writeสาระ (๓๓) ความฝันอันแปลกที่สุด
Last night I had the strangest dream
เมื่อคืนนี้ ฉันได้ฝัน แปลกที่สุด
I’d ever dreamed before
ฉันไม่เคยฝันเช่นนี้มาก่อน
I dreamed the world had all agreed
ฉันได้ฝันว่า...คนทั้งโลกได้ร่วมกันตกลง
To put an end to war
ที่จะสิ้นสุดสงคราม
I dreamed I saw a mighty room
ฉันฝันว่า ฉันได้เห็นห้องกว้างใหญ่
And the room was filled with women and men
และห้องนั้นเต็มไปด้วยหญิงกับชาย
And the paper they were singing said
และกระดาษที่พวกเขากำลังเซ็นอยู่ ระบุว่า..
They’d never right again
เขาทั้งหลายจะไม่ต่อสู้กันอีกต่อไป
And when that paper was all signed
และเมื่อกระดาษแผ่นนั้นได้ถูกเซ็นลงเรียบร้อย
And a million copies made
แล้วสำเนาเป็นล้าน ได้ทำขึ้น
They all Joined hands and circled ‘round
ทั้งหมดได้จับมือกัน และหมุนเป็นวงกลม
And grateful prayers were prayed
และผู้สวดภาวนาขอบคุณ ก็ได้สวดอ้อนวอนขึ้น
And the people in the streets below
แล้วประชาชนบนท้องถนนเบื้องล่าง
Were dancing ‘round and ‘round
กำลังเต้นรำไปรอบ ๆ
Lay scattered on the ground
บรรดา ปืนและอาวุธ พร้อมเครื่องแบบ
ได้เกลื่อนกระจายอยู่ตามพื้นดิน
..................................................
ถ้าหากว่าทุกอย่างเป็นเช่นความฝันที่เราวาดเอาไว้ โลกนี้ก็คงไม่มีการฆ่าฟันกันอย่างทุกวันนี้ เสียงเพลงจะห่อหุ้มผิวของโลกไว้ด้วยความนุ่มละมุน ผู้คนต่างยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน แล้วทำไมพวกเขาทั้งหลายจึงไม่ต้องการสิ่งนี้เล่า มันอาจจะ เป็นคำถามเก่า ๆ ที่น่าเบื่อหน่าย แต่ถึงอย่างไร คำถามเช่นนี้ก็จะเกิดขึ้นอยู่ทุกยุคทุกสมัย
...................................................
จากบทเพลง Strangest Dream เนื้อร้องและทำนองโดย เอ็ด แม็คเคอร์ดี้ (Ed McCurdy) ซูซาน สตาร์ค (Susan Stark) ขับร้องอยู่ในอัลบั้มชุด “เด็กในยุคนิวเคลียร์” หรือ Child Of The Nuclear Age)
………………………..แปลโดย สิเหร่ จาก บทกวีในเสียงเพลง