ใครบาปกว่ากัน


คนไม่มีศีลทำผิดบาปไหม

คนมีศีลทำผิดบาปไหม

เป็นข้อถกเถียงกันว่าใครบาปกว่ากันระหว่างมีศีลแล้วยังทำผิด

กับไม่มีศีลแล้วทำผิด

ความไม่รู้เป็นบ่อเกิดของอวิชา(พระท่านสอนไว้)

คนไม่รู้ศีลเพราะอะไร คนไม่รู้จะมีศีลได้ไหม

คนไม่รู้ศีลเพราะไม่เรียนรู้ จะมีศีลได้ไหม

คนรู้ศีลแต่ทำศีลขาด บาปไหม

คนเรียนรู้แล้วเฉย...จะมีศีลได้ไหม

ล้วนเป็นประเด็นที่เราสนทนากันว่าใครจะผิด จะบาปกว่ากัน

แล้วต่างก็หยิบยกเหตุผลขึ้นมาสนับสนุนความคิดของตัวเอง

บ้างก็ยอมรับบ้างก็ไม่เห็นด้วย

วงสนทนาเย็นนี้จึงเต็มไปด้วยอาการตื่นตัวของผู้ร่วมวงสนทนา

ทำให้หวลคิดถึงสภากาแฟในสมัยก่อน

เกือบทุกๆเย็นคนรุ่นพ่อจะมานั่งโขกหมากรุกจิบชาแก้วสูง

ดื่มโกปี้ หรือโอยัวะกันไป เฮฮาได้สาระ

ช่างต่างกับทุกวันนี้

 

อย่าเชื่อตาตัวเองเกินไป

บางที

สิ่งที่เห็นก็ไม่เป็นอย่างที่เห็น

เช่นทางรถไฟ และขอบฟ้ากับน้ำทะเล

มันไม่เคยบรรจบกันเลยนะ

ดังภาพข้างล่างนี้

ภาพจากอินเทอร์เน็ต

                                         ภาพจากอินเทอร์เน็ต

 

                                       คนแก่หรือสาวสวย  

                              

                                  ภาพจากอินเทอร์เน็ต

หมายเลขบันทึก: 366109เขียนเมื่อ 12 มิถุนายน 2010 20:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอบคุณครับคุณครู

สุขสบายดีนะครับ

ปรกติทางศาสนาพุทธมักจะไม่ให้พยายามค้นหาคำตอบที่จะไม่เป็นประโยชน์ (ใช่ไหมครับ พันคำไม่ค่อยมีความรู้เท่าไร)

ภาพไม่แสดงครับคุณครู Krutoi

สวัสดีครับ

ผมคิดว่าศีลย่อมอยู่ในใจโดยธรรมชาติแล้วกับทุกคนครับ และคิดว่าถ้าเราทำในสิ่งที่เราคิดว่าไม่ดีและคนอื่นไม่ชอบหรือคนอื่นไม่ต้องการ แล้วทำให้ตัวเราเองเดือนร้อนหรือทำให้ผู้อื่นเดือนร้อนก็คงเป็นบาปแล้วครับ

ความคิดเห็นของข้าน้อยใน มโน

ผมว่าคนมีศีลแล้วไม่หน้าจะทำบาปได้ พระพุทธองค์สอนว่า การทำบาป นั้นต้องทำครบองค์ ๓ คือ กาย ๑ วาจา ๑ ใจ ๑

ถึงจะผิด ถ้าทำไม่ครบองค์สามนี้ก็ไม่เป็นบาป คับบบ ดูตามเจตนามากกว่า จะผิดหรือถูกนั้นท่านก็พิจารณาดูเองนะขอรับ

สวัสดีค่ะพี่ Krutoiting

แวะมาเรียนรู้ด้วยคนนะคะ บางครั้งสิ่งที่เห็นก็ไม่ใช่ สิ่งที่ทั้งเห็นทั้งได้ยินก็ยังไม่ใช่อีกนั่นแหละค่ะ " จิตมนุษย์นี้ไซร้ยากแท้หยั่งถึง" จริงๆค่ะ

Pเดชา
ขอบคุณค่ะ

ทำแล้วไม่มีใครเดือดร้อนรวมทั้งตัวเองด้วย จึงไม่บาป..ขอบคุณค่ะ

P

ขอบคุณค่ะ

พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่าการกระทำที่เป็นบาปนั้นจะต้องประกอบไปด้วยทาง คือกาย วาจา และใจ เช่นเดียวกับการทำบุญที่ต้องถึงพร้อมทั้งกายวาจาใจ จึงจะเกิดบุญ อย่างนี้ใช่ไหนคะ

P

ขอบคุณค่ะ น้องคุณยาย

จิตมนุษย์ยากแท้หยั่งถึงแต่ก็มีหลายคนพยายามหยั่งใจคนรัก

อิอิ...มันลึกยิ่งกว่าท้องมหาสมุทรจริงๆด้วยคะ

แต่บางครั้งมันก็ตื้นจนเห็นชัด

อยู่เวรดึกหรือคะ

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท