รำลึกถึงน้องผู้จากไป (memorial service)


หนึ่งกิจกรรมดีดี bereavement support โปรเเกรมที่มีคุณค่าต่อจิตใจเเละจิตวิญญาณของผู้อยู่ข้างหลัง

วันศุกร์ที่ 30 เมษายนที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งสำหรับการจัดกิจกรรมรำลึกถึงน้องผู้จากไป กิจกรรมนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำหรับโปรเเกรมการดูแลเพื่อให้พ้นผ่านระยะเศร้าโศกจากการสูญเสีย( bereavement care program) ที่ฉันได้พัฒนาขึ้นนับตั้งเเต่ทำงานอยู่ที่หอผู้ป่วยเด็กมะเร็ง 3ง วันนี้เป็นครั้งเเรกสำหรับการจัดกิจกรรมนี้  กับบทบาทใหม่คือพยาบาลหน่วย Palliative care กลุ่มผู้ป่วยเเละครอบครัวในครั้งนี้เป็นกลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง เราเริ่มกิจกรรมตั้งเเต่ 9 โมงเช้า โดยมีครอบครัวสูญเสียเข้าร่วมกิจกรรม 2 ครอบครัว เเละทีมการพยาบาลหอผู้ป่วยเด็ก 3ง คือพี่สุดารัตน์ เเละน้องเอลผู้ช่วยจากโครงการ Best Holistic care for children with cancer  ทีมนำกุมารฯ ตอนเเรกน้องอาร์มนักสังคมสงเคราะห์จะมาช่วย เเต่ติดภารกิจ ส่วนพี่เกดก็ติดภารกิจเช่นกัน

 

         ฉันเริ่มกิจกรรมด้วยการกล่าวทักทายและแนะนำตัวพร้อมทั้งเเจ้งวัตถุประสงค์ของการทำโครงการเเละกิจกรรมในวันนี้ และสอบถามสารทุกข์สุกดิบครอบครัวสูญเสียว่าตอนนี้แต่ละคนเป็นอย่างไรเริ่มด้วยแม่น้องเอส(นามสมมุติ) ลูกเสียชีวิตเมื่อ 16 มีนาคม 2553 นับถึงวันนี้เดือนกว่าแล้วความรู้สึกคือยังเศร้า แต่ดีขึ้นกว่าช่วงแรกมาก ตอนนี้มีคิดถึงบ้าง บางครั้งคิดแล้วก็ร้องไห้คนเดียวคิดถึงช่วงที่พาเขามารักษาที่โรงพยาบาล มีลูกทั้งหมด 3 คนตอนนี้เหลือ 2 คนลูกที่เหลือก็เป็นกำลังใจให้แม่มีชีวิตต่อไป เมื่อคืนฝันถึงฝันว่าลูกบวชเป็นพระธุดงค์มาหา ตั้งเเต่ลูกเสียยังไม่เคยฝัน ฉันเลยบอกว่า "ลูกคงจะไปดีเเล้ว"  ฉันหันไปถามพ่อบ้าง แล้วคุณพ่อเป็นอย่างไร พ่อบอกว่า "ผมก็ยังเศร้ายามคึดกะคึด ยามไม่คึดก็พออยู่"  พ่อน้องเอสสื่อสารกับกลุ่มเป็นภาษาท้องถิ่นซึ่งหมายถึง เวลาคิดถึงลูกก็รู้สึกว่าคิดมาก เเต่เวลาไม่คิดก็รู้สึกว่าตัวเองอยู่ได้ และจากที่ฉันมองดูพ่อจากภายนอกก็เป็นจริงบางทียังมีท่าทีเหม่อลอย  แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อเอสบอกกับกลุ่มคือ “แต่ผมก็พยายามที่จะเข้มแข้งไม่ร้องให้ ไม่เท่าแม่”  2 คนก็คอยให้กำลังใจซึ่งกันและกันตลอดมา

 

บรรยากาศขณะพูดคุยเเลกเปลี่ยนเเละให้กำลังใจ

ขณะเดียวกันฉันก็พยายามค้นหา grief

ของเเต่ละครอบครัวว่าเป็นอย่างไร อยู่ใน stage ไหน

พี่เขียว พี่สุดารัตน์หัวหน้าหอผู้ป่วยเด็ก 3ง

ที่เคยร่วมกันดูแลผู้ป่วยทั้ง 2 คน มา join ด้วย

มีครอบครัวผู้ป่วยเด็กมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษามาร่วมเข้ากลุ่มด้วย

 

 ส่วนอีกครอบครัวหนึ่งเป็นครอบครัวน้องเจ(นามสมมุติ) คุณยายมาคนเดียว แม่และพ่อเลี้ยงไปทำงานที่กรุงเทพแล้วหลานเสียชีวิตวันที่ 25 มีนาคม 2553 คุณยายบอกว่ายังให้แม่โทรหาป้าเกดเรื่องการ ถอด สายสวนปัสสาวะ เพราะกลับมาเสียที่บ้านป้าเกดยังได้แนะนำวิธีถอดสาย (ตอนนั้นป้าเกดอยู่ที่ประเทศลาว) วันที่เสียชีวิตพ่อที่ไม่ค่อยได้มาดูแลเพราะกินเหล้า จนกระทั่งทิ้งครอบครัวและน้องไป วันที่ทำพิธีฌาปนกิจ พ่อกับย่าก็มาร่วม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมาสนใจใยดี  คิดว่าน้องคงดีใจที่พ่อมาส่งเขา 

         ฉันได้ถามถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหลังจากที่น้องเสียชีวิตคืออะไร  แม่น้องเอสบอกว่าตอนนี้ต้องเป็นหนี้อยู่ประมาณหนึ่งแสนบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายและหนี้สินที่พอกพูนมาตั้งแต่เริ่มรักษาน้องและผลกระทบที่เกิดขึ้นมากๆก็คือด้านจิตใจ เคยนอนกอดลูก เคยนอนด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูกแต่วันนี้ต้องนอน 2 คน ส่วนครอบครัวน้องเจ ผลกระทบที่เกิดก็คือเรื่องจิตใจ ด้านเศรษฐกิจไม่มีปัญหา

   หันมาทางครอบครัวผู้ที่กำลังต่อสู้กับมะเร็งร้ายครอบครัวเเรกเป็นเด็กวัยรุ่นรักษากันมาตั้งเเต่เด็กเลยนับถึงปัจจุบัน 15 ปีเเล้วสิ่งที่คุณเเม่บอกกับกลุ่มก็คือ"ตอนนี้ได้เเต่สู้เพราะโรคกลับมาอีกต้องมานั่งนับหนึ่งให้ยาใหม่ เเต่ลึกๆก็มีความกลัวว่าวันหนึ่งจะต้องเป็นตัวเองที่ต้องสูญเสีย รู้สึกว่าเเม่น้องเอสกับยายน้องเจนั้นผ่านจุดนี้ไปเเล้ว คงโล่งๆ เเต่เราไม่รู้เมื่อไหร่ เเต่ตราบใดที่ลูกยังมีหวัง ลูกยังหวังว่าจะหาย หวังว่าจะได้เเต่งงานมีครอบครัว เราก็ยังไม่สิ้นหวัง"

  

         ส่วนอีกหนึ่งครอบครัวก็เช่นเดียวกันรักษามาเเล้ว 6 ปี พ่อ-เเม่ไม่เคยมาช่วยดูแลมีปู่กับย่าที่พาหลานมารักษาตลอดระยะเวลา 6 ปีต้องต่อสู้กับสภาวะเศรษฐกิจ ถ้าจะมาพบหมอมีเฉพาะค่ารถก็มา ขากลับค่อยว่ากัน บางครั้งอยู่โรงพยาบาลต้องอดข้าว เพราะกลัวไม่มีค่ารถกลับบ้าน " อดไว้ไปกินบ้านเรา" ในกลุ่มต่างเเลกเปลี่ยนเเละ Share ความรู้สึกซึ่งกันเเละกัน เเละสิ่งหนึ่งที่ฉันได้เห็นเเละเรียนรู้ก็คือการเข้าใจเเละเห็นอกเห็นใจกัน เเละให้กำลังใจกันในกลุ่มการพูดคุยผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จึงได้เวลาสรุปกิจกรรมกลุ่มวันนี้ สุดท้ายฉันฝากทุกคนว่าขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ขอบคุณทุกคนที่มาในวันนี้ ขอบคุณที่ทำให้เราได้เรียนรู้ได้ทำสิ่งที่ดี

เสร็จจากการพูดคุยจึงได้พาครอบครัว

ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้น้องที่หอผู้ป่วยสงฆ์อาพาธ

 

ฉันนำกล่าวถวายสังฆทานเเด่พระสงฆ์ที่ท่านอาพาธเเละมารักษาที่หอสงฆ์

พร้อมกล่าวคำอุทิศส่วนกุศลเเก่น้องทั้งสองคนผู้ล่วงลับ

 

ถวายดอกบัวเเดงที่เเม่น้องเอสนำมาจากบ้าน

ที่หนองบัวลำภู อนุโมทนา สาธุ......

 

 

ดอกบัวเเดง ต้นบุญของเราวันนี้ ฉันนั่งพับกับเเม่น้องเอส

เสร็จจากนี้จึงพาครอบครัวไปรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกับประเมินผลการทำกิจกรรม ก่อนจะส่งยายน้องเจ เเละพ่อเเม่น้องเอสกลับบ้านด้วยใจที่ปิติยินดี ทั้งสองครอบครัวพึงพอใจเเละเห็นด้วยกับกิจกรรมดีดีนี้ ฉันทิ้งท้ายว่าหากจัดครั้งต่อไป หรือโอกาสต่อไปจะเชิญมาร่วมอีก ครั้งต่อไปอาจจะมาเป็นจิตอาสาให้กำลังใจเพื่อนที่กำลังเผชิญกับการสูญเสีย ถึงตอนนั้นหวังว่าทุกคนคงจะดีขึ้นเเล้ว  

     กิจกรรม memorial เราริเริ่มในกลุ่มเด็กมะเร็งก่อน plan ต่อไปก็คือจะได้ขยายผลไปในหอผู้ป่วยเด็กในแผนกการพยาบาลกุมารเวชกรรมซึ่งฉันจะรับผิดชอบโดยตรง ในบทบาทของ Palliative Care service ของโรงพยาบาล ส่วนคุณพิศสมัยกำลังเรียนรู้ที่จะนำ โปรเเกรมนี้ไปให้การช่วยเหลือคนไข้ผู้ใหญ่

ขอขอบคุณ

รศ. ศรีเวียง ไพโรจน์กุล หัวหน้าหน่วย Palliative care

รศ. สุรพล  เวียงนนท์ Oncologist ประธานโครงการ Best Holistic care for children with cancer เเละสนับสนุนงบประมาณในการทำโครงการ

อาจารย์ จินตนา บุญจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการพยาบาล

อาจารย์ศิริพร  มงคลถาวรชัย รองหัวหน้าฝ่ายการพยาบาลด้านคลินิกบริการ

นางสุชีลา เกษตรเวทิน ผู้ตรวจการเเผนกการพยาบาลกุมารเวชกรรม

นางสาวสุดารัตน์ สุภาพงษ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยเด็ก 3ง

เเละทีมผู้บริหารเเผนกการพยาบาลกุมารเวชกรรมทุกท่าน

นางสาวเกศนี บุณยวัฒนางกุล พยาบาล APN สาขาการพยาบาลเด็ก

ผู้ป่วยเด็กมะเร็งเเละครอบครัวทุกคน

 

หมายเลขบันทึก: 356088เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2010 21:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะน้องกุ้ง

เห็นงานแล้วก็ขอชมน้องกุ้งและทีมงานค่ะ

เมื่อคนที่รักจากไป ผู้ที่อยู่ก็ต้องได้รับการเยียวยาจิตใจให้คลายโศกเศร้า เราช่วยเขาได้มากทีเดียวค่ะ

ชื่นชมค่ะ..ชื่นชม

ขอให้มีแรงสร้างงานดี ๆ ต่อไปนะค่ะ

ขอบคุณนะคะพี่อุ้มที่เเวะมาให้กำลังใจ

ตราบที่ยังมีเเรง จะพยายามเต็มที่ค่ะ คุณหมออนามัย

เสียดายไม่ได้มา join ช่วงนี้พี่เกดยุ่งค่ะ

เสียดายจริงๆค่ะพี่เกด รอบนี้ได้เรียนรู้การที่พาครอบครัวที่อยู่ระหว่างรักษาเข้ามา join ด้วย ซึ่งอาจารย์สุรพลเคยเปรยๆว่าน่าจะเชิญพ่อเเม่เด็กที่กำลังรักษามาเข้ากลุ่มด้วย กุ้งว่าดีมากๆค่ะ เเต่ก็คงต้องดูดีดีน่ะค่ะ ว่าครอบครัวพร้อมที่จะเข้ามาหรือไม่ เพราะค่อนข้าง sensitive

ขอเป็นกำลังใจในการทำสิ่งดีๆ อย่างนี้ตลอดไปค่ะ

ขอบคุณค่ะ พี่หน่อยหรือเปล่าคะ โห ! ตามหากันจนเจอใน gotoknow ด้วย ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท