วัยรุ่นตั้งท้อง
วัยรุ่นตั้งท้อง
เช้านี้ ผมมามูลนิธิฯ แต่เช้าเพราะมีนัดกับนักศึกษาปริญญาเอกจากนิด้า ที่มาขอสัมภาษณ์ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับกรณี “เด็กวัยรุ่นตั้งท้อง” ผมได้แต่บอกเขาไปว่าสถิติการตั้งท้องของเด็กวัยรุ่นสูงขึ้นมากและแพร่ไปในทุกจังหวัดของประเทศไทย ตัวเลขนั้นสามารถขอได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง
สำหรับการป้องกันแก้ไขนั้น เป็นไปตามความเชื่อของแต่ละคน บางคนเชื่อว่าต้องมุ่งเน้นที่การรณรงค์ค่านิยม “รักนวลสงวนตัว”อย่างจริงจังโดยอาศัยความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนงและอาศัยพ่อแม่ ครูอาจารย์ช่วยย้ำสอนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมุ่งสอน “เด็กผู้ชาย”ไม่ให้ล่วงเกินเด็กผู้หญิง แนวคิดนี้ผมเชื่อเช่นกันครับ
อีกแนวคิดหนึ่ง ล้ำสมัยไปหน่อย คือยอมรับว่าเด็กสมัยนี้มีเพศสัมพันธ์กันง่ายและป้องกันยากให้ยอมรับและมุ่งเน้นสอนให้รู้ถึงการ “ป้องกันการตั้งท้องและติดโรค” ได้แก่ให้รู้จักการสวมถุงยางทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หรือรู้จักยาคุมฉุกเฉินจะได้หาซื้อกินภายใน 48 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แนวคิดนี้อาจจะเหมาะกับเด็กกลุ่มที่พ่อแม่ปล่อยปละละเลยจนพูดคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว
สรุปสั้นๆ เช่นนี้ เพื่อท่านที่สนใจจะได้มีส่วนร่วมคิดและเสนอวิธีการป้องกันที่ดีกว่านี้ ส่งมายังผมเพื่อจะได้ผลักดันนำไปใช้เป็นนโยบายต่อไป สำหรับวันนี้พอก่อนนะครับ วันหน้าพบกันใหม่
ครูหยุย
9 กุมภาพันธ์ 2553
ความเห็น (2)
ง่ายดีนะครับ แก้ปัญหาแบบนี้ ชี้โพรงให้จระเข้หรือเปล่าครับ
ปัญหาแบบนี้ต้องแก้ที่ต้นเหตุ ฉีดวัคซีนให้เด็ก สิครับ
ครูหยุยเหนือยยากทำงานเพื่อเด็ก มาตลอด ผมก็ส่ายหัวมาตลอดเมื่อได้ทราบข่าวเช่นว่านี้และวิธีคิดที่ผู้ใหญ่นำเสนอแบบนี้
สังคมไปไกลมากแล้ว ผมสลดใจมากเมื่อได้ยินข่าวการสอนเพศศึกษาด้วยวิธีอย่างว่าของโรงเรียนชื่อดังแถวสะพานพุทธ ก็ดีนะครับง่ายดีไม่ต้องคิดมาก กำปั้นทุบดิน.. ดังไปแล้ว... แล้วสังคมตอนนี้เป็นอย่างไร ดีขึ้นหรือไม่เกือบ ๒๐ ปีแล้วครับที่นำเสนอเรื่องราวแบบนี้สังคมก็ยิ่งแย่เพราะแก้ปัญหาไม่ถูกจุด
วิธีแก้ปัญหาแบบนี้เป็นวาระแห่งชาติครับ เป็นเรื่องของวงจร..อุ
ปัญหาวัยรุ่นตั้งท้องในปัจจุบันรุนแรงมากจริงๆค่ะ แต่อย่างหนึ่งที่ต้องคิดก็คือว่า
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากตัวเด็กเท่านั้นเป็นปัญหาที่ต้องดูกันในระดับสังคมเลยทีเดียว
สังคมสมัยนี้โดยเฉพาะสื่อนำเสนออะไรให้เด็ก ที่ต้องบอกว่าเด็กเพราะภาพต่างๆ
ไม่ได้รับกันมาเมื่อเป็นวัยรุ่นแต่รับกันมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบด้วยซ้ำ
แล้วคนที่สร้างสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่วัยรุ่นสร้าง แต่กลับเป็นผู้ใหญ่ที่สร้าง...
ที่บ้านก็มีส่วน..เพราะเด็กบ้างส่วนที่เคยสอนมาเด็กเล็กนะคะ แอบเห็นภาพเหล่านี้ตั้งแต่
เล็ก แล้วไม่ได้เป็นภาพที่เกิดจากคนอื่นคนไกลเลย กลับเป็นภาพที่เห็นจากพ่อแม่ของตัวเอง
ด้วยซ้ำ เมื่อตัวแบบสร้างประสบการณ์เหล่านี้ให้เด็ก แล้วเมื่อพวกเค้าเป็นวัยรุ่น..วัยแห่งการ
ทดลองเค้าจะไม่ลองเรื่องเหล่านี้เชียวหรือ โรงเรียนเองก็มีส่วนสำคัญการปลูกฝังแต่วิชา
ความรู้โดยไม่คำนึงถึงทักษะชีวิตที่เด็กจะได้รับผลสุดท้ายการศึกษาก็ล้มเหลว แม้ว่า
ในแง่วิชาการจะโดดเด่นแต่เบื้องหลังเหล่านี้กลับมีแต่ปัญหาที่พยายามปกปิดเอาไว้ นานวัน
ปัญหาเหล่านี้ก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นจนไม่สามารถปิดได้..เมื่อนำปัญหามาผ่าดูก็แทบจะสาย
เกินแก้เสียแล้ว...
แหมบ่นมาเสียยืดยาวเชียว ตามประสาคนแก่ค่ะ...สรุปก็คือปัญหาเหล่านี้แก้ไม่อยากหรอกค่ะ..
แต่ที่ยากก็คือว่าจะทำอย่างไรให้คนทุกคน...ย้ำอีกทีนะคะว่าคนทุกคน เห็นความสำคัญของปัญหา
และปรับพร้อมกัน เพราะถ้าแก่ที่คนเพียงบางกลุ่ม โดยที่อีกกลุ่มไม่ได้สนใจแม้แต่จะฟัง
มันก็เป็นเพียงการเอาลิควิดป้ายลงบนข้อความที่ผิดเท่านั้น แต่สิ่งที่ผิดจริงๆยังคงอยู่ไม่ได้
หายสาบสูญไปอย่างที่เข้าใจกัน
....ขอบคุณค่ะที่ทนอ่านมาเสียนาน.....