หนีอังกฤษ


วางแผนไม่ได้ทำก็ยังดีกว่านิ่งดูดาย

มาเล่าต่อถึงความพยายามหาวิธีเดินทางออกจากลอนดอนไปโรม โดยมีเวลาไม่ตำ่กว่า 80 ชมว่ามีทางเลือกกี่ทาง

หลังจากรู้ว่าได้ตั๋วออกจากโรมบ่ายสองโมงวันพุธ ผมคำนวณดูแล้ว ถ้าถึงบ่ายวันจันทร์ ยังหาทางออกจาเกาะอังกฤษไม่ได้ด้วยวิธีไดก็ตามจะไปไม่ทันขึ้นเครื่องเที่ยงวันพุธที่โรม

ในสถานการณ์ปกติเราสามารถออกจากเกาะอังกฤษโดยรถไฟ eurostar ไปปารีสตอนสายๆ แล้วจับรถไฟด่วนเหมือนกันจากปารีสไปโรมได้ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 24 ชม

แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติ เนื่องจากรถไฟด่วนเต็มหมด แถมที่ปารีสยังมีการผละงานประท้วง รถไฟทำงานแค่ 70%

ผมลองเข้าไปดูตารางรถไฟไม่ด่วน พบว่าที่เร็วที่สุดคือไปผ่านบรัสเซลที่เบลเยี่ยม แล้วต่อรถไฟไปทางเยอรมัน ผ่านสวิส แล้วค่อยลงไปโรม แบบนี้ต้องออกจากเบลเยี่ยมตอนกลางคืนสี่ทุ่ม และจะไปถึงโรมราวเช้าอีก 2 วันต่อมา คืออยู่บนรถไฟรวมกันเกิน 24 ชม แค่จากเบลเยี่ยมไปถึงโรม โดยเปลี่ยนรถไฟ 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย

ถ้าโชคร้ายเส้นทางนี้ก็เต็ม (เพราะไม่ได้มีเราฉลาดอยู่คนเดียวในเมื่อเส้นทางหลักเต็ม และทุกคนก็อยากไปโรม) อาจต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรก็ไม่รู้ เพราะผมลองเช็คดูอีกเส้นสั้นๆ คือจาก โรมไปมิลาน ซึ่งปกติจะมีรถไฟวิ่งทุก 40 นาที ปรากฏว่าในวันพฤหัส (ผมเช็ควันจันทร์) ที่จะถึง ทุกเที่ยวเต็มหมด เหลือแต่พวกหวานเย็น ปกติรถไฟเร็ว (ไม่ใช่ด่วน) ที่วิ่งระหว่างสองเมืองนี้ ใช้เวลา 1 ชมนิดๆ แต่หวานเย็นต้องใช้เวลา 3-5 ชม ขึ้นกับว่าไปตรงกับสายไหน นี่แค่ระยะทางไม่ถึง 300 กม ถ้าต้องวิ่งด้วยความเร็วนี้เป็นระยะ 1400 กม ซึ่งเป็นระยะระหว่างปารีสไปโรม ก็ลองคิดดูเอาเองว่า จะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะถึงโรม

ผมวางแผนว่า ถ้าผมหาตั๋วรถไฟออกจาก ลอนดอน ต่อไปทาง เบลเยี่ยมเพื่อไปถึงโรมไม่ได้ ภายในก่อนเที่ยงวันจันทร์แปลว่าผมไม่ควรเสี่ยงออกจากลอดอน เพราะไม่งั้นมีสิทธิติดกลางทางรอกินข้าวลิง สู้รอลุ้นอยู่ลอนดอนจะดีว่า

นั่นเป็นแผนที่วางในบ่ายวันเสาร์หลังจากตรวจสอบข้อมูลวางแผนทุกอย่างแล้ว ที่จริงก็น่าจะมีเวลาพอควร เพราะจากวันเสาร์ถึงบ่ายวันจันทร์ มีเวลาถึงเกือบ 40 ชม การซื้อตั๋วแค่นั้นน่าจะไม่ยาก เจ้ากรรมว่าเวลาวิกฤตทุกอย่างที่เคยง่ายก็ยากไปหมด

ผมอยู่ลอนดอน บอกไปทางพรรคพวกที่เจนีวา พร้อมกับภริยาที่อยู่เมืองไทย พยายามหาทางซื้อตั๋วกันคนละเส้นทาง ไม่มีใครประสบความสำเร็จ จะเรียกว่าเน็ตล่มก็ได้ เพราะพอเลือกทุกอย่างเสร็จ คลิกว่าจะซื้อมันก็หายไปเฉยๆ จะไปซื้อตั๋วที่ร้านขายตั๋ว ก็ปิดหมดในวันอาทิตย์ เปิดอีกทีวันจันทร์ และถ้าจะซื้อให้ชัวร์ว่าได้ไปถึงโรมด้วย ก็ต้องไปเข้าคิวที่ร้านเดียว อยู่ที่ เลขที่ 1 ถนน regent ใกล้กับ piccadilly circus จนป่านนี้ยังท่องได้ไม่ลืมเลยครับ เพราะไปเดินหาอยู่นาน

ไปถึงก็ต้องเป็นลมเพราะคิวยาวเฟื้อย เป็นอันหมดสิทธิหนีจากอังกฤษไปโรมให้ทันวันพุธ แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่า ไม่ได้ไป แต่ได้พยายามก็ดีแล้ว อีกอย่างก็ได้ความรู้มากมายว่าด้วยทางหนีทีไล่ในยุโรป คราวหน้าตกยากก็คงไม่อับจน

แผนแรกล้มเหลวก็ใช่ว่าไม่มีแผนสำรอง นั่นเป็นคติพจน์ของตัวเอง มาแต่ไหนแต่ไร

ส่วนภริยาผมเชื่อแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่ใช่ทุกครั้ง ครั้งนี้เผอิญเธอเอาจริงกว่าผม

ระหว่างดำเนินการตามแผนแรก ก็มีอีกสองแผนคู่กันไป

แผนแรกคือซื้อตั๋วใหม่สำหรับวันหลังวันพุธ ซึ่งภริยาผมซื้อที่เมืองไทยได้วันศุกร์ออกจากโรม แต่เป็นสายการบินการ์ตาร์ เพราะการบินไทยเต็มหมดไปถึงวันจันทร์

ส่วนผมก็ขอความช่วยเหลือมาที่อาจารย์ที่เมืองไทย ที่พอจะมีคนรู้จักอยู่การบินไทย ให้ช่วยจัดการกับตั๋วของผมให้ยืดหยุ่นได้มากขึ้น ย้ายไปขึ้นที่อื่นได้ โดยไม่ต้องซื้อใหม่ ซึ่งได้ทราบต่อมาว่า ทางการบินไทยอนุญาตให้ตั๋วทุกใบในยุโรป เปลี่ยนไปขึ้นที่ไหนก็ได้ โดยไม่ต้องซื้อใหม่ แต่ต้องมีที่นั่ง

และพอเช้าวันจันทร์ก็ทราบว่าการบินไทยลอนดอนจะหารถเมล์พาผู้โดยสารไปขึ้นเครื่องที่เสปน เพราะสนามบินที่นั่นเปิดตั้งแต่วันอาทิตย์เหมือนที่โรม แต่ใกล้กว่าโรมเล็กน้อย แต่สิทธินี้ใช้ได้เฉพาะกับคนที่มีวีซ่า เช็นเก็น ที่เข้าสหภาพยุโรปได้เท่านั้น

ผมพบผู้โดยสารหลายคนที่สำนักงานการบินไทยที่ไม่มีวีซ่า แต่พร้อมที่นั่งรถราว 14 ชมต่อเนื่องไปเสปน แทนจะอยู่รอที่ลอนดอน และทางการบินไทยก็พยายามติดต่อให้สถานฑูตไทยในลอนดอนประสานขอวีซ่าเป็นกรณีพิเศษให้ผู้โดยสารที่จะนั่งรถไปด้วย

บ่ายวันจันทร์ สถานฑูตประสานสำเร็จ แต่เย็นวันจันทร์ การบินไทยก็ประกาศเลิกล้มแผนดังกล่าว เพราะนึกไม่ออกว่าจะพาคนราว 300 คนนั่งรถเมล์กว่า 14 ชม โดยไม่มีการหยุดไปถึงเสปนแล้วส่งขึ้นเครื่องได้ยังไง

แต่ผมก็อดชมคนคิดแผนนี้ไม่ได้ว่า อย่างน้อยก็แสดงว่ามีการวางแผนไม่ยอมอยู่เฉยๆ รอไปเรื่อยๆว่าเทื่อไรพระเจ้าจะปราณี ความยืดหยุ่นของการบินไทยที่กรุงเทพฯ กับ การวางแผนทางเลือกไปเสปนของทีมที่ลอนดอน น่าจะพอชดเชยกับความนิ่งดูดาย ช่วงก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

ผมมาทราบข้อมูลภายหลังว่าความที่ผู้คนพากันแห่ไปทางโรมเป็นหลัก สนามบินโรมแทบแตก และเจ้าหน้าที่การบินไทยที่โรม ไม่ว่าจะเป๋็นสำนักงานในเมืองและที่สนามบินทำงานกันไม่มีเวลานอน หลายวันติดต่อกัน ส่วนคนที่ตกเครื่องที่ กทม ก็มีคนดูแลดีพอสมควร ไม่เหมือนคนที่ค้างอยู่ที่แฟรงค์เฟิร์ต http://gotoknow.org/file/nhfsch/view/549467

หมายเลขบันทึก: 358711เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2010 00:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน 2012 17:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท