พิพิธภัณฑ์กู้กง มีผลงานชิ้นเด่นคือ “หยกแกะสลักเป็นรูปผักกาดขาวที่มีตั๊กแตนเกาะอยู่”
เช้านี้ ได้ไป
พิพิธภัณฑ์กู้กง (National Palace Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บวัตถุและผลงานทางศิลปะของจีน ผลงานชิ้นเด่น คือ “หยกแกะสลักเป็นรูปผักกาดขาวที่มีตั๊กแตนเกาะอยู่” โดยได้รับการจัดอันดับ ในความงดงามวิจิตรเป็นอันดับ 1 ของโลก หยกดูสวยงาม แต่จะชอบ “ หยกหมูสามชั้น” มากกว่า เพราะเหมือนหนังหมูมากๆ ดูแล้วชวนหิวจริงจัง อีกชิ้น Amazing คือ “งาช้างแกะสลัก 17 ชั้น” ที่ชอบอีกชิ้นคือ ปิ่นโตงาช้างที่มีลวดลายสวยงาม โปร่งใส งงจริงๆ ทำได้ไง นอกจากนี้ก็มี “ตราลัญจกร ของจักรพรรดิเฉียนหลงที่ยิ่งใหญ่” จัดเป็นพิพิธภัณฑ์นี้ถือเป็น 1ใน 3 ของโลกที่มีการจัดการที่ดีที่สุด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในการเดินทางมาชม และศึกษา “หัวใจ”ของวัฒนธรรมจีนโบราณ ชิ้นงานมีประมาณ 650,000 ชิ้น จริงๆ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 วันในการชม แต่เรามีเวลาเพียง 2 ชั่วโมง ก็เลยชมแบบรถไฟหัวจรวด
หากเปรียบเทียบกับพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ ที่ปารีสแล้ว จะชอบที่นั่นมากกว่า เพราะ 1. ชิ้นงานหลากหลายทั้งตะวันตกและตะวันออก 2. การนำเสนองานดูสวยงาม 3. สามารถถ่ายรูปข้างใน museum ได้ 4. ของที่ระลึกดูเก๋ ฯลฯ
ช่วงกลางวัน ไปทานอาหารที่ร้าน ราคา 200 ล้าน คือร้านอู๋เจียวฉวนปั่น ( Five-dime Boathouse) ใน Neihu district คนออกแบบร้าน เป็นผู้หญิงชื่อ Xie Li-xiang โดยใช้วัสดุหลักคือ ต้นไม้ใหญ่ เซรามิก ไม้แห้งๆ จุดเด่น คือ รูปปั้นผู้หญิงสูงเท่ากับตึกประมาณ 7 ชั้น ที่กำลังเต้นรำต้อนรับผู้มาเยือน หากถามความคิดเห็นส่วนตัว ในแง่รูปลักษณ์ขออาคารแล้วก็มองว่า ดูทึมๆ ดิบๆ เหมือนอยู่ในบ้านของชนเผ่าในอัฟริกา หรือ ออสเตรเลีย อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยมี sense ด้านศิลปะ เลยไม่ค่อยซึมซับเท่าไหร่ ก็ลองดูรูปแล้วกัน
ส่วนเรื่องอาหาร รสชาดก็พอokay อยู่ ทานได้ ที่นี่เค้าเสริฟออร์เดิร์ฟ ก่อนด้วย โมจิชีสคลุกถั่วงา หอมอร่อย ราคา 15 NT กับน้ำเฉาก๊วย ส่วนใหญ่คนไทยไม่ค่อยจะกล้ากินขนมนี้ ขอบอก คิดผิดถนัด อร่อยมั๊กๆ เรากินไป 2 ชิ้น นอกจากนี้ ข้าวจะใส่มันหวานๆ เจ๋ง มาก กินเพลิน จานอื่นๆ ก็จะมีเห็ดทอดกระเทียม กระดูกหมูผัดซอสซีอิ๊ว ปลาหิมะราดซ๊อส ผัดผัก เป็นต้น
จากนั้นไปตึกระฟ้าไทเป 101 (ขึ้นตึกชมวิวชั้น89-91) นวัตกรรมด้านวิศวกรรม และศักยภาพทางเทคโนโลยีของไต้หวัน สัญลักษณ์ใหม่ของเมืองไทเป ตัวอาคารมองดูคล้ายปล้องไผ่ 8 ปล้องต่อกัน ทำหน้าที่ดูดซับแรงสั่นสะเทือน ไม่ให้อาคารสั่นไหวไปมาเมื่อเกิดแผ่นดินไหวความเร็ว 1,008 เมตรต่อนาที ภายในตัวอาคารมีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อสินค้า เราขึ้นไปชั้น 89 ด้วยเวลาเพียง 37 วินาที เร็วมากๆ ในส่วนชั้นนี้นอกจากชมวิวผ่านกระจกแล้วก็มีผลงานศิลปะให้ชม มีร้าน gift shop และ ร้านถ่ายรูป พร้อมใบ certificate ด้วยราคา 499 NT
เสร็จแล้วก็ไป Duty Free shop แต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไร เพราะซื้อที่ไทยถูกกว่า หน้าร้านมีกลุ่ม ฟาหลุนกง มีถือป้ายประท้วง เก๋ซะ
ประมาณ 5 โมงเย็นก็ถึงสนามบินเพื่อบินกลับเมืองไทย สนามบินมีจัดมุมน่ารักของ Hello Kitty ให้ได้ถ่ายรูป เย็นนี้ทานอาหารกล่องไต้หวัน ก็อร่อยใช้ได้อยู่ กล่องละ 100 NT เอง
ส่วนเครื่องบินขากลับ ก็มีให้เซ็งนิดหน่อยตรงที่ไม่มีหูฟัง เนื่องจาก เครื่องบินไม่สามารถบินไปยุโรปได้เพราะเกิดภูเขาไฟระเบิดที่ Iceland อืม เข้าใจผลกระทบจริงๆ
สุดท้ายคือ ไต้หวันเป็นประเทศที่คุ้มกับการมาท่องเที่ยว ลูกทัวร์น่ารัก และการบริการที่ประทับใจของ Dome Holiday
