บุญรอด
นาย บุญรอด บุญรอด แสงสว่าง

ฟ้าทะลายโจร : ต้านไข้หวัด 2009


ฟ้าทะลายโจร : ต้านไข้หวัด 2009

ฟ้าทะลายโจร : ต้านไข้หวัด 2009
A-2009 H1N1

 

          นายแพทย์มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  กล่าวว่า    จากสถานการณ์การเกิด
โรคระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่  ชนิดเอเอช1เอ็น1 ทั่วโลกตื่นตัวเฝ้าระวัง    สำหรับประเทศไทยโดยกระทรวง
สาธารณสุขได้มีมาตรการดำเนินการเฝ้าระวังโรคดัง   กล่าวอย่างเข้มงวด    ประชาชนก็ควรจะดูแลป้องกันสุขภาพ
ตนเองไม่ให้เป็นโรคหวัด   ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนอย่างเพียงพอ  ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและ
สบู่

          การใช้สมุนไพรไทยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะสมุนไพรไทยมีศักยภาพในการป้องกันรักษาโรคหวัดได้ คือ
สมุนไพรฟ้าทะลายโจร  มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Andrographis paniculata Wall. Ex Nees เป็นพืชสมุนไพร
ที่ปลูกง่าย และพบทั่วไปในประเทศไทย มีสรรพคุณ แก้ไข้ แก้เจ็บคอ และแก้อาการท้องเดิน   โดยสามารถใช้ได้ทั้ง
ต้นสดหรือแห้ง

          ปัจจุบันฟ้าทะลายโจรถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติและได้มีการกำหนดมาตรฐาน       เพื่อการควบคุม
คุณภาพของวัตถุดิบไว้แล้วในตำรามาตรฐานยาสมุนไพรไทย (Thai Herbal Pharmacopoeia) 

          จากรายงานการศึกษาทางคลินิกว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่มีประสิทธิผลดีในการลดไข้ แก้อัก
เสบ  แก้เจ็บคอ  แก้ปวดศีรษะ  รักษาโรคไซนัสอักเสบและใช้ได้ผลดีในผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัดและเจ็บคอแม้แต่ใน
ประเทศปัจจุบันจีนมีการใช้ยาเม็ดฟ้าทะลายโจรรักษาโรคทางเดินหายใจส่วนต้นติดเชื้อ      และรักษาต่อมทอนซิล
อักเสบเฉียบพลัน

          ความปลอดภัยของสมุนไพรฟ้าทะลายโจรนั้น ได้มีการศึกษาแล้วพบว่า ปลอดภัย  สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
และป้องกันการเกิดอันตรายต่อเซลล์ตับ (Hepatoprotective effect) ได้อีกด้วย จึงควรส่งเสริมให้มีการนำสมุนไพร
ฟ้าทะลายโจรมาใช้ป้องกันหรือบรรเทาอาการหวัดเบื้องต้น

          ประชาชนสามารถใช้ผงฟ้าทะลายโจรแห้งขนาด 1 กรัมหรือบรรจุ 2 แคปซูลๆ ละ 500 มิลลิกรัม รับประทาน
วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน เพื่อแก้ไข้หรือเจ็บคอ     สำหรับข้อพึงระวังในการใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจร
คือหญิงมีครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรใช้    นอกจากนี้ในบางรายอาจเกิดอาการแพ้ ซึ่งอาจทำให้จุกเสียด มึนงง เบื่อ
อาหาร หรือหากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการชาหรือแขนขาอ่อนแรง

          เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เป็นไวรัสชนิดหนึ่ง โดยจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา   ซึ่งการไอและจาม
แต่ละครั้งทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไปได้ไกลถึง 1-5 เมตร     และลอยปะปนอยู่ในอากาศทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิด
มีโอกาศได้รับเชื้อ ดังนั้นผู้ป่วยควรใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่นในที่สาธารณะเพราะจากงานวิจัยของ
องค์การอนามัยโลกพบว่า  การใส่หน้ากากอนามัยสามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อที่ติดมากับละอองฝอยได้ถึง
ร้อยละ 80

          สำหรับประชาชนทั่วไปไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย        เพียงพกผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ติดตัว
หากพบคนไอหรือจามให้นำผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ปิดปากและจมูกของตนเอง เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส
ได้      ทั้งนี้เชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นเชื้อที่ตายง่าย  สามารถใช้น้ำผงซักฟอกเช็ดทำความสะอาดหรือทำลายเชื้อได้
ดังนั้นเมื่อใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าเช็ดหน้าแล้ว นำมาซักด้วยผงซักฟอกแล้วสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก

 ที่มา http://203.172.142.10/information/beta/nanasara003.htm

หมายเลขบันทึก: 356517เขียนเมื่อ 6 พฤษภาคม 2010 20:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 11:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท