การที่เราไม่ได้ในสิ่งที่หวัง ก็เป็นความทุกข์
การที่ได้สิ่งเราหวังมาแล้ว แต่เราไม่สามารถรักษาสิ่งนั้นให้อยู่กับเราได้ตลอดไป ยิ่งสร้างความทุกข์ให้เรามากยิ่งกว่าเสียอีก
บางครั้งเราก็รู้ว่า..สิ่งที่เราต้องการ เราไม่ควรจะได้ เพราะเราไม่มีคุณสมบัติพอ แต่เมื่อได้มาแล้ว ก็สร้างความทุกข์ให้เรามิใช่น้อย (ไม่เจียมตัว)..
บางครั้งก็คิดว่า..การที่เราฝันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือ ไกลเกินจะอาจเอื้อม เป็นการท้าทายตัวเอง และพิสูจน์ว่าเราก็พร้อมที่จะไปให้ถึงสิ่งที่ฝันนั่น (ฝันแล้ง ๆ )...เช่นกัน
บางครั้งก็คิดว่า.. คนอื่นทำได้ เราก็ทำได้เช่นกัน แม้จะมีความสามารถน้อยกว่าคนอื่นเขา แต่เราก็ฝึกฝนได้ และไม่มีใครเก่งมาแต่เกิด(ปลุกใจตัวเอง)...
บางครั้ง...สิ่งเราคิดล่วงหน้า กลัวปัญหาต่าง ๆ นนานา พอได้ลงมือทำจริง ๆ สิ่งที่กลัวไม่เห็นมีมา สิ่งที่มีมาก็ไม่เห็นน่ากลัว...แปลกจริง..หรือว่าเราหลอกตัวเอง และกลัวเงาตัวเอง..แต่ที่แน่ ๆ เราก็ทุกข์ไปแล้ว
ความคิดจึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราจะก้าวไปข้างหน้า หรือจะถอยหลัง การบริหารความเสี่ยงด้านความคิดก็คงจะต้องมีเช่นกัน เพื่อจะได้เตรียมการล่วงหน้าว่าความคิดเช่นนี้ จะเกิดความเสี่ยงกับชีวิตหรือไม่ คิดไปแล้วจะเกิดประโยชน์แก่ตนเอง และผู้อื่นหรือไม่ และขณะเดียวกัน จะทำลายความเป็นตัวตนของเราอย่างไร...จะได้ไม่ต้องทุกข์ไง
คนเราส่วนมากจึงกลัวสิ่งต่าง ๆ ที่เราคิดเอาเอง จนทำให้เราไม่กล้าจะทำอะไร และบางคนถึงกับเป็นโรคประสาท โรคกระเพาะ โรคเครียด และโรคอื่น ๆ อีกตามมา...สร้างทุกข์เอง..
มีอยู่วันหนึ่ง ได้มีพระคุณเจ้าท่านหนึ่งได้เทศนาไว้ว่า...ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี...และก็มีญาติโยมไปร่วมอบรมกับท่านในแต่ละวันมีจำนวนมาก พอทุกข์ขึ้นมาทีไร ก็ให้ท่องคาถาว่า...ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี...ปรากฎว่ามีหลายท่าน หายจากโรคภัยไข้เจ็บดังกล่าว
เพียงท่องคาถาแค่นี้ ก็แก้โรคได้ แต่ต้องทำบ่อย ๆ ...น่าคิด
สวัสดีค่ะท่านผอ.ทนายความ
สบายดีที่ป่าคอนกรีตนะคะ ... อ่านแล้วดีจังเลยค่ะ
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ ... ยิ้มไว้ ไม่ทุกข์ สนุกดี ...
ขอบคุณและฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
นอกจากยิ้มแล้ว การรู้จักปรับเปลี่ยนความคิดของเราก็สามารถช่วยได้ด้วยนะคะ ^-^
ยิ้มมากไปเขาก็ว่าบ้านะคะ ผอ.