กินนร สัตว์หิมพานต์ ถ่ายจากหาดทราย จันทบุรี

เก็บมาเล่าโดย ยรรยง สินธุ์งาม   11 พ.ค. 53

                    

 

กินนร จากหาดทราย จันทบุรี

          กินนร ตามตำนานสัตว์หิมพานต์ จะหมายถึง เทพที่มีรูปร่าง เป็นคนผสมกับนก ซึ่งจะมีหลายตระกูล  กินนร (กิน-นอน)  ใช้เรียก ผู้ที่เป็นเพศชาย  ถ้าเพศหญิง จะเรียก กินนรี(กิน-นะ-รี)
 
        บางตระกูล มีช่วงบนเป็นคน  จากเอวลงไปเป็น นก

    
                             ภาพกินนร                 ภาพกินนรี  ตระกูลที่เราพบเห็นบ่อย


           ภาพฮาร์ปี  กินนร ชาวตะวันตก มีปีกอยู่ด้านหลัง


 
                 บางตระกูลมีเฉพาะหัวเป็น นก ลำตัวเป็นคน

         
ภาพ เทพ อเมน-รา  (RA) เทพพระอาทิตย์ ของไอยคุปต์ อียิปต์ ก็เป็นตระกูล กินนร 


                 บางตระกูล เป็นเหมือนคน สามารถเก็บปีกเก็บหาง โดยการย่อส่วนลดขนาด ให้เล็กลง  หรือ ถอดเก็บไว้ ในรูปของ ปีกหางอันเล็กๆ หรือ แปลงรูปมาเป็นแหวน หรือเครื่องประดับ ติดไว้ตามตัว  เวลาที่บิน ก็ใส่ปีกใส่หาง หรือ เรียกปีกเรียกหางกลับคืนมา 

                 บางตระกูลมีหัวเป็นม้า ตัวเป็นคน  เรียก กิมบุรุษ หรือ อัศวมุขี ตามบันทึกในวรรณคดีอินเดีย 
       
                 บางตระกูล มีเฉพาะหัวเป็นคน ส่วนลำตัวเป็นนก บางคนเรียก นกหน้าคน 


                                 ตระกูล นกหน้าคน  หัวเป็นคน ตัวเป็นนก



             สำหรับ ภาพด้านล่าง ต่อไปนี้ เป็นอีกตระกูลหนึ่ง ของ กินนร ซึ่งไม่ได้ถูกบันทึกไว้ที่ไหน
แต่เป็น ตระกูลที่ มาถ่ายภาพคู่กับผม เมื่อคราที่ไป ชายทะเล จันทบุรี  เขามา 2 ตน เข้ามาแอ็คชั่น กับผมที่หาดทรายริมทะเล เวลาตี 1 กว่าๆ โดยผมตั้งระบบถ่ายอัตโนมัติ เพื่อบันทึกภาพตัวเอง 10 กว่าภาพ   ภาพที่ได้ในครั้งนั้นล้วนแสดงลักษณะ พลังวิญญาณ รูปกายทิพย์ ที่ปรากฏบนมิติโลก แกะรอยค่อนข้างลำบาก ด้วยเหตุนี้ ผมจึงยังไม่นำเรื่องราว ดังกล่าวมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งเกือบ 2 ปี ที่เก็บภาพเอาไว้
แต่เมื่อ เช้าวันเสาร์ ที่ 8 พฤษภาคม 2553 ( ขณะเผยแพร่เรื่องนี้ เป็นวันที่ 10 พ.ค. 2553 )  ขณะที่ผมกำลังล้างหน้า  กินนร ผู้เป็นหนึ่งในภาพถ่าย ในคืนวันนั้น มาปรากฏกายให้เห็น 

เขายิ้มและโค้งคำนับ หน้าตาเหมือนตาม ภาพสเก๊ตช์  มีตาขาว ตาดำ คล้ายมนุษย์ ผมสีดำ หยอง เป็นลอนใหญ่ ไม่ใช่ผมหยิก คิ้วสีดำ  ผิวในส่วนที่เป็นมนุษย์ มีลักษณะผิวเหลือง ไม่มีลูกกระเดือก  ไม่เห็นกระดูกไหปลาร้า รูปร่างด้านบนแสดงลักษณะเพศชาย แต่ไม่ได้มีกล้ามเนื้อ ใหญ่เหมือนชาวโลก แม้แต่กล้ามเนื้อหัวไหล่ ก็ไม่เห็น  หน้าตาบ่งบอกว่า เทียบได้กับ คนเราอายุไม่เกิน 18 ปี แต่เราบอกว่า มีอายุ 200 กว่าปีแล้ว ที่แดนทิพย์ 

ลำตัวด้านล่าง ก็เป็นลำลงไป อย่างในภาพ มีขนเส้นสีดำ เลื่อมมัน อย่างขนนกเพนกวิน แต่เป็นเส้นเล็กๆ  มองไม่เห็นส่วนเท้า ทั้งที่พยายามมอง แต่เห็นแค่นี้    



ลักษณะลำตัวก็เป็น ลอยๆ อย่างที่เห็น ไม่ได้ชี้ลงพื้น แต่อย่างใด พอถามถึงส่วนหาง เขาก็ไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มๆ แล้วก็หายไป


จึงนำมาบันทึกไว้ ให้ท่านผู้อ่านได้ทัศนา ร่วมกันครับ

(14 พ.ค. 53) วันนี้ นำภาพถ่ายบางส่วน ของกินนร 2 ตน ที่ชายหาด จันทบุรี  เมื่อปี 2551 ในภาพท่านเห็นในรูปลักษณ์ ร่างทิพย์ของวิญญาณจะไม่เป็นอย่างในภาพที่สเก๊ตช์  แต่ยืนยันว่าเป็น กินนร 







 
นำมาให้ชม 7 ภาพ การถ่ายภาพผมตั้งระบบถ่ายอัตโนมัติ เวลาประมาณ ตี 1 อยู่ริมชายหาด โดยลำพัง มีข้อน่าสังเกต ดังที่เห็นในภาพ ไม่ว่าจะยืน หรือ จะนั่งลง เทพกินนร จากหิมพานต์ทั้งสอง ก็จะอยู่ต่ำกว่า ศีรษะของผม   

ไม่มีอะไรพิเศษครับ เป็นข้อสังเกต ของนักวิจัย เฉยๆ  

ฉะนั้นใครๆ ที่ยังเข้าใจว่า เรื่องเล่าขาน เกี่ยวกับ นรก สวรรค์ เป็นเพียงนิทานกล่อมนอน ล่ะก้อ  มาถึง ณ จุดนี้แล้ว ผมว่า ควรปรับความคิดเห็นของตนซะที ทำความเห็นให้ตรง ดังที่พุทธองค์ ท่านสอน ไว้ ในมงคล 38  และใน มรรค 8  เรื่อง ความเห็นที่ตรง ที่ชอบ (สัมมาทิฐิ) 

การเห็นให้ตรง หมายถึง เห็นตามความเป็น จริง มันมีจริง ก็เห็นว่า มันมี  คำว่าเห็น ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการเห็น หรือรับรู้ โดย ตา หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส แต่รวมไปถึงการ รับรู้ด้วย ใจหรือจิต ด้วย   

เห็นที่ชอบ หมายถึง การหยั่งรู้ ทั้งปัจุบัน ทั้งย้อนหลัง และ มองไปข้างหน้า ว่า สิ่งนั้น เป็นประโยชน์ เป็นไปเพื่อความสงบ ไม่เบียดเบียน และเป็นสุขหรือนำไปสู่ความสุข  

ซึ่งการจะหยั่งรู้ได้ เราเรียกว่า ต้องมีปัญญา ไม่ใช่มีเฉพาะความรู้ ปัญญา มันจะประกอบ ด้วย 2 ส่วน คือ1.ความรู้ กับ 2.ประสบการณ์  บอกไม่ได้ว่า อะไรมาก่อน มาหลัง  บางอย่าง ประสบการณ์  เกิดขึ้นก่อน ความรู้ จึงตามมา     แต่บางอย่าง ความรู้ก็เกิดก่อน แล้วประสบการณ์ ค่อยตามมาทีหลัง  
และ ในบางครั้ง ความรู้และประสบการณ์ มาพร้อมกัน เราก็จะเรียก ปรากฏการณ์เช่นนี้ ว่า มี บารมี  แต่หนหลัง ซึ่งมักจะมองย้อนไปชาติ หนหลัง  ที่คนปกติหยั่งไม่ถึง  

