ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข


แม้จะเครียดมากในระยะแรกในการเตรียมต้อนรับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เหลือไว้คือความทรงจำที่ดี เห็นการทำงานเป็นทีม เห็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ประสานการทำงานกันอย่างเต็มที่

วันที่ 13 พฤษภาคม  2553  เป็นวันพืชมงคลและเป็นวันที่ชุมชนคนบ้านกร่างได้ต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คุณจุรินทร์  ลักษณวิศิษฎ์ และคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกอบด้วย นพ.ไพจิตร์  วราชิต (ปลัดกระทรวง) ,นายวิจัย  อัมราลิขิต(กรรมการหลักประกันสุขภาพ) ,นพ.วินัย  สวัสดิวร (เลขาธิการ สปสช),นพ.ปัญญา  กีรติหัคยากร (ที่ปรึกษาอาวุโส สปสช) และผู้ใหญ่อีกมากมายหลายท่าน  สร้างความภาคภูมิใจให้กับชุมชนคนบ้านกร่างเป็นอย่างมากที่ได้รับเกียรติจากผู้บริหาร สปสช.เขตพิษณุโลกให้ป็นตัวแทนในการนำเสนอผลการดำเนินงานด้านกองทุนส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล พร้อมทั้งมอบนโยบายให้กับ อสม.ในเขตอำเภอเมืองพิษณุโลก ในการบริการสุขภาพที่เน้นการทำงานเชิงรุกร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสถานีอนามัย และยังให้กำลังใจกับอนามัยบ้านกร่างที่ได้รับการยกระดับเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในปี 2553 นี้

หลังจากที่ทราบกำหนดการเยี่ยมเราได้มีเวลาเตรียมการต้อนรับเพียง 5 วันเท่านั้น แต่เป็นช่วงเวลาที่เราได้เห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้ระดมสมอง กำลังและความคิดร่วมกัน งานนี้ อบต.บ้านกร่างได้รับมอบหมายให้เตรียมสถานที่และขั้นตอนพิธีการต้อนรับต่างๆ โดยมีคุณมนัส   มากบุญ (สสอ.มือง)เป็นผู้ประสานงานที่สำคัญ มีการประชุมเจ้าหน้าที่ทุกระดับตั้งแต่ สสจ. สสอ. สปสช. อบต.บ้านกร่าง ผู้นำหมู่บ้าน  อนามัยบ้านกร่าง อนามัยบ้านแหลมโพธิ์ ประธาน อสม. เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจ, มอบหมายหน้าที่ ให้การต้อนรับเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

การรอคอยท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อน นานครั้งจะมีลมเย็นๆพัดมาให้ได้ชื่นใจ มี อสม.มาร่วมให้การต้อนรับหลายตำบลเช่น ต.ไผ่ขอดอน, ต.พลายชุมพล, ต.จอมทอง และเจ้าภาพ ต.บ้านกร่าง รวม 300 คน มีเจ้าหน้าที่จากอนามัยใกล้เคียง  ผู้นำชุมชนทุกหมู่บ้านและประชาชนทั่วไป จนกระทั่งเวลา 11.30น คณะได้เดินทางมาถึงเยี่ยมชมกิจกรรมกองทุนฯ  เดินพบปะพูดคุยกับผู้ที่มาต้อนรัย  ก่อนกลับปลูกต้นดอกปีบไว้เป็นที่ระลึกเนื่องในวันพืชมงคล ประจำปี 2553

เป็นความเหน็ดเหนื่อยที่สร้างความสุขและความภูมิใจให้กับคนทำงานสาธารณสุขในตำบลบ้านกร่างและผู้นำชุมชน แม้จะเครียดมากในระยะแรกในการเตรียมต้อนรับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่เหลือไว้คือความทรงจำที่ดี  เห็นการทำงานเป็นทีม เห็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ประสานการทำงานกันอย่างเต็มที่ แม้จะมีเหตุการณืไม่สงบทางการเมือง แต่คนไทยได้แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อให้งานนั้นประสบความสำเร็จ....นี่แหละคือน้ำใจของคนไทยที่อยู่คู่สังคมไทยไปตลอดกาล

หมายเลขบันทึก: 361263เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2010 13:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะ

น่าภาคภูมิใจกับคนบ้านกร่างนะคะ  เป็นชุมชนที่เข้มแข็งและเป็นแบบอย่างแก่ท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น ๆ  ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจค่ะ

ขอบคุณครูคิม...ที่มาเป็นกำลังใจให้กัน

น่าภูมิใจกับคนบ้านกร่างนะหนูรัตน์ แต่ที่สำคัญคือพัฒนาการมีส่วนร่วมกับภาคประชาชนให้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จะไม่มีใครดูแลสุขภาพได้ดีเท่าคนบ้านกร่างเลย

เสียดายที่อาจารย์ไม่อยู่ร่วมต้อนรับ...ท่าน สสอเมืองวิ่งเตรียมงานซะเหนื่อเลย

ขอแสดงความยินดีและชื่นชมคุณมนัส มากบุญ เป็นอย่างยิ่งครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท