Eureka_au
SHA_กรุงเทพหาดใหญ่ อุทัยวรรณ ( อุ๊ ) สุวรรณพรหม( สกุลเดิม ) พนาโยธากุล

สอบทราย...หาดทราย (เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน)


สิ่งที่น้องๆได้สะท้อนให้พี่ฟังวันนี้ทำให้พี่เรียนรู้ว่า “ทุกคนมีเมล็ดพันธ์แห่งความดีงามในหัวใจ และบางอย่างที่เราเห็นอย่าพึ่งรีบด่วนตัดสินหรือประเมินค่า”

สอบทราย...หาดทราย

(เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) 

          ดิฉันทำงานในโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ ปีนี้ย่างเข้าเป็นปีที่ 11 ซึ่งก็ถือว่าอยู่มานานในระดับหนึ่งเนื่องจาก ทำงานในตำแหน่งระดับปฏิบัติการตั้งแต่เริ่มต้น จนกระทั่งเมื่อ 5 ปีที่แล้วผู้หลักผู้ใหญ่คงเห็นว่าในตัวเรามีแสงอะไรสักอย่างในตัวที่ทำให้เชื่อมั่นว่า จะนำพาวิชาชีพพยาบาลสร้างความเจริญให้แก่องค์กรได้  ฉันจึงได้รับมอบหมายภาระอันหนักอึ้งในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการพยาบาลให้มาเป็นแม่ทัพใหญ่ในการดูแลขบวนทัพ น้องๆพยาบาลและหัวหน้างานในสังกัดฝ่ายการพยาบาลทั้งหมด สิ่งแรกที่ได้ตั้งปณิธานไว้ในการเข้ามาทำงานก็คือ “ฉันต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะพัฒนาให้น้องๆ ของฉันเป็นพยาบาลและหัวหน้างานที่เก่งให้ได้เพื่อสร้างสรรงานบริการพยาบาลที่มีคุณภาพเพื่อส่งมอบผลงานที่ดีที่สุดให้กับผู้รับบริการ” เนื่องเพราะโรงพยาบาลของเราเปิดมาได้ย่างเข้าสู่ปีที่ 13  ถ้าเทียบกับอายุของคนก็คงอยู่ในช่วงวัยรุ่น ขบเผาะ และกำลังจะแตกเนื้อสาว ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ในองค์กรของเราจะมีหัวหน้างานที่มีอายุยังน้อยหน้าตาสดใสไร้เดียงสาแต่ว่ามีความเก่งกาจอยู่ในตัว(คริ..คริ..  )

ไม่ช้านานกลวิธีในการพัฒนาทั้งงานและคนก็ถูกงัดมาใช้ในโครงการต่างๆอย่างเมามันและ ไม่ลืมหู ลืมตา  โดยเฉพาะเครื่องมือคุณภาพขั้นเบบี๊ ตั้งแต่การทำกิจกรรม 5ส.  กิจกรรม CQI การตามรอยการดูแลผู้ป่วยกลุ่มหัวใจกลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน  กลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยที่มีภาวะ Sepsis รวมถึงการส่งเสริมสุขภาพผู้ป่วยและชุมชนในเรื่องของ Metabolic syndromeและอดบุหรี่  จนในปีล่าสุดเริ่มมีการใช้กระบวนการ Lean Process ในการพัฒนากระบวนการบริการหลัก ไม่ว่าจะเป็นการบริหารยา การจำหน่ายผู้ป่วย การส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ การพัฒนาการบริการผู้ป่วยนอก รวมถึงการบริการอาหารผู้ป่วยใน และสิ่งที่จะดำเนินการต่อคือการทำ R2R ในงานประจำ  โอแม่เจ้านี่ยังไม่รวมอีกบทบาทนึงของหัวหน้างานในโรงพยาบาลเอกชนที่ต้องทำหน้าที่ ในการคิดกลยุทธ์วางแผนการตลาดในการสร้างรายได้และลดค่าใช้จ่าย โดยที่คุณค่าการบริการยังคงเดิมหรือเพิ่มมากขึ้น  เพื่อที่เราจะมีกำไรในการหาเลี้ยงเจ้าหน้าที่อีกกว่าห้าร้อยชีวิตในองค์กรอย่างยั่งยืนเช่นกัน....

หัวหน้างานของเราจึงดูท่าจะแกกว่าวัยซะงั้น   เปลืองครีมบำรุงผิวหน้าหลายโข เวลาฉันมองหน้าน้องๆ หัวหน้างานทีไรก็จะพบความมันมะเหมื่อมและริ้วรอยบนใบหน้า บางทีรอบดวงตาก็หมองคล้ำยิ่งกว่าเจ้าช่วงช่วงและหลินฮุ่ยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ คงเพราะผู้จัดการฝ่ายสั่งให้น้องๆลุยและเดินหน้าอย่างเดียว...    นานวันเข้าทำให้ฉันสัมผัสได้ถึง ความคับข้องใจ ความอึดอัด ความเหินห่างและการมีช่องว่างระหว่างฉันและน้องๆ เริ่มถ่างขยายออกเรื่อยๆ ซึ่งเกิดขึ้นโดยที่มิได้ตั้งใจไม่ว่าจะเป็นฉันหรือตัวน้องๆหัวหน้างาน   อาจเป็นเพราะว่าเราไม่มีเวลาที่จะหันหน้ามานั่งทำความเข้าใจและต่างฝ่ายต่างฟังเหตุผล  ความต้องการหรือความรู้สึกของกันและกันอย่างจริงจัง ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

จนกระทั่งวันนึง ที่ฉันได้รู้จักเครื่องมือในการพัฒนาอีกตัวที่เขาเรียกว่า “สุนทรียสนทนา (Dialouge)” ซึ่งเป็น Soft science ตัวนึง ที่ไม่เคยนำมาใช้เลย(เพราะพึ่งเคยได้ยิน...ฮา)   ตลอดทั้ง 5 ปี ก็ล่อหาดทราย(Hard Science) มาใช้ในการพัฒนางานมาตลอด อะฮ้า...น่าลองนำมาใช้จริงๆ เมื่อได้ศึกษาวิธีการใช้เครื่องมือ แล้วสิ่งที่ฉันตั้งเป้าหมายไว้อันดับแรกคือ การใช้เครื่องมือตัวนี้ในการพัฒนาศักยภาพหัวหน้างาน ซึ่งสิ่งแรกที่ฉันอยากเรียนรู้คือ น้องๆของฉันคิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร เป็นอย่างไรกันบ้างในการปฏิบัติงานสำหรับของบทบาทหัวหน้างาน และในการทำกิจกรรมครั้งนี้สิ่งที่ฉันได้บอกกับตัวเองว่า ตัวฉันต้องเปิดใจให้กว้างและพร้อมที่จะฟังและรับข้อมูลทุกอย่างด้วยหัวใจที่เป็นกลาง  เพราะโดยปรกติคนเราจะชอบฟังในสิ่งที่ต้องการจะฟังเท่านั้น บางทีบางครั้งการฟังหรือการรับรู้ความจริงที่เราไม่เคยได้ยิน ได้เห็น มันเป็นสิ่งที่เจ็บปวดนั่นย่อมเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนสุภาษิตฝรั่งที่ว่า  “No pain No gain

ดังนั้นเวทีสุนทรียสนทนาหัวหัวข้อ Greatest Leader !  Yes you can . จึงได้เริ่มขึ้น ฉันต้องขอบคุณช่วงเวลาของเวทีนั้นจริงๆ ที่ทำให้ฉันได้รับฟังอย่างลึกซึ้งเพราะที่ผ่านมาเราฟังคนอื่นพูดก็จริง แต่เราไม่เห็นอะไรมากกว่าคำพูด เราฟังเพียงแค่ว่า เมื่อเธอพูดจบฉันจะได้พูดบ้าง  แต่วันนี้ เวลานี้ไม่ใช่ ฉันได้ฟังอย่างลึกซึ้งและได้เรียนรู้ในหลายสิ่งที่น้องๆ สะท้อนมาจากคำพูดที่พร่างพรูมาจากก้นบึ้งหัวใจของบรรดานางฟ้าหมวกขาว ที่สวมหมวกและวิญญาณของการเป็นหัวหน้างานที่เปี่ยมล้นด้วยความตั้งใจในการทำงานและเสียสละในสิ่งที่พวกน้องๆได้พยายามลงมือทำ สำเร็จบ้างหรือได้แค่ครึ่งๆกลาง ในบางเรื่อง      แต่เชื่อเถอะว่า ผลงานที่พวกน้องได้สร้างสรรและร่วมไม้ร่วมมือ ลงแรงช่วยกันทำในหลายๆสิ่งที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า พวกเราทำในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่า การทำสิ่งที่ผิดพลาด นั่นเพราะเราสัมผัสได้ถึงการที่องค์กรของเราได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา

 

ขอบคุณที่น้องๆได้สะท้อนว่า งานที่ได้รับมอบหมายโดยเฉพาะบทบาทหัวหน้างานยังขาดการเตรียมความพร้อมที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องก้าวเข้ามาหัวหน้างาน มีคู่มือบริหารแต่กลับใช้งานไม่ได้

ขอบคุณที่น้องๆได้สะท้อนว่างานบางงานที่น้องคิดว่าไม่ใช่บทบาทของหัวหน้างานทำไมเราต้องรับมาดูแลด้วยทั้งที่ภาระงานที่เรารับผิดชอบก็หนักอึ้งบนไหล่ทั้งสองข้าง

ขอบคุณที่น้องๆได้สะท้อนว่าการสื่อสารถ่ายทอดนโยบายที่พี่คิดว่า สื่อสารได้ดีที่สุดแล้ว มันก็ยังคงมีช่องว่างที่ทำให้ใครบางคนหรือหลายคนยังไม่เข้าใจ ถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่เราต้องการทำ

ขอบคุณที่น้องได้บอกว่าไอ้การเป็นหัวหน้านี่มันต้องรับผิดชอบทั้ง24 ช.ม. ต้องเปิดโทรศัพท์ไว้เพื่อรอรับปัญหาในหน้างานที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ขอบคุณที่น้องสะท้อนว่า น้อยครั้งที่น้องๆจะได้รับคำชมจากพี่ๆ เมื่อน้องต้องการแรงใจในการต่อสู้กับปัญหาที่ถาโถม

ขอบคุณที่น้องสะท้อนว่าเวลามีปัญหาในการทำงานไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครนอกจาก เพื่อนสนิทที่เป็นหัวหน้าต่างหน่วยงานที่คอยเป็นที่ปรึกษา กับพี่ผู้จัดการฝ่ายทำอย่างไรก็ไม่กล้า เดินเข้าไปหา(ซึ่งพี่คงต้องเอื้อมมือออกแรงให้มากกว่านี้เพื่อให้เข้าถึงน้องๆ)

ขอบคุณที่ได้แบ่งปันความทุกข์ของน้องหลายคน ที่มัวแต่เสียสละเวลาในการทำงานจน ในบางครั้งลืมกลับไปดูแลสามี และลูกที่บ้าน จนใครบางคนสูญเสีย หรือเกือบสูญเสียคนที่จะคอยยืนเคียงข้างน้องๆและให้กำลังใจน้องเมื่อยามน้องทุกข์หรือน้องสุขตลอดเวลาโดยไม่หวังผลตอบแทน

และขอบคุณที่น้องสะท้อนว่า ดีใจที่พี่เปิดโอกาสให้พูด พี่ฟังพวกเราพูด เปิดโอกาสให้น้องๆได้ระบายความทุกข์ที่มันกัดกร่อนจิตใจ  เหมือนน้องได้น้ำมารดหัวใจให้ชุ่มฉ่ำ

 

สิ่งที่น้องๆได้สะท้อนให้พี่ฟังวันนี้ทำให้พี่เรียนรู้ว่า ทุกคนมีเมล็ดพันธ์แห่งความดีงามในหัวใจ และบางอย่างที่เราเห็นอย่าพึ่งรีบด่วนตัดสินหรือประเมินค่า   

มีสิ่งหนึ่งที่พี่อยากบอกกับน้องๆว่า “เชื่อเถอะว่าน้องทุกคนเป็นคนคุณภาพระดับหัวกะทิขององค์กร ทุกคนล้วนมีความตั้งใจในการทำงานและพร้อมที่จะเรียนรู้ ทุกคนพร้อมที่จะทุ่มเทให้กับองค์กรไม่ว่าจะเหนื่อยยาก หรือลำบากแค่ไหน เราทุกคนพร้อมที่ร่วมกันฝ่าฟันไปให้ถึงจุดหมาย  น้องทุกคนเป็นส่วนผสมของทีมงานที่แข็งแกร่งที่สุดที่พี่มี สิ่งที่พี่ภูมิใจมากที่สุดในชีวิตการทำงานคือได้เห็นน้องมีพัฒนาการ มีการเรียนรู้และเติบโตในการทำงานพร้อมที่จะนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายเมื่อไม่มีพี่อยู่ ณ ที่นี้ ”

ขอสัญญาว่าสิ่งที่พี่ได้รับฟังอย่างลึกซึ้งในวันนี้มันจะไม่สูญเปล่า เพราะตอนนี้มีโครงการอีกพันแปดร้อยล้านที่ผุดขึ้นในหัวพี่(อิ...อิ...) เพื่อจะได้พัฒนาในสิ่งที่น้องๆได้สะท้อนมาให้พี่รับรู้ในวันนี้

ขอขอบคุณสอบทราย (Soft science) ที่ชื่อว่า สุนทรียสนทนา ที่ได้เป็นเวทีให้เราได้เอื้อนเอ่ยในสิ่งที่เราปรารถนาดีต่อกัน   และคงต้องใช้สอบทรายตัวนี้เป็นเครื่องมือที่จะใช้พัฒนาหัวหน้างานอย่างต่อเนื่องและพัฒนาองค์กรของเราเพื่อให้เกิดความสมดุลและยั่งยืนอย่างแท้จริง

พบกันใหม่ในเวทีสุนทรียสนนา “Greatest leader! yes you can ตอน เทคนิคการพัฒนาคุณภาพหน่วยงาน”  เร็วๆนี้นะค่ะ

                     แบ่งปันประสบการณ์ดีดีจาก                                                                             

                     ผู้จัดการสาวลูกสาม

 

คำสำคัญ (Tags): #eureka#hph
หมายเลขบันทึก: 362164เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2010 09:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 เมษายน 2012 15:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอเป็นกำลังใจให้พี่นิดหน่อย ผู้จัดการสาวลูกสามสู้ๆๆนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท