(ลีลาป่วนชั้นครู)
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราฉันใด
ค่ายนิสิตนักศึกษาแพทย์จุฬาฯก็ฉันนั้น
จากที่เคยครึกครื้นอึกทึกทั้งคืนวัน
บัดนี้พลันมาเงียบสงบเข้ารอยเดิม
หมอเจ๊คนสวย แซ่เฮ ต้องกลับไปเคลียนงานที่กระบี่เป็นรายแรก 8.30 น.
รอกอด รอฟังสรุปแล้ว ก็กลับเป็นรายที่ 2 ตอน 11.00 น.
คุณหมอจอมป่วน รอป่วนจนหัวใจใครๆสั่นคลอนกลับตอน 13.00 น.
มะเดี่ยว รอช่วยจนหยดสุดท้าย กลับพร้อมๆกับคณะ 14.00 น.
(นิสิตได้ร้อยเรียงความรู้สึกในการวาด เสียดายไม่ได้ขอภาพใส่กรอบไว้)
นักศึกษาได้เห็นกระบวนการเฮฮาศาสตร์ครั้ง นี้ นับเป็นโอกาสทองของชีวิต (ฟังจากตัวแทนนักศึกษากล่าวอำลา) ได้เจอตัวสมาชิกแต่ละคนที่ไม่ธรรมดา สื่อให้เห็นมิติของผู้มีสังคมอยู่ในหัวใจ ถ้าคิดบ้างก็จะตระหนักถึงความพยายามที่จะมาช่วยเหลืองานค่ายครั้งนี้ ด้วยความตั้งใจอย่างเหลือล้นเพราะแต่ละคนนั้นงาน งาน ท่วมตัวและหัวใจกันทั้งนั้น จากมุกดาหาร-จากกระบี่-จากพิษณุโลก-จากร้อยเอ็ด ไกล้ที่ไหนละ แต่ก็ดั้นด้นมาเพื่อจะช่วยกันอุ้มชูลูกหลานนักศึกษาแพทย์ให้เป็นคนดีคนแกร่ง ด้านทรัพยากรบุคคลด้านสาธารณะสุข เท่าที่ฟังวันแรกๆอาจจะแปลกที่แปลกถิ่น และเผชิญกับความร้อน-ความไม่พร้อม-ความพิลึกกึกกือของที่นี่ แต่พอเจอกระบวนการเฮฮาศาสตร์เข้าไป พลังใจของหมู่เฮาชาวเฮสามารถที่จะแลกใจกับใครๆก็ได้ เมื่อได้ใจแล้วอะไรๆก็ดูดี มีความสุข
(ปลูกต้นไม้ที่ระลึกก่อนกลับ)
นิสิตได้เรียนรู้มิติชีวิตและสังคมชนบทเชิงประจักษ์
สัมผัสกับความร้อนหนาวด้วยตนเอง
สัมผัสกับน้ำใจที่ผู้อื่นเอื้ออาทร
คอนดรั๊กเตอร์ชวนปั้นพระในขณะห้ามพูดกัน
หมอเจ๊ชวนขบคิดเรื่องบทบาทหน้าที่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ท่านบางทรายยกงานวิถีสังคมชนบทมาให้ใคร่ครวญ
หมอจอมป่วน ลูกเล่นเยอะ งัดออกมาให้ฮ่าและหุบสลับมันส์ทุกหยด
มะเดี่ยวชวนน้องๆฟังประสบการณ์ตรงของคนทำงานในท้องถิ่น
อาจารย์สุชาดา คลุกอยู่กับการออกแบบกระบวนการในแต่ละช๊อต
คณาจารย์ก็ทุ่มเทเต็มที่คอยประคองบรรยากาศและอารมณ์ลูกศิษย์ให้เปิดรับทุกเรื่องราว
(จำจรจำลาอาวรณ์อาลัย ปีหน้าฟ้าใหม่มาพบกันอีก)
ทั้งสนุกทั้งเหนื่อยกันทั่วหน้า เทวดายังมาร่วมด้วย เป็นส่งลมมากระโชกให้ไฟฟ้าดับ ช่วยส่งคลื่นความเย็นมาให้สบายๆ ทำให้จัดกิจกรรมได้อย่างที่คาดไว้ รายการจูงวัวไปเลี้ยงนั้นคงจะติดตราตรึงใจไปนานเท่านาน รายการทำอาหารก็สร้างสัมพันธภาพระหว่างกลุ่มได้ไม่เลว ช่วงที่ปลูกต้นไม้ก่อนขึ้นรถอำลา ทุกคนร่าเริงสนุกสานเป็นกันเอง คุณหมอจอมป่วนช่วยแจกลายเซ็นต์ แจกหนังสือ และยังบอกว่าจะป่วนอีกในเล่มต่อไปเร็วๆนี้ ส่วนผมได้รับความกรุณาจากอาจารย์อุ๊เอายามาฝากหลายขนาน ได้ชิมข้าวหม้อดินฝีมืออาจารย์ ได้เรียนรู้และพัฒนามหาชีวาลัยในลำดับต่อๆไป.
การจัดค่ายให้นิสิตนักศึกษาเต็มรูปแบบเช่นนี้ไม่ง่ายเลย
คณาจารย์ของคณะนอกจากจะทุ่มเทยอมเหนื่อยยากแล้ว
จะต้องประสานความร่วมมือกับทุกฝ่าย
ถ้าไม่ชัดเจนชัดถ้อยชัดคำยากที่จะฝ่ามาถึงตรงนี้ได้
ค่ายนิิสิตแพทย์จุฬาฯ-ชลบุรีสมควรเป็นมาตรฐาน
เป็นตัวอย่างให้ภาควิชาอื่น คณะอื่น มหาวิทยาลัยอื่นๆได้นำไปพิจารณา
ว่าการจัดค่ายเพื่อการเรียนรู้ชีวิตและสังคมนั้นเป็นฉันใด
แต่ก็ทำได้ ถ้าหัวใจอาจารย์เสริมใยเหล็ก
มหาชีวาลัยอีสานและชาวเฮดีใจแทนนิสิตชาวค่ายทุกคน
ที่เธอเหล่านี้โชดีตรงที่มีอาจารย์สุดยอดจริงๆ..ขอบอก
ขอให้จำเริญๆเถิดนะคนดี
ปีหน้าฟ้าใหม่กลับมาเด็ดพริก-มะละกอ-มะนาว-ตะลิงปิง ที่ปลูกไว้
ช่วยกันทำกับข้าวให้ลือลั่นไปทั้งสวนป่า
แคว๊กๆ
สวัสดีคะ พ่อ...เมื่อไหร่นะ... พอลล่าจะได้ไปบ้าง(มาอีกแระ) อิอิ
แล้วพอลล่าจะทำอะไรได้บ้างคะพ่อ ...
เห็นบรรยากาศแล้ว อยากร่วมด้วยจังครับ...
คืนนี้พระจันทร์ฝั่งโน้น คงงามงดนะคะ ใกล้จะเต็มดวงอีกแล้วคะพ่อขา
ค่ายนี้ยกให้เป็น ค่ายแบบอย่าง งานสร้างสรรค์ น้องๆคงจำประทับใจค่ะ
จำได้ว่าค่ายชนบทครั้งนิสิต ผ่านไปนานก็ยังคงมีความรู้สึกดีๆ ฝันดีค่ะพ่อ