… วันที่ 27-28 เมษายน 53 ได้มอบหมายให้ไปทำงานครับ เรื่องการถอดบทเรียนเศรษฐกิจและทุนชุมชน ในใจแอบคิดเล็กๆ (เฮ้อ ! เหนื่อยอีกแล้ว) กว่าจะมีการทำอีกมากมาย แต่ก็ปลอบใจไปเที่ยวด้วยนะ ปล. หาเวลาแอบแวบไปเที่ยวเอง ผมเลยคิดรูปแบบการทำงานเองก่อน ที่ผมเรียกว่าเอาภาษาฝรั่ง WLP (Work Learning Play) ทำงาน เรียนรู้ เล่นผ่อนคลายไปด้วย เลยเก็บเอารูปมาฝากกันเลยครับ
ที่พักของเราคือบ้านดาหลา เป็นที่พักที่ผมประทับใจมากๆ คือ เป็นบ้านแสนธรรมดาแต่สวยและลงตัวมากๆ ทั้งบ้านพักแต่ละหลังก็ต่างกันไปหมด ทั้งบ้านปูน บ้านไม้ ทุกหลังมีสไตล์ รวมถึงห้องน้ำนี่สุดๆ ใช่เลยครับ คิดถึงคราวที่ไปเที่ยวหัวหินคราวที่แล้ว ทางเดินมีลำคลองเล็กเรียบไปด้วย และตัวบ้านอยู่ติดท่าน้ำทำเอาเย็นได้บ้างครับดับอากาศร้อน รวมถึงอาหารแม้ไม่ได้ถ่ายรูปมาก็รสชาดดีมากเลย(พิสูจน์ได้จากซัดซะ 3 จาน) ทั้งน้ำพริกกระปิปลาทูทอด (น้ำพริกกระปิหอมๆ ผสมปลาทูแม่กลองทอดอร่อยกว่าอะไรอีกครับคลุกกับข้าวร้อนๆ) พูดไปผมก็หิวไปด้วย
บ้านดาหลา
บ้านพัก
ทางเดินไปบ้านพัก
ตอนเช้าอีกวันก่อนการประชุม (แอบดีใจเป็นวันสุดท้าย) ผมเดินไปท่าน้ำมา ผมเห็นคนกับแม่น้ำที่นี่มีความสัมพันธ์กันมากๆ แยกกันไม่ออกเพราะที่นี่ไม่เหมือนคลองแสนแสบที่น้ำเน่าๆมั้งครับ ผมไปเห็นตื่นเช้ามาชาวบ้านตีโป่งอาบน้ำ พายเรือไปมา นี่แหละครับคงเป็นวิถีชีวิตอัมพวา ผมคงไม่พูดว่าอะไร แต่กังวลเล็กน้อยๆ อีกหน่อย อัมพวาจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ แม้ จะเปลี่ยนก็ไม่เป็นไร ผมสนใจเรื่องการจัดการมากกว่า ทำอย่างไร จัดการอย่างไร อัมพวาอยู่ได้ครับ ไม่รู้ว่าทุกท่านคิดแบบผมไหม หากคนมาท่องเที่ยวมาก ผมอยากเก็บไว้เที่ยวนาน
วิถีคนกับคลอง
ระบบนิเวศสามน้ำ (จืด เค็ม กร่อย)
ดอกดาหลา
กระท้อนห่อสดๆคาต้น
ท้ายสุดเอางานมาเล็กน้อยก่อน พอดีผมถอดบทเรียนเรื่องการพัฒนาคนในเรื่องเศรษฐกิจทุนชุมชน “สรุปได้ว่าเมื่อทำอะไรก็ตามหากเอาใจมา ทุกอย่างก็สามารถทำได้” และวลีเด็ดจากปราชญ์ชาวบ้านกำนันทองคำ แจ่มใสกล่าวไว้คือ “พืชผัก ต้นไม้ เป็นทรัพย์สิน ผืนนาผืนดินเป็นกระดาษ จอบเสียมเป็นปากกา บ่อน้ำเป็นน้ำหมึก ( บัญชีชีวิต ตำบลจันดุม)”
ไม่มีความเห็น