ธรรมะอารมณ์ดี ๐๐๒ : เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนพฤติกรรม

แค่ลองเปลี่ยนวิธีคิด...........ก็จะพิชิตความสุข

ความคิดนี้แหละ

ที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้มนุษย์เป็นทุกข์อยู่ตลอดเวลา 

ถ้าเราสลัดความคิดแบบเดิมๆ ออกได้ก็เท่ากับว่าความสุขเล็กๆ

กำลังเริ่มต้นเกิดขึ้นแล้ว

อาตมาได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง 

เขาพูดถึงนักวิทยาศาสตร์  ว่า

คนที่นอนใต้ต้นแอปเปิ้ล เซอร์ไอแซกนิวตัน 

ตอนที่เขาใต้ต้นแอปเปิ้ล ลูกแอปเปิ้ลตกลงมา 

เขาเกิดความสงสัย  สงสัยว่ามันตกลงมาได้อย่างไร 

ความสงสัยเปลี่ยนกลายมาเป็นความพยายามในการแสวงหาคำตอบ 

และความสงสัยนี้แหละทำให้เกิดทฤษฎีแรงโน้มถ่องของโลก

ที่กล่าวมานี้ก็คือ  กำลังจะบอกท่านทั้งหลายว่า

บางทีการที่เป็นคนที่ช่างสงสัย  ช่างสังเกต  ช่างถาม

ก็เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมอย่างกว้าง 

ดังที่นักวิทยาศาสตร์  นักคิด  นักเขียน 

ได้สร้างผลงานไว้ในโลกนี้อย่างมากมาย 

ย้อนมาถึงความคิดของเราบ้าง 

อาตมาก็มานั่งคิดอยู่ว่า  เอ่  ถ้าหากเหตุการณ์นั้นมาเกิดที่บ้านเรา 

วันนั้นไม่ใช่เซอร์ไอแซกนิวตัน ที่นอนใต้ต้นแอปเปิ้ล

แต่เป็นใครสักคนหนึ่งนอนใต้ต้นมะม่วง  ลูกมะม่องตกลงมา

คำแรกที่เราจะได้ยิน ก็คงเป็นคำว่า “พริกน้ำปลาหวานอยู่ไหน” 

แต่ถ้าหากว่าเราคิดแบบมองโลกในแง่ดี หรือ positive Thinking

เหมือนกับตอนที่แล้ว วันที่ลูกแอปเปิ้ลตกลงมา 

อาจจะไม่เกิด ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของโลก

แต่อาจจะมีสูตรพริกน้ำปลาหวานที่กินกับแอปเปิ้ลได้อร่อยที่สุดในโลกก็ได้  

เลยอาจจะกลายเป็นโอท็อปหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์

ของประเทศที่ส่งออกต่างประเทศเลยก็ได้   

ฉะนั้นถ้าทุกคนอยากจะมีความสุขในชีวิตทุกๆเวลา

เราก็ต้องรู้จักคิดแบบมองโลกในแง่ดีบ้าง 

ไม่ใช่ว่าเห็นอะไรก็ไม่พอใจไปเสียซะทุกอย่าง 

อันนั้นก็ไม่เข้าท่า  อันนี้ก็ไม่ถูกต้อง 

คนนั้นทำก็ไม่ถูก  คนนี้ก็ไม่ได้เรื่อง 

โดยเฉพาะในองค์กรหรือหน่วยงานที่ทุกคนทำงานอยู่ 

คงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า 

“ทำเร็วก็หาว่าล้ำหน้า  ทำช้าหาว่าอึดอาจ

โง่ก็ถูกตวาด  พอฉลาดก็ถูกระแวง

ทำก่อนบอกไม่ได้สั่ง  ทำทีหลังบอกไม่รู้จักคิด  ”

 อยากจะยกตัวอย่าง  ในเรื่องของการคิดแบบมองโลกในแง่ดี  เช่นเรื่องนี้ 

ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของคนเมืองกรุง หรือในหัวเมืองใหญ่ๆ

ที่มีการจราจรติดขัดอย่างมาก 

เวลาที่คุณขับรถไปกลางถนนพอถึง ๔ แยกไฟแดง

รถของเราเป็นคันสุดท้ายที่ไปไม่ทันไฟเขียว 

ติดไฟแดงเป็นคันแรก  ส่วนมากเราก็จะคิดว่า

“โธ่  อะไรเนี้ยอีกแค่คันเดียวเอง” 

“ทำไมคันหน้ามันขับช้าจังว่ะ”  (นั้นโทษคนอื่นอีก) 

“อะไรปล่อยแค่ ๓ คันเนี้ยนะ”  

เกิดความทุกข์ไหมครับความคิดแบบนี้  ถ้าอยากมีความสุข 

ก็ลองเปลี่ยนวิธีคิดแบบไหม่  ลองคิดว่า 

“แหมดีเหมือนกัน ครั้งต่อไปเราเป็นคันแรก”

แค่คิดแบบนี้  ก็มีความสุขแล้วใช่ไหมครับ (กำลังยิ้มหละซิ)

นั้นไงความสุขเกิดขึ้นแล้ว

เห็นไหมไม่ยากใช่ไหมครับการสร้างความสุข