และ ปรากฎการณ์อย่างนี้ คนบนโลกก็จะมักยกให้เป็น คุณสมบัติวิเศษ ก็เลยมองคนนั้นว่า เป็นผู้วิเศษ  เหนือกว่าผู้อื่น ก็พากัน ให้การนับถือ เคารพ ศรัทธา และ สุดท้าย ก็ บูชา  ท้าย สุดๆ จริงๆ ก็ไปจบลงที่การ ขอโชคลาภ ขอหวย ขอให้ช่วยเหลือ ต่างๆนานา 

เป็นความงมงาย  ซึ่งพบโดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะในศาสนาใดศาสนาหนึ่ง หรือลัทธิใดลัทธิหนึ่ง เป็นความงมงายในลัทธิ ในความเชื่อ ในพิธีกรรม ในความศรัทธา  พระพุทธองค์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็น ศีละพัทปรามาส(สี-ละ-พัด-ปรา-มาด)  แปลความตามตัว ว่า เป็นความงมงายในศีล  

ศีล คืออะไร ?       ศีล แปลว่า ปกติ    
ปกติ ในอะไร ?     ปกติ ในการดำรงอยู่
ดำรงอยู่ ในอะไร ? ดำรงอยู่ใน เพท
แล้ว เพท คือ อะไร ?  เพท คือ สภาวะใด สภาวะหนึ่ง ที่ เราตัดสินใจ จะดำรงอยู่ ในช่วง เวลาหนึ่งๆ 
เช่น เพทบรรพชิต คือ ผู้ถือครองตนเป็นนักบวช    เพทฆราวาส คือ ผู้ครองเรือน   เพทนักเรียน นักศึกษา  คือผู้ถือครองการศึกษาหาความรู้   ฯลฯ

การมีศีล  จึงหมายถึง การมีการดำรงอยู่ที่เป็นปกติในเพท นั้นๆ   ถ้า นักบวช ก็ต้องมีแนววิธีการดำรงตน ตามวิถีของนักบวช        ผู้ครองเรือนก็ต้องมีวิธี เพื่อดำรงตนให้เป็นปกติสุข ตามวิถี ผู้ครองเรือน 

ศีละพัทปรามาส จึงเป็น การถือปฏิบัติที่งมงาย ทำให้ตน ไม่เป็นปกติสุข  อย่างเช่น เวลา นี้ 5 โมงเย็น เลิกงาน ควรจะได้พักผ่อน อยู่ที่บ้าน สบายๆ

เกิดไป งมงายในความเชื่ออย่างหนึ่ง เขาประกาศข่าวว่ามีคอนเสิร์ท ใจก็ร้อนร่าว ตั้งแต่ได้ยินโฆษณา ทางทีวี ตั้งแต่เดือนที่แล้ว รอวันเวลา เพื่อจะไปชม ไปร่วม อาทิ เช่น รวมพลคนเสื้อสีสดๆ  
ก็วิ่ง แห่ ยกขบวน ไกลแค่ไหนก็มา  เพราะ ศรัทธา มันแรงกล้า !   นี่เป็นหนึ่งใน ความงมงาย !!

ทำให้ชีวิตการครองเรือน ของเราไม่เป็นปกติ   ทำให้ชีวิตการครองเรือนของผู้อื่นไม่เป็นปกติ  ด้วยเช่นกัน

การมีความเห็นให้ตรง มีความเห็นที่ชอบ นำความสุขมาสู่ ตนเองและสังคม 

เป็นมงคลแห่งชีวิต ดังที่พระพุทธองค์ ท่านตรัสเอาไว้ 
                       
  



และเมื่อใดที่มีข้อมูลชัดเจนยิ่งขึ้น จะมาอัพ ให้ชมเรื่อยๆครับ


กราบขอบพระคุณท่านผู้อ่านทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ


ยังมีต่อ...


            ยรรยง สินธุ์งาม

     [email protected]

[มาตายี]

สุดยอดมากๆค่ะ