไปแล้วทุกเรื่องบนโลกนี้ เวลาพูดถึงหลักการนั้นอาจจะไม่ยากนัก เพราะพูดกันบนกระดาษ

แต่ความยากอยู่ที่การนำไปปฏิบัติ (Execution) อย่างกรณีของหนี้นอกระบบ เมื่อมีผู้ที่มาลงทะเบียนแล้ว แต่เมื่อมาคัดกรองพบว่ามีจำนวนมากที่ไม่เข้าข่ายการให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากเป็นหนี้ที่ผิดกฎหมาย เช่น หนี้พนัน เป็นต้น

หากเป็นหนี้ที่เข้าข่ายว่าให้การช่วยเหลือได้ ก็ต้องมีการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าเจ้าหนี้นอกระบบจะไม่มาไกล่เกลี่ยด้วย หรือแม้แต่มาคอยข่มขู่เพื่อไม่ให้ลูกหนี้ของตนมาลงทะเบียน

แต่ก็ถือว่าเป็นโครงการที่ดี เพราะจากการสำรวจความคิดเห็นของสวนดุสิตโพล พบว่าประชาชน 64% เห็นด้วยกับโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ โดยจะเป็นสถาบันการเงินของรัฐที่รับผิดชอบในส่วนดังกล่าว

จะว่าไปแล้วก็คงจะเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกับสถาบันการเงินของเอกชน เพราะคุณสมบัติของผู้ขอขึ้นทะเบียนจะต้องเป็นลูกหนี้นอกระบบที่มีเงินต้นไม่เกิน 2 แสนบาท ซึ่งก็จะทำให้กลุ่มคนดังกล่าวเข้าถึงหนี้ในระบบได้ง่ายและมากขึ้น อีกทั้งทางภาครัฐก็ยังวางแผนในการแก้ปัญหาแบบระยะยาวด้วยการแนะนำ ส่งเสริมสนับสนุนการสร้างอาชีพ เพื่อให้ลูกหนี้มีกำลังในการชำระหนี้ และไม่กลับมาเป็นหนี้อีก

ผมก็ขอเอาใจช่วยให้สามารถนำนโยบายดังกล่าวไปปฏิบัติได้สำเร็จครับ

ในส่วนสินเชื่อบุคคลที่เป็นกลุ่มเป้าหมายอีกกลุ่มหนึ่ง กล่าวคือ ด้วยคุณสมบัติต่างๆ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ของสถาบันการเงินได้อยู่แล้ว หรือพูดอีกมุมก็คือ หมดสิทธิเข้าในโครงการดังกล่าว ในปัจจุบันก็มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนผู้ที่มีความต้องการทางการเงินก็สามารถเลือกได้เยอะ

เพราะช่วงนี้สินเชื่อบุคคลไม่ว่าจะของธนาคารพาณิชย์ไทย หรือกลุ่มธนาคารต่างประเทศ หรือสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ ก็มีการออกมาทำการตลาดกันสุดๆ ทั้งคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำลงกว่าเมื่อก่อน ทั้งเพิ่มระยะเวลาในการผ่อน ไหนจะลดหลักเกณฑ์เรื่องรายได้ขั้นต่ำลงมาอีก ของแถมก็ดูดีสุดๆ เช่น แถมที่พัก โรงแรมหรู เป็นต้น

ตอนเห็นชื่อโรงแรมที่แถม ผมยังอยากกู้เลย จริงๆ แล้วไม่ได้มีความต้องการเงินหรอกครับ (พูดให้ดูดี) แต่อยากได้ของแถม

สินเชื่อส่วนบุคคล ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเอาไปใช้จ่ายอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งจะช่วยเติมเต็มให้ชีวิตในส่วนต่างๆ ได้ ซึ่งบางคนก็กู้ไปเพื่อใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็นจริงๆ ในชีวิต ส่วนบางคนก็กู้ไปเพื่อเติมเต็มความอยากได้อยากมีในชีวิต (อาจจะไม่จำเป็นมากนัก) ก็แล้วแต่ครับ ตราบใดที่ยังมีความสามารถหรือยังมีกำลัง จะถือว่าเป็นการซื้อความสุขก็ไม่เป็นไร ความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลนั้นมีอยู่ในทุกๆ ช่วงของอายุ ซึ่งสามารถแบ่งได้ตาม Consumer Financial Needs Life Cycle ดังนี้

Early Development ช่วงนี้จะเป็นช่วงของคนที่พึ่งจบและเริ่มทำงาน เงินเดือนอาจจะยังไม่มากนัก แต่จะมีค่าใช้จ่ายพอสมควร เพราะต้องเริ่มเข้าสังคมที่ทำงาน บางคนอาจจะซื้อรถ เช่าคอนโดมิเนียมอยู่ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ต้องการก็จะเป็นพวก บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดทั้งหลาย

Family Growth ช่วงนี้คนจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามความรับผิดชอบที่มากขึ้น มีงานที่มั่นคง มีครอบครัว แต่งงาน มีลูก จึงมีความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลตามภาระที่เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากมีบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดต่างๆ (ที่ตามมาสมัยทำงานใหม่ๆ) ก็จะต้องมีสินเชื่อบ้าน สินเชื่อเพื่อการตกแต่งบ้าน ซื้อประกันชีวิตให้ตนเอง ซื้อประกันชีวิตและสุขภาพให้ลูก

Mid Life ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่จะมีภาระค่าใช้จ่ายที่สูง เนื่องจากค่าใช้จ่ายครัวเรือนที่สูง รวมทั้งค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของลูก ค่าผ่อนรถ ค่าซ่อมรถ ค่าซ่อมแซมบ้าน ค่าใช้จ่ายในการขยับขยายบ้าน เป็นต้น ดังนั้นช่วงนี้จะเป็นช่วงที่คนมีความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลสูงที่สุด นอกเหนือจากภาระสินเชื่อบุคคลอื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว ช่วงนี้อาจจะมีความต้องการสินเชื่อเพื่อการตกแต่ง/ซ่อมแซมบ้านเพิ่ม สินเชื่อเพื่อการศึกษาของลูก เป็นต้น

Empty Nest ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่รายได้ก็เพิ่มขึ้นเยอะ เงินเก็บก็เริ่มเป็นกอบเป็นกำ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็เริ่มลดลง เช่น ลูกก็โตแล้ว รถก็ผ่อนหมดแล้ว บ้านก็เหลือหนี้ไม่เท่าไร ดังนั้นช่วงนี้ความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลจะลดลง เพราะรายได้เริ่มเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายแล้ว เว้นเสียแต่ว่าบางคนอาจจะลงทุนอะไรสักอย่าง แล้วต้องการเงินทุนหมุนเวียน ก็อาจจะเอาบ้านที่ผ่อนหมดแล้วมาเปลี่ยนเป็นเงินก็ได้ หรือที่เรียกว่า Home Equity

Retirement ช่วงนี้เป็นช่วงที่สะสมทรัพย์ ความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลจะไม่มีแล้ว หรืออาจจะยังมี แต่ก็คงกู้ไม่ผ่าน เพราะไม่มีรายได้แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะลงทุนใน Fixed Deposit, Mutual Fund ต่างๆ

จะเห็นว่าความต้องการทางการเงินเพื่อใช้จ่ายส่วนบุคคล มีอยู่กับเราไปตลอดทุกช่วงอายุ ซึ่งวิธีการได้มาซึ่งเงินดังกล่าวก็มีได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการกู้ยืมกันเองในหมู่ญาติ การเล่นแชร์ โรงรับจำนำ การกู้ยืมเงินนอกระบบ การกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม อยากจะบอกว่าวันที่คุณได้เงินสดมา คุณก็ได้หนี้สินทันทีเหมือนกัน ดอกเบี้ยเริ่มนับตั้งแต่วันที่คุณแตะเงินเลย

จึงอยากจะบอกว่าพยายามเป็นหนี้เท่าที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งคำว่าจำเป็นของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีก หรือแม้แต่ในสังคมปัจจุบันที่มักเน้นเรื่องวัตถุนิยมกันมาก จนทำให้บางครั้งเราคิดไปว่า ความอยากได้อยากมีที่เกินความจำเป็นนั้น คือ ความจำเป็น ตัวอย่างเช่น จำเป็นไหมที่ต้องเป็น Home Theater ที่บ้าน แต่เสาร์อาทิตย์ไปดูหนังในห้าง จำเป็นไหมที่ต้องจอ LCD ใหญ่ๆ จอเล็กลงหน่อย แต่นั่งดูกันพร้อมหน้าพร้อมตา จำเป็นไหมที่ต้องเป็นโทรศัพท์รุ่น Top แต่ใช้โทร.เข้ากับโทร.ออกอย่างเดียว

อย่าลืมนะครับ เงินสดทันที ก็คือ หนี้สินทันใด หากมีความอยากได้อยากมีที่เกินความจำเป็น และเกินฐานะของเรา ก็เอาใจช่วย ขอให้กำหนดให้ทันกันนะครับ จะได้ไม่ต้องทุกข์เพราะหนี้สิน ครับ

 

คำสำคัญ (Tags): #ข้อคิดชีวิต
หมายเลขบันทึก: 366154เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2010 02:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท