ตอนเป็นเด็กเคยได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่เล่าให้ฟังว่า เห็ดนั้นเป็นพืชที่บอบบาง ตามธรรมชาติเห็ดจะงอกด้วยการแทรกทะลุผ่านพื้นดินขึ้นมา เพื่อเป็นประโยชน์แก่สรรพสิ่งบนพื้นพิภพ เป็นอาหาร เป็นตัวเร่งย่อยสลาย เป็นดอกไม้ประดับโลก
หากโชคดี ได้เกิดในพื้นดินที่ชุ่มชื้น ดินร่วนซุย ก็แทงยอด งอกดอกออกมาได้ โดยรูปทรงไม่เสียหาย เติบโตแข็งแรง สีสันต์สวยงาม
หากโชคร้าย ไปเกิดในผืนดินที่แห้งแล้ง แข็งกระด้าง มีแต่กรวด หิน ที่ยากแก่การงอกงาม เห็ดก็จะมีลักษณะพิกลพิการ ไม่สมประกอบ รูปทรงบิดเบี้ยว ไร้สวยงาม
เผลอๆบางดอกก็แห้งเหี่ยวและร่วงโรยตายไป ปราศจากโอกาสในการงอกงาม
กะลา เป็นรูปทรงครึ่งวงกลม ที่เปลือกหนา แข็ง ถ้าจับคว่ำลงบนผืนหญ้า ก็กั้นแสง กั้นลม กั้นอากาศ ทำให้พืชพันธุ์ไม่สามารถเติบโตในกะลาที่ครอบคลุมคว้ำอยู่
กะลาคว่ำจึงไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับใช้ในการเพาะพันธุ์พืชใดๆ
ถึงกระนั้น ก็ยังมีที่ที่หนึ่ง
ที่เห็ดเจ้ากรรม ดันโชคร้าย ไปเกิดในกะลาที่คว่ำอยู่
โศกนาฏกรรมจึงเกิดขึ้น
เป็นปรากฏการณ์
แม้จะพยายามแทงยอด ยืดต้น เพื่อพลิกกะลาให้หงายขึ้น
แต่ถึงแม้จะใช้ความพยายามสักเท่าไร ด้วยแรงจำกัดเท่าที่เห็ดน้อยมี
ก็ไม่สามารถพลิกกะลาได้
อนิจจา....เห็ดน้อย
หวังที่จะงอกออกมาเพื่อทำประโยชน์แก่สรรพสิ่งทั้งมวล
ให้สมกับได้ชื่อว่าเป็นส่วนประกอบหนึ่งของระบบนิเวศน์
แต่ชะตากรรมของเห็ดน้อย
ต้องเกิด...และ...ตาย ไปอย่างเงียบเหงา
และไร้การเหลียวแล
เพราะโชคร้าย ที่ไปเกิดอยู่ใต้
เห็ดน้อยคงนึกน้อยใจในโชคชะตา
ได้แต่คิดในใจว่า
"รู้งี้เกิดเป็นกบดีกว่า เพราะกบสมัยนี้เขาอยู่นอกกะลากันแล้ว"
ไม่มีความเห็น