สุดขอบแดนเหนือ


เชียงใหม่-เชียงราย-แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก

วันเดินทาง  บินลัดฟ้าไปมืองเหนือ เจ้า....

มาถึงเชียงใหม่ ก็ต้องมานี่เป็นที่แรก  พระธาตุดอยสุเทพ (ตอนนี้จากในช่วงบูรณะ จ้า!!!)

สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1929 ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์เม็งราย พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการะบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่ ด้วยการทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคลเพื่อเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐาน พอช้างมงคลเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ มันก็ร้องสามครั้ง พร้อมกับทำทักษิณาวัติสามรอบ แล้วล้มลง พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ขุดดินลึก 8 ศอก กว้าง 6 วา 3 ศอก หาแท่นหินใหญ่ 6 แท่น มาวางเป็นรูปหีบใหญ่ในหลุม แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุลงประดิษฐานไว้ จากนั้นถมด้วยหิน แล้วก่อพระเจดีย์สูง 5 วา ครอบบนนั้น ด้วยเหตุนี้จึงห้ามพุทธศาสนิกชนที่ไปนมัสการสวมรองเท้าใน บริเวณพระธาตุ และมิให้สตรีเข้าไปบริเวณนั้น ในปี พ.ศ. 2081 สมัยพระเมืองเกษเกล้า กษัตริย์องค์ที่ 12 ได้ทรงโปรดฯให้เสริมพระเจดีย์ให้สูงกว่าเดิม เป็นกว้าง 6 วา สูง 11 ศอก พร้อมทั้งให้ช่างนำทองคำทำเป็นรูปดอกบัวทองใส่บนยอดเจดีย์ และต่อมาเจ้าท้าวทรายคำ ราชโอรสได้ทรงให้ตีทองคำเป็นแผ่นติดที่พระบรมธาตุ

ในปี พ.ศ. 2100 พระมหาญาณมงคลโพธิ์ วัดอโศการาม เมืองลำพูนได้สร้างบันไดนาคหลวงทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปสักการะได้สะดวกขึ้น และกระทั่งถึงสมัยครูบาศรีวิชัย ท่านได้สร้างถนนขึ้นไป โดยถนนที่สร้างนี้มีความยาวถึง 11.53 กิโลเมตร

มาเมืองเหนือ สิ่งที่เห็นมากที่สุดคือ วัด ซึ่งวัดส่วนใหญ่มีความสวยงาม มีสถาปัตยกรรมเป็นแบบล้านนา  เช่น  วัดมณเฑียร 

เป็นวัดที่มีประวัติที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเ ชียงใหม่ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๑๙๗๔ เดิมชื่อ “วัดราชมณเฑียร”เพราะพระเจ้าติโลกราชและพระมหาเทวี กษัตริย์ผู้เป็นมหาราชองค์สำคัญสมัยราชวงศ์มังราย ทรงโปรดเกล้าให้รื้อเอาพระตำหนักหอราชมณเฑียรส่วนพระ องค์หลังหนึ่งมาสร้างเป็นวัดเพื่อถวายแด่ พระมหาญาณคัมภีร์มหาเถระและคณะ จึงพระราชทานนามว่า “วัดราชมณเฑียร” ต่อมา เรียกว่า “วัดมณเฑียร” วัดมณเฑียรนี้นับว่าเป็นวัดแรกที่พระเจ้าติโลกราชได้ สร้างขึ้นในรัชสมัยที่พระองค์ทรงครองราชาภิเษกเป็นพร ะเจ้าแผ่นดินเชียงใหม่

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

เป็นวัดเก่าแก่ในจังหวัดเชียงให ม่ มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ ราชกุฏาคาร วัดโชติการาม สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์ลำดับที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้น่าจะสร้างในปี พ.ศ. 1934 วัดเจดีย์หลวงเป็นพระอารามหลวงแบบโบราณ มีการบูรณะมาหลายสมัย โดยเฉพาะพระเจดีย์ ที่ปัจจุบันมีขนาดความกว้างด้านละ 60 เมตร เป็นองค์พระเจดีย์ที่มีความสำคัญที่สุดองค์หนึ่งในเชียงใหม่
วัดเจดีย์หลวงสร้างอยู่กลางใจเมืองเชียงใหม่ ซึ่งแต่เดิมถือว่าเป็นศูนย์กลางทางการปกครองของอาณาจ ักรล้านนา ตั้งอยู่เลขที่ 103 ถนนพระปกเกล้า ตำบลพระสิงห์อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ภายในวัดประมาณ 32 ไร่ 1 งาน 27 ตารางวา

 

พระธาตุเจดีย์หลวง

ถือว่าเป็นพระธาตุที่มีความสูง ที่สุดในภาคเหนือ หรือล้านนา คือ สูงประมาณ 80 เมตร เมตร ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างประมาณด้านละ 60 เมตร ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 20 ถือว่าเป็นเจดีย์ที่มีความสำคัญที่สุดของเมืองเชียงใหม่

หลังจากทัวร์วัดในเชียงใหม่จนอิ่มใจแล้ว  เราก็เดินทางต่อไปแม่สาย จ.เชียงราย เพื่อจะข้ามไปพม่า แถวท่าขี้เหล็ก

นอนพักที่แม่สาย 1 คืน โรงแรมสวยงาม แค่ 590 บาท เอง

ข้ามไปท่าขี้เหล็ก ใช้บริการทัวร์ by สามล้อ

ไปเจดีย์ชเวดากองจำลอง ที่ท่าขี้เหล็ก

กลับมาไทย เข้าเชียงราย แวะถ่ายรูปหอนาฬิกาที่เมืองเชียงรายรู้สึกว่าจะออกแบบโดย อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ตอนกลางคืนจะมีการแสดง แสง สีเสียง ด้วย

จบการเดินทางด้วยภาพนี้ค่ะ!!

 

credit : YutPhuket      http://yutphukut.wordpress.com/2010/04/10/chiangmai-myanmar/

หมายเลขบันทึก: 360575เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2010 09:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 12:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะน้อง vi

สวยมากเลยเมืองเหนือ

แต่หน้าเสียดายตอนนี้คนเที่ยวน้อยลงค่ะ

วิจะไปจริงๆเมื่อไหร่จ๊ะ อย่าลืมชวนเค้าด้วยหละ

เค้าจะกลับกรุงเทพเดือนหน้าแล้วนะ

คิดถึงเพื่อ ศ ว ทุกคนเลยนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท