ผมไม่ได้สอนนิสิตระดับปริญญาตรีมามาตั้งแต่ลาศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก (พ.ศ.2547) พอเรียนจบกลับเข้ามาทำงานก็เปลี่ยนสายงานมาสอนในระดับปริญญาโทเป็นส่วนใหญ่
เทอม Summer นี้ ช่างเป็นความโชคดีของผมเหลือเกินที่หมวดวิชาศึกษาทั่วไปขาดอาจารย์ผู้สอนพอดี เมื่อได้รับเชิญให้ไปช่วยสอน ผมรีบตอบรับทันที ทั้งนี้เพราะอยากนำความรู้และประสบการณ์ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับการศึกษาของผมไปทดลองใช้กับนิสิต ป.ตรี
แต่ก่อนการสอนของผมนั้นยึดวิชาเป็นตัวตั้ง กล่าวคือ ตีหลักสูตรให้แตก ตีความสัมพันธ์ของรายวิชา ตีวิชาให้แตกแล้วก็มุ่งเป้าการสอนให้บรรลุวัตถุประสงค์ของวิชาก็เป็นอันจบกันเพียงนั้น
แต่ความเข้าใจใหม่ของผมนั้น แทนที่จะยึดวิชาเป็นตัวตั้ง เราจะยึดชีวิตเป็นตัวตั้งแทน นอกจากการมุ่งเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของรายวิชาแล้ว ต้องมุ่งให้ผู้เรียนเข้าใจชีวิตและตนเองมากขึ้นด้วย กล่าวคือ วิชาเป็นการเรียนเรื่องนอกตัว แต่ชีวิตเป็นการหันเข้ามาศึกษาด้านในของตนเอง เรียนรู้กายและใจของตนเอง
ในทางปฏิบัตินั้นมีความท้าทายอยู่หลายประการ ประการแรกนั้นคือตัวผู้สอนเองก็ไม่ได้บรรลุบทเรียนแห่งชีวิตมากนัก ประการต่อมาคือการผสานเป้าหมายเดิมคือการบรรลุข้อกำหนดรายวิชา เข้ากับเป้าหมายใหม่คือการเข้าถึงชีวิตด้านในแห่งตนของผู้เรียนแต่ละคน ส่วนตัวผมเองนั้นอุปสรรคและความท้าทายเหล่านั้นกลับทำให้การสอนมีสีสันมากขึ้น น่าสนใจมากขึ้น
หลายครั้งปรากฏการณ์ ที่เกิดจากการใส่วิธีการใหม่ ๆ เข้าไป การตอบสนองของผู้เรียนแบบสดใหม่นั้น มีความน่าสนใจยิ่ง ทำให้เราเห็นคุณค่าของวิถี
ไม่มีความเห็น