...............คนฉลาดปราดเปรื่องจริง เขานั่งนิ่งสงวนคม
...............อาวุธของมนุษย์คือความคิด
...............ถ้าต้องรบก็ควรรบด้วยสมอง
...............ความคิดสามารถเจาะทะลุกำแพงเหล็กได้
ในเรื่องสามก๊ก จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะลืมเอ่ยถึงชื่อคนคนหนึ่งที่มีความชาญฉลาด และรอบรู้ สามารถล่วงรู้อนาคต และทำนายเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ คนผู้นี้คือ ขงเบ้ง
ขงเบ้งนั้นเป็นนักปราชญ์ที่มีกิจวัตรที่เรียบง่าย เป็นคนสุขุม วาจาไพเราะ และมีความคิดที่แยบยล ในการทำศึกหลายครั้งหลายคราที่โจโฉต้องพ่ายแพ้เพราะตกในบ่วงแผนกลยุทธ์ของขงเบ้ง แม้แต่จิวยี่ผู้เคยร่วมมือกับขงเบ้งเพื่อร่วมกันตีทัพเรือของโจโฉให้แตกพ่ายยังต้องกระอักเลือดตายเพราะพ่ายต่อแผนซ้อนแผนของขงเบ้ง
แต่ในครั้งนี้จะกล่าวถึงเมื่อครั้งที่ขงเบ้งและจิวยี่เคยร่วมมือกัน ซึ่งเป็นตอนที่ ขงเบ้งหาลูกเกาทัณฑ์หนึ่งแสนดอกให้จิวยี่ …..
....เนื่องจากจิวยี่ได้เห็นกลเม็ดเด็ดพรายที่ขงเบ้งสำแดงให้เห็นในการทำศึก จึงทำให้จิวยี่เกิดความหวาดระแวงว่าวันหนึ่งเมื่อทัพของซุนกวน ซึ่งมีจิวยี่เป็นที่ปรึกษา และทัพของเล่าปี่ ซึ่งมีขงเบ้งเป็นกุนซือ ต้องมาทำศึกกันเอง ตนเอง(จิวยี่)อาจต้องพ่ายแพ้ต่อขงเบ้งเป็นแน่แท้ ดังนั้น เมื่อมีการปรึกษาหารือในการตีทัพเรือของโจโฉ (ในครั้งนี้ยังอยู่ในช่วงที่จิวยี่ออกแผนลวงทัพโจโฉว่าทัพของเล่าปี่ถอนตัวออกไปเนื่องจากมีโรคระบาดเกิดขึ้นและได้นำเกาทัณฑ์ไปด้วยประมาณหนึ่งแสนดอก ทำให้ทัพของซุนกวนต้องขาดแคลนลูกเกาทัณฑ์) จิวยี่จึงให้ขงเบ้งผู้ที่ยังอยู่ต่อ ได้หาลูกเกาทัณฑ์มาทดแทน โดยให้เวลา 7 วัน แต่ขงเบ้งกลับบอกว่าขอแค่ 3 วันก็พอ ถ้าทำไม่ได้ให้ตัดหัวตัวเองเสีย
ระหว่างนั้นจิวยี่ก็ให้ โลซก ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าแก่ของขงเบ้งคอยดูแลและจัดเตรียมหาในสิ่งที่ขงเบ้งต้องการ ในสองวันแรกขงเบ้งแทบไม่ทำอะไรเลย จนทำให้โลซกต้องเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วงว่า ขงเบ้งจะทำอย่างไร เมื่อได้ยินดังนั้นขงเบ้งจึงเอ่ยขอให้โลซกจัดเตรียมเรือไว้จำนวนหนึ่ง โดยให้มัดฟางเป็นรูปร่างทรงคล้ายคนหลายๆ คนติดไว้ที่ข้างเรือ ส่วนตัวเรือก็เอาฟางมาคลุมไว้ให้หนา และเตรียมทหารไว้ที่เรือเพื่อใช้บังคับเรืออย่างเดียว
เมื่อถึงคืนของวันที่ 3 ของการให้คำมั่นสัญญา ขงเบ้งพร้อมด้วยโลซกก็ขึ้นเรือพร้อมกับจัดเตรียมสุราอาหารเพื่อดื่มกินระหว่างทางที่เดินทางไปหาทัพโจโฉด้วยกำลังทางเรือเพียงแค่หยิบมือ เมื่อไปถึงบริเวณที่ใกล้ด้านหน้าทัพโจโฉ ระหว่างนั้นเป็นเวลาใกล้รุ่งสางทำให้เกิดไอหมอกหนาลอยจากผิวน้ำขึ้นสู่ด้านบน คลุมกองเรือของขงเบ้งไว้ ทำให้เห็นเรือแค่ลางลาง เมื่อยามของทัพโจโฉเห็นเข้าก็ตกใจ เพราะขณะนั้นขงเบ้งให้ทหารที่อยู่ในเรือช่วยกันส่งเสียงโห่ร้อง ลั่นกลองรบด้วย
