จดหมาย เหตุศรีแจ้งฯ ปีพุทธศักราช 2320 ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำของ


          "ต่อให้ลำบากแสนเข็ญ ยากเย็นเพียงใด อ้ายจักเพียรเฝ้าตามหาเจ้า อ้ายจักพาเจ้ากลับคืนสู่เรือนเรา แม่หญิงผู้เป็นที่รักเอย อย่าได้หวาดกลัวสิ่งใดเลย ด้วยดวงจิตแห่งความภักดีต่อ ปฐพีนี้ และด้วยดวงจิตรักมั่นที่มีต ่อเจ้า ไม่ว่าจักต้องใช้อะไร   สิ่งใด แรงกาย แรงใจ กำลังสติปัญญาแค่ไหน ฤาเวลาเนิ่นนานเท่าใด อ้ายขอสาบานต่อองค์พระแก้วป ฏิมา พระบางรัตน และพระคำนพคุณ ว่า  ข้าน้อยฯจักพาท่านทั้ งสาม และแม่หญิงผู้เป็นที่รั กยิ่ง ดั่งดวงใจของข้าน้อยฯ กลับคืนสู่มหามาตุภูมิให้จง ได้ ไม่ว่าจักมีเหตุใดขวางกั้น จักกี่ภพกี่ชาติชั่วกัปชั่ว กัลป์ ข้าจักทำจนสำเร็จเป็นแม่นมั ่นแน่ แท้"  บุรุษร่างสูงใหญ่กำยำเยี่ยงชาย ชาติทหารผู้มีรอยสักรูปพญา นาคที่หน้าอก แผ่นหลัง และต้นแขน ท่อนบนเปลือยเปล่า ท่อนล่างมีเพียงหยักรั้งสีคล้ำ บนหัวคาดผ้ามงคล ใช้สองแขนโอบกอดด้านหลังหญิงร่างงามไว้แนบอก สายน้ำของตรงหน้านิ่งสงบราบเรียบ สุดหยั่งถึง ไม่ต่างอะไรกับใจคนในอ้อมแข

"แม่หญิงช่างกล้าหาญและมีหัวใจ ยิ่งใหญ่นัก กับพันธกิจข้ามภพข้ามชาติครั้งนี้"
           "เราต้องทำ" นางหันหน้ามาเผชิญกับทหารหนุ่มตรงๆ  "เราสัญญา ไม่ว่าจักยากเย็นแสนเข็ญเท่าใด จักต้องแลกกับสิ่งไหน เราจักนำความสมบูรณ์พูนสุขกับคืนสู่แผ่นดินของเราให้จงได้" นางหยิบเอาดาบที่ปักอยู่บนหาดทรายบนเกาะแท่นกลางลำน้ำของขึ้นมาแล้วเดินลงไปในแม่น้ำจนสายน้ำอยู่ระดับเอว  "เราพร้อมแล้ว อย่าให้เลือดเราตกต้องแผ่นดิน"  เสียงอ่อนหวานแต่ทรงพลังเหมือนลอยมาจากที่แสนไกล
          บุรุษร่างสง่าหลับตา แม้จักเคยฝ่าสมรภูมิใดๆมานับร้อยก็มิอาจห้ามใจมิให้เจ็บปวดกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดครั้งนี้ได้ แต่ด้วยจิตและวิญญาณตั้งมั่น ต่อภาระยิ่งใหญ่ที่ต้องทำ ข่มใจตัดความรู้สึกทั้งมวลคุกเข่าลงตรงหน้าถุงย่ามใบย่อมที่ใส่พระค่าควรเมืองไว้สององค์ อัญเชิญขึ้นสะพายบ่า เดินลุยน้ำลงไปหานางจนถึงระยะ ห่างจากนางหนึ่งวา นางยื่นดาบให้เขา แล้วยกมือพนมขึ้นกลางอก  "ขอสายน้ำแม่ของจงเป็นสักขีพร้อม มารับเครื่องบัดพลีด้วย เลือดและชีวิตของเรา ธิดาแห่งสกุลหลวงฯ ขอจงดลบันดาลให้ภารกิจของเราได้เสร็จสมบูรณ์โดยดี ให้เราได้อัญเชิญพระคู่เมืองเรา กลับแผ่นดินเราได้ทั้งสามองค์ ให้เราได้นำความรุ่งเรืองผาสุข กลับคืนสู่แผ่นดินของเราได้ ก่อนสายน้ำมหานทีแม่ของจักแห้ง เหือดหาย ด้วยเถิด หากแม้นเรามิอาจทำได้สำเร็จ ขอให้วิญญาณของเราถูกจองจำให้ทุกข์ทรมานอยู่ในภพภูมิมนุษย์ อย่าได้พบเจอทางสว่างหนทางไปสู่พระนิพพาน จนกว่าจะเสร็จสิ้นพันธกิจแห่งวิญญาณ นี้"  ทหารหนุ่มเงื้อดาบขึ้นสุดแขนฟาดลมแหวกอากาศฟันฉับลงที่ก้านคอระหง เลือดเป็นสายสีดำในความมืดไหลละลาย ไปกับสายน้ำยามค่ำคืน ร่างไร้หัวของนางค่อยๆล้มลงไป ในสายน้ำ ชายหนุ่มโผเข้าคว้าหัวของนางที่กระเด็นไปไกลร่างแล้วค่อยหันกลับมาช้อนเอาร่างไร้หัวของนางมากอดไว้ เอาหัวนางวางไว้บนตัวนาง สองแขนอุ้มนางไว้แนบอกน้ำตาลูกผู้ชายไหลพราก ในคืนเดือนมืดฟ้าหม่นไร้แม้แสง ดาว สิ้นแล้วทุกสิ่ง ไม่มีเหลือแล้วสิ่งใด มีเพียงร่างไร้วิญญาณและลมหายใจ ของหญิงผู้เป็นที่รัก กับตัวเขาและห้วงคำนึงกลางลำน้ำของ บ้านเรือนถูกเผาสิ้น แผ่นดินสิ้นเจ้าครอง พี่น้องล้มตายจาก น้ำตาและความพลัดพรากเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ไร้สิ้นดินแดนให้อาศัย เผ่าพงษ์ของคนแผ่นดินนี้ศรัทธา ในพุทธศาสนาแน่นแฟ้น อยู่ในศีลแน่นหนัก มีหัวใจรักเคารพต่อธรรมชาติดั่ง บุตรเคารพมารดา มิเคยคิดคดรุกรานทำร้ายผู้ใด แล้วกรรมใดที่ทำให้ต้องมามีชะตาเยี่ยงนี้ แม่พระธรณีจงเมตตาแม่ของนทีจง กรุณาผืนฟ้าจงปราณี ขอแผ่นดินนี้กลับคืนสู่ผู้เป็นเจ้าของเดิมด้วยเถิด สองแขนยังคงกอดร่างนางแน่น สองขาพานางเดินลงสู่ลำน้ำของ ลึกลงๆๆๆ...น้ำตาเป็นสายจากหัวใจไหลผ่านตาไหลไปรวมกับสายน้ำแม่ของ ทั้งคู่ค่อยๆกลืนหายจมไปกับสาย น้ำกว้างใหญ่ จมหายไปสู่เมืองพญานาคใต้ลำน้ำแม่ของ ทิ้งไว้เพียงผิวน้ำนิ่งสนิทสงบไหลเอื่อยมินำพาหวั่นไหวต่อสิ่งใด แม่ของเอย... ลำน้ำแห่งชีวิต ... แล้ววันหนึ่ง เราจักกลับมา ...
แม่นายค่าย ศ. บุณศรี ผู้บันทึก
หมายเลขบันทึก: 349775เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2010 14:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยมชมครับ

ขอบคุณขอรับที่แวะมาเยี่ยมชม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท