การปลูกผักในปัจจุบันมีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชในปริมาณมาก เนื่องจากผักเป็นพืชที่มีแมลงศัตรูพืชหลากหลายทำให้สารเคมีตกค้างอยู่ในผักในปริมาณที่เป็นอันตราย ต่อผู้บริโภคประกอบกับปัจจุบันผู้บริโภคมีความต้องการอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น สำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาทจึงส่งเสริมการปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ โดยจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ และให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีในการผลิตและการจัดการด้านการตลาดแก่เกษตรกร โดยดำเนินงานโครงการส่งเสริมการปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษจังหวัดชัยนาท ปี 2552 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรเรียนรู้และตื่นตัวในการผลิตผักปลอดภัยจากสารพิษ รวมทั้งให้เกษตรกรรวมกลุ่มดำเนินกิจกรรมผลิตผักปลอดภัยจากสารพิษและสร้างระบบการจัดการด้านการผลิตและการตลาด จำนวน 2 กลุ่ม ๆ ละ 20 ราย และให้เกษตรกรสมัครเข้ารับการตรวจรับรองตามระบบการจัดการคุณภาพ(GAP)พืชผัก เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในผลผลิตของเกษตรกร
นายบำรุง ศรีทองใส เกษตรจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า โครงการส่งเสริมการปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษจังหวัดชัยนาท ปี 2552 กิจกรรมที่ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้วคือการถ่ายทอดความรู้ตามระบบโรงเรียนเกษตรกร จำนวน 5 ครั้งต่อโรงเรียน สนับสนุนโรงเรือนปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษแก่เกษตรกร(ผักกางมุ้ง) จำนวน 34 โรงเรือน และถ่ายทอดความรู้การผลิตเชื้อราบิวเวอเรีย เพื่อใช้สำหรับป้องกันกำจัดแมลงศัตรูผัก อีกจำนวน 2 โรงเรียน กิจกรรมต่างๆ ดำเนินการในพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านหนองกระเบา ต.ห้วยงู อ.หันคา และหมู่ที่ 4 บ้านหลั่น ต.ท่าฉนวน อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
การจัดตั้งแปลงเรียนรู้และสาธิตผักไร้ดินเป็นอีกกิจกรรมหนึ่ง จัดทำไว้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาท เพื่อเป็นจุดศึกษาดูงานและฝึกอบรมสำหรับเกษตรกร ประกอบไปด้วย โรงเรือนอนุบาลต้นกล้า จำนวน 1 โรงเรือน ขนาด 1 X 2.40 เมตร และโรงเรือนแปลงปลูกจำนวน 3 โรงเรือน ขนาด 2 X 7.20 เมตร ปลูกได้ 1,200 หลุม ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ เพราะสามารถผลิตผักที่ดีมีคุณภาพ ปลอดภัยจากสารพิษ และเป็นผักที่สวยงามเป็นที่ต้องการของตลาดและถูกใจต่อผู้บริโภค
สำหรับการเพาะปลูกนั้นผู้เขียนได้ติดตามคุณพี่วัชรี เอี่ยมรอด นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ผู้รับผิดชอบจุดสาธิตการปลูกผักแบบไม่ใช้ดิน พบว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาท ได้ปลูกพืชไร้ ดินเพื่อเป็นสถานที่เรียนรู้แก่เกษตรกรผู้สนใจ จำนวน 3 โรงเรือน และโรงเรือนเพาะกล้า 1 โรงเรือน ลักษณะการปลูกพืชแบบให้สารละลายธาตุอาหารพืชและอากาศไหลวนผ่านรากพืชในระดับน้ำลึกอย่างต่อเนื่องในการปลูก โดยมีขั้นตอนการปลูกไม่ยากนัก คือ
สำหรับการเก็บเกี่ยวนั้น ก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิต จะหยุดเติมสารละลายธาตุอาหาร แต่จะเติมน้ำเปล่าแทน เพื่อลดความเข้มข้นของสารละลายธาตุอาหาร เป็นระยะเวลา 4-5 วัน
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้อ่าน จึงขอนำเสนอข้อดีและข้อเสียของการปลูกพืชไร้ดินดังนี้
ข้อดี
สามารถปลูกพืชได้ทั้งปี เหมาะสำหรับปลูกในสถานที่ที่มีพื้นผิวดินสำหรับปลูกพืชน้อยในบริเวณบ้าน ง่ายต่อการควบคุมและป้องกันโรคและแมลง ไม่ใช้สารเคมีกำจัดแมลง 100% และไม่มีปัญหาในการกำจัดวัชพืชในพื้นที่ปลูก ประหยัดน้ำและปุ๋ยเพราะสามารถควบคุมได้ตามที่พืชต้องการ ผลผลิตที่ได้สม่ำเสมอ และอายุเก็บเกี่ยวเร็วขึ้น เนื่องจากพืชสามารถนำธาตุอาหารไปใช้ได้อย่างสม่ำเสมอ ผลผลิตที่ได้มีความสะอาด สด คุณภาพดี และที่สำคัญคือ ปลอดสารพิษ จึงสามารถพัฒนาการปลูกไปในเชิงพาณิชย์ได้
ข้อเสีย
ของการปลูกพืชไร้ดิน เนื่องจากต้องใช้วัสดุและอุปกรณ์จึงต้องลงทุนสูงในระยะแรก สามารถปลูกได้ทั้งผักไทย ผักจีน และผักต่างประเทศ ผู้ปลูกต้องมีความรู้อย่างแท้จริงต่อการปลูกพืชไร้ดิน ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามดูงานได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดชัยนาท สำหรับด้านการตลาดนั้นไม่ถือเป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีต่อเกษตรกรที่สนใจทำธุรกิจการปลูกพืชไร้ดินมากขึ้น
หมายเหตุ ธาตุอาหารที่เรานำมาใช้ เป็นธาตุอาหารที่ค่อนข้างบริสุทธิ์เมื่อผ่านกระบวนการสังเคราะห์โดยใบพืชและแสงแดดจะถูกเปลี่ยนเป็นผักปลอดสารพิษที่เหมาะกับการบริโภค ความต้องการพื้นฐานของพืชนอกจากธาตุอาหารที่เหมาะสมแล้ว ยังมีแสงแดด น้ำ อากาศ เมล็ดพันธุ์ที่ดี เพื่อการเติบโตอีกด้วย(ความรู้และธาตุอาหารพืชจาก บริษัทศูนย์เกษตรกรรมบางไทรจำกัด )
ขอบคุณครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจพืชไร้ดิน แต่เคยทำแต่แบบแผงเล็กๆ ไทยประดิษฐ์ ไม่ใหญ่โตขนาดนี้
เป็นทางเลือกที่ดี น่าส่งเสริมครับ