เมื่อกองทหารของโจโฉได้ยินจึงพากันกรูเอาลูกเกาทัณฑ์นับหมื่นนับแสนยิงเข้าใส่กองเรือ ขงเบ้งให้ทหารหันด้านข้างของเรือเข้ารับลูกเกาทัณฑ์ที่ยิงเข้ามาจนเรือด้านนั้นไม่มีที่ว่างพอที่จะถูกยิงอีก ขงเบ้งก็ให้ทหารหันกลับข้างเรืออีกข้างเข้ารับจนไม่มีที่ว่างที่จะถูกยิงอีกเช่นกัน เมื่อลูกเกาทัณฑ์ติดอยู่ที่ข้างเรือหมดแล้ว ขงเบ้งจึงสั่งให้ถอนกองเรือกลับ แต่ยังไม่วายที่จะเยาะเย้ยโจโฉด้วยการให้เรือลำเล็กๆ ที่ถูกลูกเกาทัณฑ์พร้อมหุ่นฟางอีกหนึ่งตัวติดไปเพื่อแล่นไปตามธรรมชาติเข้าหาทัพโจโฉ เพื่อเป็นการบอกเป็นนัยว่าขงเบ้งทำอย่างไร
ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทัพของโจโฉเท่านั้นที่ต้องหน้าแตกและสูญเสียลูกเกาทัณฑ์นับแสนดอก จิวยี่เองก็ต้องเจ็บใจที่เอาชนะขงเบ้งไม่ได้แถมต้องเสียหน้าอีก
คุณสมบัติที่ขงเบ้งมี คือ
มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
ใช้วาจาได้หลักแหลม
รู้เขารู้เรา
ใช้คนได้ถูกกับงาน
สุขุม
มีความรอบรู้และลึกซึ้ง
โรเบิร์ต แอล. แคทซ์ กล่าวว่า ผู้บริหารต้องมีความสามารถ3 ด้าน ได้แก่
ทักษะในด้านเทคนิควิธี (Technical Skills) คือ ความสามารถในการทำงานต่างๆ ในหน้าที่ (เก่งงาน)
ทักษะในด้านมนุษยสัมพันธ์ (Human Skills) คือ ความสามารถในการปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา (เก่งคน)
ทักษะในด้านความคิดรวบยอด (Conceptual SkillS) คือ ความสามารถในการวางแผนแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแม่นยำ คือการมีวิสัยทัศน์ (Vision) หรือ เก่งคิด นั่นเอง
...............อาวุธของมนุษย์คือความคิด
...............ถ้าต้องรบก็ควรรบด้วยสมอง
...............ความคิดสามารถเจาะทะลุกำแพงเหล็กได้
ในเรื่องสามก๊ก จะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะลืมเอ่ยถึงชื่อคนคนหนึ่งที่มีความชาญฉลาด และรอบรู้ สามารถล่วงรู้อนาคต และทำนายเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ คนผู้นี้คือ ขงเบ้ง
ขงเบ้งนั้นเป็นนักปราชญ์ที่มีกิจวัตรที่เรียบง่าย เป็นคนสุขุม วาจาไพเราะ และมีความคิดที่แยบยล ในการทำศึกหลายครั้งหลายคราที่โจโฉต้องพ่ายแพ้เพราะตกในบ่วงแผนกลยุทธ์ของขงเบ้ง แม้แต่จิวยี่ผู้เคยร่วมมือกับขงเบ้งเพื่อร่วมกันตีทัพเรือของโจโฉให้แตกพ่ายยังต้องกระอักเลือดตายเพราะพ่ายต่อแผนซ้อนแผนของขงเบ้ง
แต่ในครั้งนี้จะกล่าวถึงเมื่อครั้งที่ขงเบ้งและจิวยี่เคยร่วมมือกัน ซึ่งเป็นตอนที่ ขงเบ้งหาลูกเกาทัณฑ์หนึ่งแสนดอกให้จิวยี่ …..
....เนื่องจากจิวยี่ได้เห็นกลเม็ดเด็ดพรายที่ขงเบ้งสำแดงให้เห็นในการทำศึก จึงทำให้จิวยี่เกิดความหวาดระแวงว่าวันหนึ่งเมื่อทัพของซุนกวน ซึ่งมีจิวยี่เป็นที่ปรึกษา และทัพของเล่าปี่ ซึ่งมีขงเบ้งเป็นกุนซือ ต้องมาทำศึกกันเอง ตนเอง(จิวยี่)อาจต้องพ่ายแพ้ต่อขงเบ้งเป็นแน่แท้ ดังนั้น เมื่อมีการปรึกษาหารือในการตีทัพเรือของโจโฉ (ในครั้งนี้ยังอยู่ในช่วงที่จิวยี่ออกแผนลวงทัพโจโฉว่าทัพของเล่าปี่ถอนตัวออกไปเนื่องจากมีโรคระบาดเกิดขึ้นและได้นำเกาทัณฑ์ไปด้วยประมาณหนึ่งแสนดอก ทำให้ทัพของซุนกวนต้องขาดแคลนลูกเกาทัณฑ์) จิวยี่จึงให้ขงเบ้งผู้ที่ยังอยู่ต่อ ได้หาลูกเกาทัณฑ์มาทดแทน โดยให้เวลา 7 วัน แต่ขงเบ้งกลับบอกว่าขอแค่ 3 วันก็พอ ถ้าทำไม่ได้ให้ตัดหัวตัวเองเสีย
ระหว่างนั้นจิวยี่ก็ให้ โลซก ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าแก่ของขงเบ้งคอยดูแลและจัดเตรียมหาในสิ่งที่ขงเบ้งต้องการ ในสองวันแรกขงเบ้งแทบไม่ทำอะไรเลย จนทำให้โลซกต้องเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วงว่า ขงเบ้งจะทำอย่างไร เมื่อได้ยินดังนั้นขงเบ้งจึงเอ่ยขอให้โลซกจัดเตรียมเรือไว้จำนวนหนึ่ง โดยให้มัดฟางเป็นรูปร่างทรงคล้ายคนหลายๆ คนติดไว้ที่ข้างเรือ ส่วนตัวเรือก็เอาฟางมาคลุมไว้ให้หนา และเตรียมทหารไว้ที่เรือเพื่อใช้บังคับเรืออย่างเดียว
เมื่อถึงคืนของวันที่ 3 ของการให้คำมั่นสัญญา ขงเบ้งพร้อมด้วยโลซกก็ขึ้นเรือพร้อมกับจัดเตรียมสุราอาหารเพื่อดื่มกินระหว่างทางที่เดินทางไปหาทัพโจโฉด้วยกำลังทางเรือเพียงแค่หยิบมือ เมื่อไปถึงบริเวณที่ใกล้ด้านหน้าทัพโจโฉ ระหว่างนั้นเป็นเวลาใกล้รุ่งสางทำให้เกิดไอหมอกหนาลอยจากผิวน้ำขึ้นสู่ด้านบน คลุมกองเรือของขงเบ้งไว้ ทำให้เห็นเรือแค่ลางลาง เมื่อยามของทัพโจโฉเห็นเข้าก็ตกใจ เพราะขณะนั้นขงเบ้งให้ทหารที่อยู่ในเรือช่วยกันส่งเสียงโห่ร้อง ลั่นกลองรบด้วย
เมื่อกองทหารของโจโฉได้ยินจึงพากันกรูเอาลูกเกาทัณฑ์นับหมื่นนับแสนยิงเข้าใส่กองเรือ ขงเบ้งให้ทหารหันด้านข้างของเรือเข้ารับลูกเกาทัณฑ์ที่ยิงเข้ามาจนเรือด้านนั้นไม่มีที่ว่างพอที่จะถูกยิงอีก ขงเบ้งก็ให้ทหารหันกลับข้างเรืออีกข้างเข้ารับจนไม่มีที่ว่างที่จะถูกยิงอีกเช่นกัน เมื่อลูกเกาทัณฑ์ติดอยู่ที่ข้างเรือหมดแล้ว ขงเบ้งจึงสั่งให้ถอนกองเรือกลับ แต่ยังไม่วายที่จะเยาะเย้ยโจโฉด้วยการให้เรือลำเล็กๆ ที่ถูกลูกเกาทัณฑ์พร้อมหุ่นฟางอีกหนึ่งตัวติดไปเพื่อแล่นไปตามธรรมชาติเข้าหาทัพโจโฉ เพื่อเป็นการบอกเป็นนัยว่าขงเบ้งทำอย่างไร
ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทัพของโจโฉเท่านั้นที่ต้องหน้าแตกและสูญเสียลูกเกาทัณฑ์นับแสนดอก จิวยี่เองก็ต้องเจ็บใจที่เอาชนะขงเบ้งไม่ได้แถมต้องเสียหน้าอีก
คุณสมบัติที่ขงเบ้งมี คือ
มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
ใช้วาจาได้หลักแหลม
รู้เขารู้เรา
ใช้คนได้ถูกกับงาน
สุขุม
มีความรอบรู้และลึกซึ้ง
โรเบิร์ต แอล. แคทซ์ กล่าวว่า ผู้บริหารต้องมีความสามารถ3 ด้าน ได้แก่
ทักษะในด้านเทคนิควิธี (Technical Skills) คือ ความสามารถในการทำงานต่างๆ ในหน้าที่ (เก่งงาน)
ทักษะในด้านมนุษยสัมพันธ์ (Human Skills) คือ ความสามารถในการปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา (เก่งคน)
ทักษะในด้านความคิดรวบยอด (Conceptual SkillS) คือ ความสามารถในการวางแผนแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยความคิดสร้างสรรค์ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแม่นยำ คือการมีวิสัยทัศน์ (Vision) หรือ เก่งคิด นั่นเอง