สมอง


ดนตรีพัฒนาสมอง

ดนตรีพัฒนาสมอง

วันนี้ได้เปิดอ่านเรื่องเกี่ยวกับสมองซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของมนุษย์พบเรื่องเกี่ยวกับดนตรีกับการพัฒนาสมอง ของแพทย์หญิงจันทร์เพ็ญ   ชูประภาวรรณ   ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง  ก็เลยนำสิ่งดี ๆ มาฝากไว้ให้ทุกท่านได้อ่าน

สมองของลูกน้อยควรที่จะได้รับการพัฒนาให้มากที่สุด แต่วิธีที่ช่วยทำให้สมองได้รับการพัฒนาสำคัญกว่าซึ่ง "ดนตรี" เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อยได้เช่นกัน เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากงาน                 "เอนฟา สมาร์ท มัม" ที่จัดโดยผลิตภัณฑ์เอ็นฟาโกรกับนิตยสารบันทึกคุณแม่ เสวนาเพื่อพัฒนาสมองลูกน้อยในหัวข้อ "Smart Symphonies ดนตรีกับการพัฒนาสมอง"

        แพทย์หญิงจันทร์เพ็ญบอกว่า เสียงดนตรีเสียงแรกของลูกคือ เสียงหัวใจของคุณแม่ โดยรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสของผิวหนัง และการรับคลื่นเสียงที่ส่งผ่านมดลูกไปยังน้ำคร่ำ รวมทั้งเวลาที่แม่พูด ร้องเพลง ฟังเพลงแบบเบาๆ สบายๆ จะทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายและช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ของลูก ส่วนเพลงที่ไม่ควรฟังคือเพลงที่มีจังหวะแรงๆ อย่างเพลงแร็พ หรือฮิพฮอพ เพราะเสียงเบสเสียงกลองจะดังมาก ทำให้หัวใจของแม่เต้นแรงขึ้นทำให้มีผลกระทบไปถึงลูกด้วย

      "จากงานวิจัยหลายชิ้น พบว่าดนตรีช่วยให้สมองของเด็กมีการพัฒนา รู้จักคิดอย่างมีเหตุผล ทั้งในด้านภาษา การคิดคำนวณ และวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะดนตรีคลาสสิคเพราะมีจังหวะและท่วงทำนองที่ช่วยให้สมองของเด็กมีการพัฒนาได้รวดเร็ว ยิ่งให้เด็กฟังตั้งแต่ช่วงแรกเกิดถึงสามปีจะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ พัฒนาทั้งด้านอารมณ์ จิตใจ สติปัญญา และความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้เพลงกล่อมเด็กสามารถใช้ได้ และยังช่วยเพิ่มความรักความผูกพันระหว่างแม่ลูกได้เป็นอย่างดี" นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกอีกว่า พ่อแม่ต้องใช้เวลาอยู่กับลูกในช่วง 6 ขวบแรก อย่าให้เด็กเรียนรู้จากทีวี ซีดี หรือคอมพิวเตอร์ พ่อแม่เป็นผู้ที่ให้การเรียนรู้ดีที่สุด  "อย่างน้อยก่อน 2 ขวบ   พ่อแม่ต้องเลี้ยงลูกเอง และทางที่ดีพ่อแม่ต้องดูแลลูกจนกระทั่งจบประถมศึกษา อย่าฝากความหวังไว้กับคุณครู เพราะครูมีหน้าที่ต่อยอด แต่พ่อแม่มีหน้าที่สอนเบสิคพื้นฐานทุกอย่าง ทั้งการใช้กล้ามเนื้อ ยืน เดิน วิ่ง การช่วยเหลือตัวเอง สอนวินัยพื้นฐาน ที่สำคัญอย่าลืมดนตรีเพราะช่วยพัฒนาสมองทุกส่วน เริ่มต้นลูกจะเริ่มจำแนกเสียง เข้าใจความแตกต่าง เลียนแบบ และคิดได้เอง พอสอนดนตรีไปนานๆ ลูกจะเริ่มคิดทำนองเองได้ด้วย เป็นส่วนช่วยสร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น "ดนตรี" ดีกว่าการดูทีวีหรือเล่นคอมพิวเตอร์"

หมายเลขบันทึก: 358344เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2010 23:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท