ปอกเปลือก10 ปี ปกครองท้องถิ่น รัฐต้องจริงใจกระจายอำนาจ
สรุปจากการสัมมนา เรื่อง "ปกครองส่วนท้องถิ่นสู่อนาคตรากแก้วประชาธิปไตยชุมชน" จัดโดย บริษัทเนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ณ หอประชุมพ่อขุนรามคำแหง มหาวิทยาลัยรามคำแหง วันที่ 10 พฤศจิกายน 2552 WWW.KOMCHADLUEK.NET
รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ความเจริญเติบโตของประเทศต้องเกิดจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งก็คือประชาชนรากหญ้าและรากแก้วในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะในด้านการศึกษาที่จำเป็นต้องเร่งพัฒนาอย่างเร่งด่วน แต่น่าเสียดายที่การถ่ายโอนการศึกษาให้องค์กรท้องถิ่นไม่ได้รับความเชื่อถือ ทั้งที่ในต่างประเทศองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเจ้าของสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง
ส่วนการพัฒนาเศรษฐกิจ ประชากรของประเทศกว่า 50% เป็นเกษตรกร ซึ่งยังขาดแคลนปัจจัย 4 แต่นโยบายส่งเสริมการเกษตรกลับซ้ำเติมเกษตรกรให้แย่ลง ส่งเสริมให้แข่งกันไปตาย เช่น โครงการโอท็อปที่มีการทำไวน์ทั้งประเทศ คนทำมากกว่าคนซื้อ สุดท้ายก็วายวอด
รศ.คิม จึงฝากความหวังไว้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำฐานข้อมูลการผลิตสินค้าเกษตร และวางแผนการตลาดให้สอดรับกับความต้องการในการบริโภค ท้องถิ่นต้องรวมตัวกัน เพื่อวางแผนการผลิต และจำหน่ายสินค้าเกษตรไม่ให้ถูกกดราคาจากการแข่งขันกันเอง
นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ทรัพยากรในท้องถิ่นมีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ทำให้หลายหน่วยงานเข้ามามีภารกิจเกี่ยวข้อง แม้โครงสร้างการปกครองระดับบนจะเป็นปัญหาอุปสรรคของการเติบโตในองค์กรปกครองท้องถิ่น แต่ถ้าท้องถิ่นตื่นตัวเตรียมพร้อมรองรับ คณบดีคณะรัฐศาตร์ ม.รามคำแหง แนะนำว่า การรวมตัวจัดตั้ง "สหกรณ์ออมทรัพย์" ในท้องถิ่นจะเป็นการก้าวเดินที่ดีกว่ารอคอยให้มีการกระจายอำนาจ ทั้งนี้ ยังได้ยกตัวอย่าง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีในการดูแล และใช้ทรัพยากรในชุมชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยปัจจุบันชาวบ้านตื่นตัวมากขึ้น กล้าที่จะคัดค้าน และไม่ตอบสนองนโยบายบิดเบี้ยวที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน
นายสกนธ์ วรัญญวัฒนา รองคณบดีฝ่ายวิชาการแผน และพัฒนา คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เราคุ้นเคยกับการบริหารแบบรวมศูนย์ที่อำเภอและจังหวัด แต่การแก้ปัญหาท้องถิ่น ไม่อยากให้ท้องถิ่นทำตัวเป็นราชการ ต้องทำให้ท้องถิ่นเป็นท้องถิ่นจริงๆ แต่ที่ผ่านมาเคยสอบถามว่าท้องถิ่นต้องการอะไร คำตอบที่ได้คือ เครื่องราชย์ฯ และเครื่องแบบ ไม่ใช่งานที่เพิ่มขึ้น นักวิชาการจากจุฬา ให้จับตาการใช้งบประมาณปี 2552 ว่าจะมีการบูรณาการกระจายอำนาจไปให้ท้องถิ่นอย่างไร ตอนนี้ประชาชนเริ่มเสพติดนโยบายประชานิยม คือ เมื่อมีปัญหาจะขอก่อน ซึ่งต่างจากเดิมที่มีการร่วมแรง และร่วมลงทุนกันเพื่อแก้ปัญหา การเสพติดประชานิยมจึงเป็นสัญญาณอันตรายของท้องถิ่น สำหรับรัฐบาลต้องมีความจริงใจในการกระจายอำนาจ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ประธานคณะกรรมการกระจายอำนาจเปลี่ยนตัวถึง 10 คน ทำให้งานขาดความต่อเนื่อง
นายตระกูล มีชัย อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นักการเมืองท้องถิ่นไม่มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองระดับชาติจะอยู่ลำบาก แต่ถ้าสัมพันธ์กันจะสามารถดึงหมวดเงินอุดหนุนจากส่วนกลางมายังท้องถิ่นได้ การเมืองที่เอื้อผลประโยชน์กันนี้จะเป็นการเหนี่ยวรั้งการกระจายอำนาจ สำหรับพรรคการเมืองระดับเล็กไม่ต้องคาดหวังจะเป็นขั้วจัดตั้งรัฐบาล จึงควรหันไปให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งระดับจังหวัดหรือระดับเทศบาล ซึ่งมีงบประมาณเป็น 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันจึงเห็นได้ว่า พรรคการเมืองขนาดใหญ่ส่งตัวแทนไปเล่นการเมืองท้องถิ่น
สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีนโยบายกระจายอำนาจให้ผู้ว่าฯ ซีอีโอ แต่ด้วยเหตุที่รัฐไม่ต้องการให้องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นกำหนดทิศทางการทำแผนยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมในจังหวัด จึงทำให้การจัดซื้อจัดจ้างในท้องถิ่นถูกดึงกลับไปที่ส่วนกลาง ท้องถิ่นจึงล้มเหลวในการบูรณาการ ขณะที่ระบบภูมิภาคกำลังฟื้นคืน ส่วนราชการที่ควรเป็นพี่เลี้ยงให้ท้องถิ่นกลับเข้ามาสร้างปัญหาด้วยการแย่งงานและผลักภาระให้ท้องถิ่นในโครงการที่ทำแล้วทะเลาะกับประชาชน อาทิ การสร้างโรงสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ท้องถิ่นมีปัญหาหนี้ค่าไฟฟ้าในการสูบน้ำ หรือกรณีกรมทางหลวงชนบทตั้งงบประมาณสร้างถนนบางสายซ้ำซ้อนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น
นายแก้ว สังข์ชู ผู้ทรงคุณวุฒิสภาองค์กรชุมชนตำบล จ.พัทลุง
เราสร้างกฎหมาย ร่างรัฐธรรมนูญ แต่ประชาธิปไตยไม่เกิด เพราะเราแบ่งคนเป็นหลายชนชั้น คนท้องถิ่นยังขาดการมีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาคุณภาพชีวิต และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ทุกกลุ่มในชุมชนต้องยึดโยงกัน ไม่ใช่คิดแต่เพียงจะนำเงินงบประมาณไปใช้อย่างไร คนบริหารท้องถิ่นเป็นนายก อบต.หรือ อบจ. ต้องถามตัวเองว่ามีเจตนารมณ์เพื่ออะไร ที่ผ่านมาเราไม่เคยร่วมกันสร้างฝัน มีแต่คนข้างบนสร้างฝันให้ สร้างเจดีย์จากยอด หลังจากนี้สภาองค์กรชุมชนจะร่วมกันสร้างเจดีย์จากฐาน คิดร่วมกันว่าคนส่วนใหญ่ของชุมชนต้องการอะไร เพื่อกำหนดแผนการนำงบประมาณไปใช้ให้สอดรับกับความต้องการสูงสุด
ท้องถิ่นต้องกล้าปฏิวัติตัวเองไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง รัฐต้องปล่อยอำนาจกำกับดูแลเพื่อให้ท้องถิ่นมีอิสระในการปกครอง อยากเห็นการจัดตั้งสภาชุมชนตำบลที่คนในชุมชนมานั่งร่วมกันคิดเพื่อสร้างประชาธิปไตยจากฐานล่าง ซึ่งจะทำให้การเมืองภาคประชาชนมีความเข้มแข็ง
นายประภัสร์ ภู่เจริญ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย
อุปสรรคของการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเพราะรัฐบาลคิดอยู่ตลอดเวลาว่าท้องถิ่นไม่พร้อม แต่ไม่เคยมองว่า รัฐบาลเองที่เป็นฝ่ายไม่พร้อม ส่วนราชการก็กลัวถูกลดขนาด กลัวถูกยุบ และกลัวสูญเสียอำนาจสั่งการผู้บริหารท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้ง
นายนพดล แก้วสุพัตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย
ปัญหาของการถ่ายโอนภารกิจ คือ ภารกิจมา แต่เงินไม่มา แบ่งงานให้ทำ แต่ไม่มีอำนาจ ไม่มีงบประมาณ และไม่ยอมถ่ายโอนบุคลากร อีกทั้งรัฐบาลยังมีข้อจำกัดให้ท้องถิ่นจัดเก็บรายได้ลดน้อยลง
นายอำนาจ ศิริชัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถูกมองในแง่ลบ มีกลยุทธ์ในการถ่ายโอนอำนาจหลายอย่างที่ทำให้ภาพลักษณ์ของการปกครองส่วนท้องถิ่นถูกดิสเครดิต
กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้น องค์กรส่วนปกครองท้องถิ่นไม่มีส่วนร่วมในการยกร่างและแก้ไขกฎหมาย จึงต้องถามถึงความจริงใจของรัฐบาล
ทั้งนี้ ถ้าต้องการวัดผลการทำงานในท้องถิ่นจำเป็นต้องเปิดให้มีการแข่งขันกันทำงานระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจากกระทรวงมหาดไทยกับผู้บริหารท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ท้องถิ่นจะต้องรวมตัวเพื่อต่อรองกับรัฐบาล หรือสนับสนุนพรรคการเมืองขนาดใหญ่กำหนดนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกระจายอำนาจ
นายทวีศักดิ์ ศรีทองกิติกุล ประธานสมาพันธ์ปลัด อบต.แห่งประเทศไทย
ขณะนี้กระแสท้องถิ่นตกไป เพราะคนให้ความสำคัญกับการเมืองระดับชาติ หากรัฐบาลมุ่งแต่การเมืองระดับชาติ ไม่มองถึงประชาชน จะเกิดปัญหาแย่งชิงงบประมาณ ส่วนม็อบในกรุงเทพฯ มาจากชนบท เพราะพวกเขาเริ่มเข้าใจการเมือง จึงเข้ามามีบทบาทกับการเมืองในกรุงเทพฯ มากขึ้น แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังไม่เข้มแข็ง เพราะถูกแทรกแซงจากส่วนกลาง โรงเรียนและสถานีอนามัยอยากได้เงินจากท้องถิ่น แต่ไม่ยอมถูกถ่ายโอนมาอยู่ท้องถิ่น เพราะสวัสดิการน้อยกว่าข้าราชการ ขณะที่ระเบียบการบริหารบุคคลที่ใช้บังคับกับข้าราชการท้องถิ่นถูกกำหนดโดยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งไม่เป็นธรรม
นายอุดร ตันติสุนทร ประธานมูลนิธิส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น
การกระจายอำนาจเท่านั้นที่จะช่วยให้ประเทศเจริญก้าวหน้า ระเบียบราชการกำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการต้องย้ายทุก 4 ปี ทำให้ไม่รู้ปัญหาท้องถิ่นลึกซึ้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อกฎหมาย 4 ฉบับเกี่ยวกับการปกครองส่วนท้องถิ่นประกาศใช้จะทำให้ท้องถิ่นมีความเข้มแข็งขึ้น
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า
ในสหรัฐอเมริกาโรงเรียนของรัฐมีน้อยมาก เพราะท้องถิ่นเกิดก่อนรัฐ ชุมชนจึงต้องช่วยกันสร้างโรงเรียน และโบสถ์ รัฐบาลเข้าไปเกี่ยวข้องน้อยมาก สำหรับประเทศไทยท้องถิ่นอาศัยราชการ และรัฐมาตลอด รัฐจึงบอกว่าการปกครองท้องถิ่น คือ การทดลองประชาธิปไตย จึงต้องมีนายอำเภอ และปลัดอำเภอไปนั่งเป็นพี่เลี้ยงทำให้ท้องถิ่นไทยอ่อนแอ และระบายความคับข้องใจกับส่วนราชการ เรายังคิดอยู่ในกรอบเดิมว่ารัฐเท่านั้นที่ค้ำจุนท้องถิ่น เงิน 4,000 ล้านบาท รัฐบาลกลางส่งไปอุดหนุน ให้ไปจัดเก็บภาษีเองก็ไม่เอา เพราะกลัวเสียคะแนน จึงฝากงานไว้กับกรมสรรพากร ขณะนี้การเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติคล้ายคลึงกันมาก วงจรของการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอยู่ในท้องถิ่นด้วย โดยมีการพูดกันว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นใช้เงินถึง 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญปี 2550 ขยายรายละเอียดของรัฐธรรมนูญปี 2540 ให้ชัดเจนขึ้น โดยเพิ่มบทบาทการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ถ้ารวมพลังกันได้ท้องถิ่นจะก้าวออกจากวงจรปัญหาขัดแย้งของการเมืองระดับชาติ ซึ่งเป็นความขัดแย้งเชิงโครงสร้างของประเทศ ปัจจุบันคนจน 20% เป็นเจ้าของรายได้ 4.3% ขณะที่คนรวย 20% ยังเป็นเจ้าของรายได้ประชาชาติ 55% คำถาม คือ เราจะจัดสรรทรัพยากรอย่างไรให้เหมาะสม จากนั้นค่อยมาปรับระบบการบริหารเศรษฐกิจและสังคมอย่างไร เพื่อแบ่งอำนาจการจัดการประเทศไทยใหม่
นายโคทม อารียา ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
อยากเห็นทีมผู้สมัครผู้บริหารท้องถิ่นตั้งแนวนโยบายชัดเจนว่า จะอาสาเข้ามาทำอะไร จะเน้นคุณภาพชีวิตหรือสร้างระบบสาธารณูปโภค โดยมีการตรวจสอบภายในเข้ามาดูแลฝ่ายบริหารอย่างใกล้ชิดและเป็นธรรม ไม่ใช่ตรวจสอบเพื่อหาทางจับผิดหรือล้มล้าง ส่วนระบบการบริหารงานบุคคลยังจำเป็นต้องใช้ระบบที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นมีบุคลากรน้อย ยังต้องพึ่งพานายอำเภอ และปลัดอำเภอ ทำให้ภาพลักษณ์ของกรมถูกมองเป็นหน่วยงานกำกับดูแลมากกว่าส่งเสริม อย่างไรก็ตาม สังคมยังมองภาพลักษณ์ของการบริหารงานท้องถิ่นไม่ดีนัก คนในสังคมยังไม่เข้าใจการทำงานระดับท้องถิ่น ซึ่งในสถานภาพที่ง่อนแง่นเช่นนี้ท้องถิ่นคงเจริญก้าวหน้ายาก
ด้านความขัดแย้งเป็นเพราะแบ่งอำนาจไม่ลงตัว ระหว่างรัฐราชการกับฝ่ายการเมือง นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งงานไม่ลงตัว ฝ่ายการเมืองถนัดกำกับดูแลก็ทำไป แต่งานในด้านการสร้างความมั่งคั่งต้องปล่อยให้ภาคเอกชน ส่วนประชาชนอยากให้มีความห่วงใยเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ถ้าเราไม่มีสังคมเอื้ออาทร การเมืองเศรษฐกิจก็เดินต่อไปไม่ได้ ซึ่งระบบสังคมเอื้ออาทรควรเกิดขึ้นในท้องถิ่น อย่าไปลอกเลียนแบบความขัดแย้งจากการเมืองระดับชาติ
ไม่มีความเห็น