ทำไมคุณครูปฐมวัยจึงเป็นคำตอบสุดท้าย
เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการจัดกระบวนการเรียนการสอนที่พัฒนาสมองซึกช้าย - ขวา ของนักเรียน มีอยู่ช่วงหนึ่งวิทยากรท่านคงจะเห็นว่าพูดเรื่องวิชาการมากเกินไปจะทำให้ผู้เข้ารับการอบรมเบื่อหน่ายได้ ท่านเรื่องมาเล่าให้ฟัง ท่านบอกว่าเป็นเรื่องของตัวท่านเองครับ ผมฟังแล้วเลยอยากมาถ่ายทอดต่อครับ เรื่องมีอยู่ว่า
ท่านมีเพื่อนสนิทมากอยู่คนหนึ่ง วันหนึ่งได้พบกันโดยบังเอิญและพูดคุยกันตามประสาเพื่อนเก่า ท่านเลยถามเพื่อนว่า "ถามจริง ๆ เถอะ ก่อนแต่งงานเอ็งมีแฟนกี่คน" เพื่อนอมยิ้มก่อนตอบว่า "พูดแบบเปิดอกเลยนะ ข้ามีแฟน 4 คน"
"คนแรกเป็นคนผิวขาว อวบ สวย กระเดียดไปทางหมวย มีอาชีพเป็นพนักงานเก็บเงินในศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง เป็นคนน่ารัก ข้าพยายามจีบอยู่นาน ไปซื้อของที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ทีไร พอจะไปจ่ายเงินตรงช่องจ่ายเงินที่เธอนั่งประจำอยู่ เธอจะยกป้าย "ช่องนี้ไม่ว่างเชิญช่องถัดไป" ทุกครั้ง ไปที่ไรจะเป็นแบบนี้ทุกคน ทำให้ข้าคิดว่าหากแต่งงานกับเธอแล้ว เธอพูดว่า "ช่องนี้ไม่ว่าง เชิญช่องถัดไป" ทุกครั้ง ข้าจะทำอย่างไร เพราะข้าไม่ชอบช่องถัดไป ข้าจึงตัดสินใจเลิก"
"คนที่สองเป็นนักกรีฑาผิวดำแดง คมขำ แข็งแรง บึกบึนสมกับเป็นนักกรีฑา เรารู้จักกันตอนที่จังหวัดจัดแข่งขันกรีฑา เธอได้รางวัลเหรียญทอง ข้าเลยไปแสดงความยินดีด้วย ตั้งแต่นั้นเราก็เจอกันเรื่อยมา ทุกครั้งที่เจอกันเธอจะพูดว่า "เธอจะต้องรักษาสถิติ จะต้องพยายามทำสถิติให้ดีขึ้น จะตั้องทำลายสถิติให้ได้" เจอกันทีไรเธอจะพูดคำนี้ทุกครั้ง ทำให้ข้านึกถึงตัวเอง ถ้าแต่งงานกับเธอ เธอให้ข้ารักษาสถิติ จะต้องทำลายสถิติ และทำสถิติให้ดีขึ้น แล้วข้าจะไหวเหรอ ข้าคงต้องตายแน่ๆ พออายุมากขึ้นหรือทำงานมาเหนื่อยๆ อย่าว่าแต่ทำสถิติให้ดีขึ้นเลย แค่รักษาสถิติก็คงทำไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าแต่งงานกับเธอคงไปไม่รอดแน่ จึงตัดสินใจเลิกกับเธอดีกว่า"
"คนที่สามดีขึ้นมาหน่อยเธอเป็นพยาบาล ข้ารู้จักเธอตอนไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เธอเป็นคนผิวขาว รูปร่างสมส่วน หน้าตาคมขำ จมูกโด่ง คิ้วดก ใบหน้ารูปไข่ จัดว่าเป็นคนงาม ครั้งแรกที่ข้าเห็นคิดว่าคนนี้แหละ ใช่เลย ข้ามีโอกาสไปเยี่ยมบ้านเธอ พ่อแม่ของเธอดูไม่รังเกียจข้า ทุกครั้งที่ไปบ้านเธอ เธอเป็นคนขยันมาก ทำงานบ้านทุกอย่างเองหมด ข้าเคยถามเธอว่าทำไมไม่จ้างคนมาทำความสะอาดล่ะจะได้เบาแรง เธอตอบว่า ไม่มั่นใจว่าคนอื่นจะทำได้สะอาดพอสมดังใจเธอ แถมพูดต่อว่า ถ้าหากแต่งงานแล้วคงมีคนมาช่วยทำความสะอาดด้วยอีกแรง แต่ต้องเป็นคนรักความสะอาดเช่นเดียวกับเธอ ไม่ใช่สะอาดแค่ที่อยู่อาศัยเท่านั้น โดยเฉพาะความสะอาดของร่างกายต้องพิถีพิถัน อวัยวะทุกส่วนของร่างกายต้องสะอาดหมดจด เพื่อไม่ให้เกิดโรคติดต่อในครอบครัว เมื่อได้ยินดังนั้นข้าจึงคิดว่าข้าคงต้องลำบากแน่ เพราะบางครั้งเหนื่อยจากการทำงานหรือเมาหัวราน้ำมาถึงบ้าน น้ำท่าไม่ได้อาบ กระโดดขึ้นเตียงซุกหัวนอนเลย หากแต่งงานกับเธอแล้วมีการเข้มงวด ตรวจความสะอาดร่างกายทุกครั้งก่อนนอน ข้าคงอึดอัดและไปด้วยกันไม่ได้แน่ ข้าจึงตัดสินใจเลิกกับเธอ"
"คนที่สี่ข้ารู้จักเธอโดยเพื่อนแนะนำ ข้ายังจำได้เลยตอนเจอกันครั้งแรก เธฮพูดว่า ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ข้าสบตาเธอครั้งแรกหัวใจแทบหยุดเต้น เธอพูดจาไพเราะอ่อนหวาน คบกันไม่นานเธอก็ชวนไปเยี่ยมเธอที่โรงเรียนที่เธอสอนอยู่ เธอเป็นครูสอนเด็กปฐมวัย ข้าประทับใจที่เธอพูดกับลูกศิษย์ว่า "ดีมากค่ะ เก่งมากค่ะ ทำอีกสิค่ะ นะค่ะ ฯลฯ" เธอมีคุณสมบัติเพียบพร้อมที่จะเป็นคู่ชีวิตของข้า หลังจากครองรักกันมานานก็ตัดสินใจแต่งงานกัน"
ปัจจุบันเพื่อนของท่านมีพยานรักด้วยกัน 4 คน กำลังอยู่ในวัยที่น่ารัก เพื่อนของท่านบอกว่าภูมิใจมากที่มีคู่ชีวิตเป็นครูปฐมวัย เพราะเธอจะบอกว่า ดีมากค่ะ เก่งมากค่ะ ทำอีกสิค่ะ นะค่ะ เป็นประจำ
นอกจากนี้ท่านยังบอกอีกว่า สำหรับใครที่ยังไม่แต่งงานจะใช้วิธีในการพิจารณาคู่ชีวิตก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ
ความเห็น (2)
ก๊ากๆคิดได้ไงเนี่ย ฮ่าๆๆๆ สรุปว่าครูปฐมวัยดีที่สุดนะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆ
