ว.วีระทักษ์
นายวีระศักดิ์ สุนทรวีราทักษ์

ครั้งหนึ่งเที่ยวเมืองกาญจน์ ว.วีระทักษ์


ครั้งหนึ่งเที่ยวเมืองกาญจน์ สุสานพันธมิตร ชัยภูมิสู่เมืองกาญจน์ ว.วีระทักษ์

 


ตอนที่ 1 บนเส้นทางชัยภูมิสู่กาญจนบุรี 

 

                                                วันที่หนึ่งมีนาคมปีสี่เก้า                                    ครูหลังเขาภูแลนคาพากันเที่ยว

                                ประชุมกันสามัคคีมีกลมเกลียว                                        ตกลงกันเป็นแห่งเดียวเที่ยวเมืองกาญจน์

                                                พอมาถึงตอนเย็นเย็นของวันนี้                         ทุกคนรี่เตรียมสิ่งของสนุกสนาน

                                สี่ทุ่มตรงรถจะออกอย่าช้านาน                                         เดี๋ยวจะมาไม่ทันการรถออกไป

                                                หน้าเจ้าพ่อนั้นคือจุดที่นัดหมาย                       อยากสบายมีที่นั่งหวังสดใส

                                ให้ไปก่อนทันเวลาช้าอยู่ใย                                                ที่นั่งเราเขาเอาไปจะเสียการ

                                                ครูเฉลิมวิทยาคนหารถ                                       งามหมดจดรถน่านั่งช่างประสาน

                                รถสองชั้นดูสวยเด่นเห็นตระการ                                    จอดรอคอยอยู่ไม่นานคนก็มา

                                                พวกเรานั้นมาขึ้นรถหาที่นั่ง                             ที่ว่างยังมีมากมายหลากหลายหนา

                                รีบจับจองหาที่นั่งเดี๋ยวเพื่อนมา                                        ได้เวลารถจะออกต้องรีบไป

                                                เมื่อมาครบกันหมดแล้วรถก็เคลื่อน พิธีกรคอยย้ำเตือนพวกเราไว้

                                จะไปโน่นจะไปนี่ไปที่ใด                                                  ให้บอกคนที่นั่งใกล้อย่าลืมตัว

                               

                                                รถวิ่งไปอีกไม่ไกลถึงบ้านค่าย                          แต่ครูสายมาไม่ทันมันปวดหัว

                                ต้องจอดรอเลยเวลาอย่าเมามัว                                          มาไม่ทันก็อย่ากลัวจะไม่รอ

                                                ครูสายใจพอมาถึงรถจึงออก                              วิทยา เขาจึงบอกครบแล้วหนอ

                                บรรยายความตามเส้นทางอย่างลออ                                วันพรุ่งนี้แล้วละหนอก็ถึงกาญจน์

                                                อีกไม่นานก็มาถึงจัตุรัส                                      ทางเขาจัดทำไว้ใหม่ให้ขนาน

                                จะได้เป็นทางสี่เลนตามต้องการ                                      ชัยภูมิคือ เมืองบ้านจะเจริญ

                                                หนองบัวโคกด่านขุนทดยันสีคิ้ว                      มิตรภาพรถแล่นลิ่วไม่ขัดเขิน

                                รถวิ่งเร็วถึงปากช่องไม่บังเอิญ                                         สระบุรียังเพลิดเพลินอยู่ไม่ไกล

                                                สระบุรีเมืองแห่งนี้คือหน้าด่าน                        รถวิ่งผ่านเข้าตัวเมืองชำเลืองไหม

                                ถ้าไม่ดูเดี๋ยวหลงว่าไปที่ใด                                 รถเลี้ยวขวาแล้วจะไปยังท่าเรือ

                                                ผ่านท่าเรือย่านบ้านหมอและดอนพุด             รถไม่หยุดวิ่งต่อไปใจไม่เบื่อ

                                ถึงอ่างทองเมืองแห่งนี้ที่จุนเจือ                                        วิเศษชัยชาญก็ยังเหลือใกล้เข้ามา

                                                อีกครู่หนึ่งก็ถึงเมืองสุพรรณ                             เป็นดินแดนมหัศจรรย์สวยหนักหนา

                                ทั้งบ้านเมืองแลถนนสะอาดตา                                         ช่างเจริญโอ่อ่าน่าประทับใจ

                                                แสนเสียดายที่ไม่ได้ลงไปเที่ยว                         เพราะเวลามันแสนเปลี่ยวไม่สดใส

                                ดึกสงัดปลอดผู้คนฉงนใจ                                                  รถก็รีบวิ่งต่อไปกลัวไม่ทัน


                               

 

 

                                                ชั่วครู่หนึ่งก็มาถึงเมืองอู่ทอง                            เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของสุพรรณนั้น

                                ทั้งอุดมและสมบูรณ์พูนสุขพลัน                                      อยู่ไม่ไกลกันนั้นเมือง  พนมทวน  

                                                ถึงแล้วเขตของเมืองกาญจนบุรี                        ดินแดนที่จะมาเที่ยวให้เสสรวล

                                มาไม่ถึงไม่ได้เที่ยวอย่าคร่ำครวญ                                    พนมทวน เลยเข้าไปใกล้เมืองกาญจน์

                                                โอ้นี่หรือคือเมืองกาญจน์ในความฝัน             เมืองสวรรค์ที่ขึ้นชื่อลือกล่าวขาน

                                เป็นเมืองที่อยากจะมานานแสนนาน                              เมื่อเห็นแล้วแสนสราญเบิกบานใจ

                                                ตีห้าครึ่งก็มาถึงที่ท่ารถ                                       ขนสิ่งของลงให้หมดอย่าไปไหน

                                ทำธุระให้เสร็จสรรพและว่องไว                                      ถึงหกโมงแล้วรถไฟก็จะมา

                                                ตอนที่หนึ่งขอจบไว้เพียงแค่นี้                          เพราะยังมีอีกหลายตอนติดตามหนา

                                ตอนที่สองตอนที่สามก็ตามมา                                         จะค้นหามาให้ได้คอยติดตาม                           

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่สอง  เส้นทางรถไฟสายมรณะ 


 

 

 

 

                                                เช้ามืดที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว                        สวยงามแท้แลขึ้นชื่อลือกล่าวขาน

                                จะถ่ายรูปก็ไม่ชัดรัตติกาล                                                  เดินเที่ยวชมอยู่ไม่นานก็จากไป

                                                คณะเราพร้อมกันที่สถานี                                  อีกไม่ถึงสิบนาทีประมาณได้

                                เสียงสัญญาณบอกย้ำเตือนต่อต่อไป                                เพราะรถไฟกำลังมาไม่ช้าครัน

                                                โหวด โหวด โหวด เสียงสัญญาณรถไฟมา   ช่างตื่นเต้นเน้นตื่นตาพาสุขสันต์

                                รีบขึ้นรถไปขบวนข้างหน้าพลัน                                      เดินตามกันไปหลายคนฉงนจริง

                                                ที่นั่งว่างมีมากมายหลากหลายแท้                    ไม่จอแจแม้แออัดชัดทุกสิ่ง

                                หาที่นั่งทั้งที่นอนที่พักพิง                                                  อีกไม่นานรถไฟวิ่งข้ามสะพาน

                                                ทั้งตื่นเต้นประทับใจบอกไม่ถูก                        ความพันผูกตอนสงครามเขาประสาน

                                เชลยสร้างใช้เวลาไม่ยาวนาน                                           จนสะพานนั้นสำเร็จเสร็จเรียบดี

                                                ขบวนรถต่อกันมาหลายขบวน                          ช่างยั่วยวนชวนเคลิบเคลิ้มเพิ่มสุขขี

                                ช่วงทางโค้งช่างสวยงามตามวจี                                       ได้พบเห็นในครั้งนี้ประทับใจ

                               

                                                สถานีที่ได้ผ่านมีหลายที่                                     มีแควใหญ่ วังปูนนี้ วังลานใส

                                ทั้งนากาญจน์ อีกวังเย็น กิเลนใน                                    วังตะเคียนโป่งเสี้ยวใหญ่สดใสดี

                                                ถึงบ้านเก่า ท่าตาเสือ เหลือวัดสิงห์                  รถก็วิ่งต่อต่อไปให้สุขศรี

                                เลาะหน้าผา ริมแม่น้ำ สุ่มสุ่ยนี้                                        ดูภูเขาสวยขจีสดสวยจัง

                                                มองลงไปเห็นข้างล่างเป็นแม่น้ำ                     เห็นสีครามไหลเอื่อยเอื่อยเรื่อยเหมือนขลัง

                                มีเรือนแพมาจอดอยู่ดูจังงัง                                                ช่างสดสวยงามเสียจังดั่งมนตรา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                                                รถไฟเลาะริมลำน้ำและภูเขา                            ประหลาดใจใช่ไหมเจ้าเขาสร้างหนา

                                สร้างอย่างไรเขาสร้างได้เสียวอุรา                                    ขนานไปกับหน้าผาน่ากลัวจริง

                                                บริเวณนี้มีชื่อว่าถ้ำกระแซ                 ผ่านมาแล้วโล่งอกแท้นั่งแน่นิ่ง

                                รถมาถึงด่านวังโพธิ์โอ่อ่าจริง                                           รถไฟจอดเที่ยบแน่นิ่งสิบนาที

                                                ผู้คนลงหาซื้อข้าวและซื้อของ                           ด้อมด้อมมองหาของกินอย่างเร็วรี่

                                มาขึ้นรถกันอีกครั้งนั่งดีดี                                                  รถเร็วรี่แล่นต่อไปไม่เหลียวมอง

                                                เกาะมหาสวรรค์นั้นเป็นอีกสถานี                    ช่องแคบมีที่วังใหญ่ให้หม่นหมอง

                                ผ่านลานมันฝุ่นคละคลุ้งทั่วทุ่งทอง                                 รถไฟลอดออกจากช่องบ้านพุพง

                                                ก็มาถึงสถานีที่สุดท้าย                                        มองเห็นป้ายเด่นชัดสุดรถหยุดส่ง

                                เป็นสถานีที่สุดท้ายทุกคนลง                                             แล้วเดินตรงรี่เข้าไปในร้านเรือน

                                                ร้านขายของที่ระลึกเขาจัดไว้                             มีหลายสิ่งหลายอย่างให้เปรียบเสมือน

                                อยู่ในเมืองหาซื้อได้ไม่แชเชือน                                       อย่านะเพื่อนอย่าซื้อหมดเดี๋ยวอดกิน

                                                เห็นรถบัสนั้นคันเก่ามารออยู่                           พวกเรารู้รีบขึ้นไปกันหมดสิ้น

                                จะพาไปเที่ยวกันต่อยังแผ่นดิน                                         ไทรโยคน้อยนั้นคือถิ่นที่จะไป

                                                มาถึงแล้วนามน้ำตกไทรโยคน้อย                    เดินเข้าไปใจละห้อยเป็นไฉน

                                เห็นน้ำตกคิดเสียว่าจะอยู่ไกล                                           เมื่อเห็นแล้วพาหัวใจสดชื่นจริง

                                                เป็นน้ำตกที่ไหลมาจากที่สูง                              ปลาเป็นฝูงล่องลอยผ่านสราญยิ่ง

                                สายน้ำเย็นเห็นเข้าแล้วสดชื่นจริง                                    สรรพสิ่งยิ่งรอบข้างสะอางตา

                                                รถพาเราวกกลับมาที่เมืองกาญจน์                   ดูสราญตระการเด่นเป็นหนักหนา

                                อีกไม่นานก็เข้าไปในพารา                                                กาญจน์บุรีเมืองโออ่าน่าอยู่จัง

                                                รถมาถึงสหกรณ์ครูของเมืองนี้                         พวกเรารี่เข้าเยี่ยมชมตามสมหวัง

                                เขาต้อนรับเลี้ยงอาหารอย่างจีรัง                                       อิ่มหนำแล้วก็ยังมีที่จะไป

                                                จบตอนนี้เป็นตอนที่จะพักผ่อน                        ทั้งเหนื่อยอ่อนแดดก็ร้อนเป็นไหนไหน

                                แล้วจะลงเข้าเรือนแพล่องน้ำไป                                      ในแม่น้ำนามแควใหญ่ให้ติดตาม   

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่สาม ล่องแพแม่น้ำแควใหญ่ 


 

                               

 

                               

                                                วันที่สองบ่ายโมงตรงมาถึงที่                            ท่าแพนี้ที่จะล่องไปถึงไหน

                                มีเรือนแพจอดริมน้ำอยู่ไม่ไกล                                         ในแม่น้ำนามแควใหญ่ใสจริงจริง

                                                ทุกคนเตรียมสัมภาระมาลงเรือ                        ช่างเหลือเชื่อเรือเหมือนบ้านหลังใหญ่ยิ่ง

                                มีสามหลังผูกติดกันไม่ให้ติง                                            แต่ละหลังสรรพสิ่งแยกย้ายกัน

                                                หลังที่หนึ่งเขาจัดไว้ให้ความบันเทิง                มีเครื่องเสียงเปิดกระเจิงดังสนั่น

                                ไว้สำหรับขับร้องเล่นเต้นมันมัน                                     ทั้งดีเจเธอและฉันสนุกจัง

                                                หลังที่สองเขาจัดไว้ให้พักผ่อน                         นั่งยืนนอนอีกเดินเล่นเอนแผ่นหลัง

                                อยากจะหลับอยากจะดื่มเพิ่มพลัง                                    ทั้งสองหลังเดินไปมาพาสบาย

                                                หลังที่สามมีคนครัวเขาจะได้                            ทำอาหารคอยไว้ให้มิตรสหาย

                                ให้พวกเราได้อิ่มท้องสบายกาย                                         จะไม่เบื่อและไม่หน่ายการล่องแพ

                                                ได้เวลาแพเริ่มเคลื่อนออกจากท่า                     ทุกคนนั่งตั้งตามาอย่าแสม (สะแหม)

                                บางคนเริ่มการวิงเวียนเจ็บดวงแด                                    อยากอ๊วกแท้แต่ก็นั่งตั้งทำใจ

                               

 

 

 

 

 

 

 

 

 

               

 

 

 

                                                เรือลากแพให้ผ่านด่านสถานที่                         แหล่งนี้มีหลายหลายแห่งเป็นไฉน

                                ผ่านชุมชนย่านวัดวาบ้านทรงไทย                                   ผ่านโรงเรียนวิทยาลัยไม่ไกลตา

                                                สองฟากฝั่งของแม่น้ำสมบูรณ์นัก                   ผู้คนจักรู้ทำกินแสวงหา

                                ผืนแผ่นดินถิ่นแห่งนี้มีราคา                                              เมืองท่องเที่ยวแห่งนี่หนาน่าจับจอง

                                                มาถึงท่าวัดแห่งนี้แม่ชีนั้น                                 เขาลือกันลอยน้ำได้ไม่จมหนอง

                                ที่วัดนี้เรียกวัดถ้ำมังกรทอง                                                ขึ้นจากแพแล้วจำต้องเดินต่อไป

                                                เห็นแม่ชีตัวอ้วนอ้วนลอยน้ำอยู่                        อยากจะรู้อยากจะดูเพราะสงสัย

                                ว่าแม่ชีนี้ลอยน้ำได้อย่างไร                                                พวกเราก็เดินเข้าไปไต่ถามกัน

                                                ท่านตอบว่าท่านนั้นใช้พลังจิต                          ที่นิมิตติดให้มาแก่ตัวฉัน                                   

                                ถ้าไม่มีจะลอยได้อย่างไรกัน                                             รู้เรื่องแล้วก็กลับพลันตามกันมา

                                                ลงแพต่อตามลำน้ำขึ้นไปอีก                             ไม่หลบหลีกจงตั้งใจใฝ่ฝันหา

                                ที่สวยงามอยากจะเห็นเป็นขวัญตา                                  จนมาถึงนัคราของกุญชร

                &n

หมายเลขบันทึก: 361856เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2010 16:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 17:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
นายมิ่งขวัญ ฤทธิสิทธิ์

อ่านแล้วรู้สึกเหมือนได้ไปเทียวด้วยเลยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท