หลังจากจบม.3 (ขออภัย เรียนม. รุ่น 3 ค่ะ ปี 2526) ชีวิตไม่รู้จะเลือกเรียนอะไรดี แล้ว
แต่โรงเรียนจะเลือกให้แล้วกัน แล้วฉันก็ได้เรียนโปรแกรม ศิลป์ - ฝรั่งเศส ก็จะเรียน
ศิลปะ และ ภาษาอังกฤษ ที่ฉันชอบ แต่ฝรั่งเศส ไม่รู้เรื่องเลย
เพื่อนในห้อง มี 44 คนผู้หญิง 42 ผู้ชาย 2 คน ไม่รู่ว่ามันมาได้ยังไง 2 คน
คือนายประพนธ์ สิงห์สง่า และนายนิวัติ คนดี (ขออภัยที่ลงชื่อจริง)
เพิ่งจะมารู้ตอนหลัง นายประพนธ์ เขาเคยไปประเทศฝรั่งเศส มาแล้วสามารถพูดภาษา
ฝรั่งเศสได้บ้าง มันก็เลยเป็นหนุ่มเนื้อหอมในห้องเลย ตอนเรียนวิชาฝรั่งเศส
แต่นายนิวัต จับพลัดจับผรู ตามคะแนนที่สอบได้ว่างั้นเออะ ก็เลยกลายเป็นคนขี้อายที่
สุด จะไม่ให้อายยังไง แม่เจ้าประคุณทั้ง 42 คนส่วนใหญ่ของห้องนี้จะเป็นคนสวยๆ ทั้ง
นั้น ไม่สวยอยู่ 10% (รวมทั้งคนเขียนด้วย)
อยู่ในห้องนี้ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเรียบร้อย
เหมือนผ้ายับที่พับไว้ ให้เรียนก็เรียน ให้ทำกิจกรรมอะไรก็ทำ
ตอนเรียน ม.4 ที่ฉันไม่เคยลืม คือ เรียนวิชาเกี่ยวกับการแสดงออก การพูด การแสดง
ละครทั้ละครเวที และละครวิทยุ ของอาจารย์ รำไพ (ขอโทษนะคะจำนามสกุลไม่
ได้ เพราะนานมาก )
อาจารย์ให้แบ่งกลุ่มตามชอบใจแสดงเรื่องราวต่างๆ แล้วแต่กลุ่มไหนจะจับสลากได้
กลุ่มของฉัน ซึ่งเป็นกลุ่มของเด็กเงียบๆ ไม่ค่อยเสียงดังเท่าไร
ได้แสดงเรื่องตลก ให้เพื่อนๆ หัวเราะให้ได้ ฉันนี่อยากมุดรั้วโรงเรียนหนีเลย
ก็เลยแสดงเป็นคนใบ้ คนหูหนวก คนพูดไม่ชัด พูดอะไรเป็น อ. อ่าง
แสดงไปแสดงมา ทั้งเพื่อนทั้งครู หัวเราะน้ำตาแตก ..........หมดชั่วโมง
เพื่อนคนอื่นๆๆ พากันถามใหญ่เลย ทำได้อย่างไร ........
จบอณ.เหมือนกันค่ะ แต่เรียนวิทย์- คณิต แต่พี่สาวจบ ศิลป์- ฝรั่งเศสค่ะ นึกถึงวิชาเกี่ยวกับการพูด สนุกมากๆเลยนะคะ ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ ทำให้เรากล้าแสดงออก เป็นวิชาเดียวที่จะได้ยินเสียงกรี๊ด กร๊าดของนักเรียนแต่ละห้องนะคะ นึกถึงความหลังแล้ว...น่าประทับใจดีนะคะ