หลังจากรับเวร และได้ทราบจากเพื่อนในทีมการพยาบาลว่า มีผู้ป่วยท่านหนึ่งเป็นคุณยาย ถูกรับการรักษาและนอนโรงพยาบาล ซึ่งอาจดูเหมือนผู้ป่วยรายอื่นๆ ที่ไม่สบายและมีเหตุจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา แต่ที่ตนเองให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ นั่นคือ คุณยายเป็นรุ่นพี่ (ใหญ่) ของเราเอง รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เนื่องจากคุณยายอาจเป็นคุณยายทวด อายุราวๆ 94 ปี และยังมีอาชีพเป็นคุณพยาบาลเช่นเดียวกับตนเองอีกด้วย คิดได้ดังนั้นจึงรีบหาทางเข้าพบคุณยายทวดทันที เนื่องจากโอกาสแบบนี้ พบได้ไม่บ่อยนัก
คุณยายมีลักษณะท้วม ผิวขาว ท่าทางใจดี ที่สำคัญในส่วนของการรับรู้ทางตา หู ยังดีมาก ความจำก็ยังดี คุณยายเล่าให้ฟังว่า คุณยายเป็นคน 4 แผ่นดิน และคุณยายก็ยังทำหน้าที่เป็นพยาบาลผดุงครรภ์ ปฏิบัติงานอยู่สถานีอนามัย สมัยก่อนค่อนข้างลำบาก มีคุณหมอ คุณพยาบาลน้อย จึงต้องช่วยกันดูแลผู้ป่วย สำหรับตัวคุณยายต้องทำคลอดในแต่ละวันจำนวนมากโดยมีชุดทำคลอด และมือเปล่าของคุณยาย (ที่สวมถุงมือ)ช่วยทำคลอดเด็กๆ สมัยนั้น ตนเองจึงถามคุณยายกลับว่า “แล้วตอนนี้ล่ะคะ ถ้ามีcaseขอให้คุณยายช่วยทำคลอด คุณยายทำได้ไหมคะ” คุณยายยิ้ม พยักหน้า และบอกว่า “ได้ซิ สบายมากๆ” ตนเองจึงแอบคิดว่า คุณยายสมกับเป็นคุณยายทวดพยาบาลมากที่สุด เนื่องจากการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยไข้ อยู่ในสายเลือดของคุณยายตลอดเวลา แม้ว่าในตอนนี้ตัวคุณยายก็กำลังเป็นคนไข้เสียเอง
ได้บอกคุณยายว่าตนเองรู้สึกดีใจมาก ที่มีโอกาสได้พบรุ่นพี่ (ใหญ่) เช่นคุณยาย และควรจะเรียกคุณยายว่า..คุณพี่..เสียด้วยซ้ำ ตามระบบพี่น้องที่พวกเราใช้กันมาอย่างยาวนาน เมื่อคุณยายได้ฟังสังเกตว่าคุณยายยิ้มกว้างมากๆและเสียงหัวเราะของคุณยายดูมีความสุข และพอใจ
วันต่อมาที่คุณยายยังต้องนอนโรงพยาบาล จึงนำหนังสือธรรมะไปอ่านให้คุณยายฟัง ได้รับการอนุญาตจากคุณยายเรียบร้อย แต่สิ่งหนึ่งที่คิดได้ว่า ตนเองไม่เคยอ่านหนังสือ ออกเสียงดังๆ ให้ใครฟังมานานมากแล้ว และยังติดเป็นคนพูดเร็ว อาจทำให้คุณยายเวียนศีรษะเอาได้ วันนั้นจึงพยายามจะทำให้คุณยายเวียนศีรษะให้น้อยที่สุด
แค่ท่านอยากอ่านหนังสือให้ท่านฟังก็ดีแล้วครับ
แม้ท่านจะอ่านเร็ว จนท่านฟังไม่ทัน แต่ท่านก็คงดีใจ ที่มีท่านมาเอาใจใส่ท่านนะครับ
ยังอยากรับทราบการทำงานในสมัยก่อนนะครับ หากจะกรุณา