ครูนอกระบบ
นาง ณัฐนิธิ อารีย์ อักษรวิทย์

<เล่าสู่กันฟัง>พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา จาก พลตำรวจ ถึง พลเอก ด้วยผลงานอย่างภาคภูมิ


คนของแผ่นดินไทย

พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา
ยอดวีรบุรุษ แห่ง สภ.บันนังสตา จ.ยะลา....คนดีที่จากโลกไป

      
     ๐ พฤษภกาสร         อีกกุญชรอันปลดปลง
       โททนต์เสน่งคง      สำคัญหมายในกายมี
        ๐ นรชาติวางวาย      มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
       สถิตทั่วแต่ชั่วดี       ประดับไว้ในโลกา

       
       (คำฉันท์ตอนหนึ่ง พระนิพนธ์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส)

        
ประวัติท่าน....ที่น่ายกย่อง
 
“”"  พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.กระดูกเหล็ก แห่ง สภ.บันนังสตา ยะลา หรือ ”

จ่าเพียรมือปราบ ” ..ในอดีต ..
… สิ่งที่จะได้นำมาเสนอในครั้งนี้ ไม่ใช่จะมาช่วยกู้ภาพลักษณ์ให้กับวงการตำรวจ “แต่อยาก” นำแบบอย่างของ “ตำรวจดี ” นายหนึ่งที่ตลอดทั้งชีวิต ในเครื่องแบบสีกากี ตั้งแต่ เป็น ” พลตำรวจ ” จนถึงปัจจุบัน  ” พันตำรวจเอก “  กว่า30 ปี ที่เขาทำงานคลุกคลีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านการปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบมานับร้อยครั้ง ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ หลายต่อหลายหนจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ปัจจุบัน นายตำรวจผู้นี้ดำรงตำแหน่ง ” ผู้กำกับการตำรวจภูธร สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ” …
… ใช่แล้ว เขาคือ ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ” ผู้กำกับฯ ” กระดูกเหล็ก ” แห่งวงการตำรวจชายแดนใต้ ที่ชื่อเป็นที่ครั่นคร้ามของกลุ่มแนวร่วมฯ ในนามของ ” จ่าเพียรมือปราบ ” ฉายาที่ติดตัวมาตั้งแต่เป็นตำรวจชั้นประทวน ..


… ตั้งแต่ปี 2513 หลังจบการศึกษา โรงเรียนตำรวจภูธร 9 จังหวัดยะลา พลฯสมเพียร เอกสมญา ถูกส่งเข้าเป็นตำรวจประจำ สภอ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งในขณะนั้น พื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตเคลื่อนไหวของขบวนการโจรก่อการร้าย แบ่งแยกดินแดน อย่างหนักทำให้ภาครัฐต้องระดมสรรพกำลัง ทั้งทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง เข้าไปแย่งชิงมวลชน และดูแลความสงบเรียบร้อย หลายครั้งที่เกิดการปะทะ  ทำให้มีการสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย และ ปฐมบทแห่งการเป็น จ่าเพียรมือปราบ ก็เกิดขึ้นที่นั่น …

 

 
“”"”  ผู้ฝากผลงาน ด้านการสืบสวน ปราบปราม สู้กับ โจรก่อการร้าย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้  มากว่า 30 ปี “”"
… จากชีวิตตำรวจที่คลุกคลีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด เขาได้สร้างผลงานด้านการปราบปราม ต่อสู้กับโจรก่อการร้ายอย่างห้าวหาญ  สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ของผู้บังคับบัญชา ทำให้กรมตำรวจ (ในขณะนั้น) ได้อนุมัติให้เข้ารับการ อบรมหลักสูตร ” นายตำรวจสัญญาบัตร ” โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก และได้รับการเลื่อนลำดับขั้น จากผงพวงการทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด …

                 

 
… และหากนับผลการปฏิบัติราชการตรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ ปี 2513 จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่เป็น ” พลตำรวจ”  จนถึงยศ “พันตำรวจเอก  ” เขาได้เข้าทำการปะทะต่อสู้กับโจรก่อการร้าย โจรจีนคอมมิวนิสต์ มาแล้วนับ 100 ครั้ง สามารถสังหารฝ่ายตรงข้าม ยึดอาวุธปืน และที่พักเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลในการนำกำลังเข้าปะทะกับโจรก่อการร้ายดังกล่าว ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทั้งเล็กน้อยและสาหัส จำนวน 8 ครั้ง เช่นในปี 2519 ได้ยิงปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้าย กลุ่มนายลาเตะ เจาะปันตัง ที่จับกุมตัวตำรวจและครอบครัวไปเรียกค่าไถ่ ที่เทือกเขาเจาะปันตัง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ผลการปะทะทำให้ เขา ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขาซ้าย หน้าอกได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งรักษาตัว รพ.ศูนย์ยะลา และจากการปะทะในครั้งนี้ทำให้ขาข้างซ้ายแทบพิการ  ..


“”" ไม่ทิ้งงานมวลชน ในพื้นที่ “”"
… และปี 2526 ได้ยิงปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้าย กลุ่มนายคอเดร์ แกแตะ กับพวกประมาณ 30 คน ที่ อ.สะบ้าย้อย                 จ.สงขลา ทำให้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ต้นขาขวากระสุนฝังใน …… เป็นต้น ..
… จากความทุ่มเท มุ่งมั่น ทำงานอย่างหนักในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ มวลชนให้ความยอมรับให้ความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ ” ฝ่ายตรงข้ามเกรงกลัว ” จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง ในปี 2550 เขาได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ” ผู้กำกับการตำรวจภูธร สภ.บันนังสตา จ.ยะลา แห่งเดียวกับที่เริ่มรับราชการครั้งแรก เมื่อยังเป็นตำรวจชั้นประทวน …

"เครื่องแบบนายตำรวจ น้อยครั้งที่จะนำมาสวมใส่  เนื่องจากต้องการทำตัวให้ใกล้ชิดและ เข้าถึงชุมชนให้มากที่สุด "

… พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา กลับสู่บันนังสตา ในขณะแผ่นดินกำลังลุกเป็นไฟ กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ สามารถจัดตั้งแนวร่วมฯ และกองกำลังรบขนาดเล็ก ( RKK) เพื่อใช้ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ ให้ได้รับความสูญเสียเป็นจำนวนมาก  โชคดีที่ พ.ต.อ.สมเพียร เคยทำงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลานาน แม้รูปแบบการก่อความไม่สงบของกลุ่มคนร้ายได้ปรับเปลี่ยนไปจาก เมื่อ เกือบ 30 ปี ที่แล้วมาก แต่อาศัยเป็นผู้ชำนาญในพื้นที่มาก่อน และมีแหล่งข่าวเก่าที่เคยทำงานร่วมกันในอดีต จึงไม่เกินความสามารถที่จะที่จะสืบเสาะหาแหล่งกบดาน และติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ และหลังจากเขาเข้ามารับตำแหน่ง ผกก.สภ.บันนังสตาได้ไม่นาน วันที่ 1 สค.50 ได้ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้าปิดล้อมตรวจค้น และยิงปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้ายที่บ้านเตี๊ยะ หมู่ 5 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา กลุ่มนายสุริมิง เปาะสา ที่ก่อเหตุร้ายในพื้นที่หลายครั้ง ผลการปะทะ ทำให้กลุ่มคนร้ายเสียชีวิต 6 ราย สามารถยึดอาวุธปืนสงครามและยุทธภัณฑ์ได้เป็นจำนวนมาก …
… นอกจากนี้ยังได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพลเรือน เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอีกหลายครั้ง สามารถจับกุม สร้างความสูญเสียให้กับกลุ่มคนร้าย และทำลายฐานที่มั่น ได้หลายแห่ง จนขบวนการกลุ่มก่อความไม่สงบ รวมตัวกันไม่ติด หนีหลบซ่อนออกนอกพื้นที่และบริเวณป่าเขา ทำให้เหตุร้ายใน พื้นที่ อ.บันนังสตา เบาบางลงมาก …

… แม้ พ.ต.อ.สมเพียร จะมีความสามารถในงาน สืบสวน ปราบปราม แต่ งานมวลชน เขาก็ไม่ได้ละทิ้ง ยังคงติดต่อฟื้นสายสัมพันธ์เก่า กับประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่ ที่เคยทำงานร่วมกันมาเมื่อครั้งอดีต ด้วยใจถึงใจ ต่อกัน มีกิจกรรมใดๆที่เกี่ยวกับการสร้างความเข้าใจและความรู้สึกอันดีกับชุมชน เขาไม่เคยที่จะปฏิเสธในการเข้าไปมีส่วนร่วม แม้จะรู้ว่ามีอันตรายแฝงอยู่ในทุกย่างก้าว …

            

“”" เป็นกันเองกับผู้ใต้บังคับบัญชา “”"

 
ผลจากการทำงานทุ่มเทมาตลอดชีวิตข้าราชการตำรวจ ทำให้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ได้รับการยกย่อง และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆเป็นจำนวนมาก และ ที่สร้างความปลาบปลื้ม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสูงสุดในชีวิต และครอบครัว คือ ได้รับการโปรดเกล้า ฯ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับพระราชทาน ” เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญมาลาเข็มกล้ากลางสมร ” ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง และกระทำพิธี ” ถือน้ำพิพัฒน์สัตยา “  ณ อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2525 …

“”"” ภาระกิจในพื้นที่ บันนังสตา ต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว “”"
… และนับเป็น ตำรวจเพียงคนเดียว ในขณะมียศแค่ ” จ่าสิบตำรวจ ” ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ …
… นอกจากนี้ พ.ต.อ.สมเพียร  ยังได้รับพระราชทาน และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆอีกมากมาย เช่น ..
1.ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นสอง ประเภทหนึ่ง
2.ได้รับประกาศนียบัตร ” ผู้มีผลงานสู้รบดีเด่น ” จากกระทรวงมหาดไทย
3.ได้รับเข็มรักษาดินแดนสดุดี จากกระทรวงมหาดไทย
4.ได้รับมอบเกียรติบัตรผู้ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติด้วยความเสียสละ จากองค์การทหารผ่านศึก
5.ไดัรับประกาศผู้มีผลงานดีเด่นด้านการปราบปราม จากกองบัญชาการตำรวจภูธร 9
6.ได้รับการคัดเลือกเป็นศิษย์เก่า โรงเรียนตำรวจภูธร 9 ดีเด่น
7.ได้ รับหนังสือสำคัญ จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต ) ยกย่องเชิดชู เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน และรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง ด้วยความเข้มแข็งเสียสละ
8 .ฯลฯ …
“”" และล่าสุด หลังจากรับตำแหน่ง ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา  ตั้งแต่ปี 2550 เป็นตันมา พ.ต.อ.สมเพียร ได้นำกำลังเข้าปิดล้อม ตรวจค้น และได้มีการปะทะยิงต่อสู้กับแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบ (RKK) มาแล้วจำนวน 7 ครั้ง ทำให้คนร้ายเสียชีวิต จำนวน 17 คน สามารถยึดอาวุธสงครามและยุทธภัณฑ์ได้เป็นจำนวนมาก ทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็น ” ผู้นำหน่วยยอดเยี่ยม ” จากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า ( ศปก.ตร.สน ) …

 บทสัมภาษณ์สุดท้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา...อยากให้ผู้บังคับบัญชารับรู้ว่าพวกเราทำงานกันอย่างไร

 
 "บางทีคงอยากให้ยศพลตำรวจเอก แก่ผมตอนตายแล้วมากกว่า" 

บทสัมภาษณ์สุดท้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา...อยากให้ผู้บังคับบัญชารับรู้ว่าพวกเราทำงานกันอย่างไร

          ก่อนถูกระเบิดเสียชีวิตไม่ถึง 10 วัน พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ทีมข่าวอิศรา” เอาไว้ เป็นบทสัมภาษณ์สุดท้ายที่สะท้อนให้เห็นตัวตนและจุดยืนของเขากับการทำงานใน พื้นที่เสี่ยงอันตรายนี้...ก่อนที่เขาจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ

          “ที่ผมเดินทางไปโวยวายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมไม่ได้ไปโวยวายเพื่อให้ตัวเองได้ดิบได้ดี แต่อยากให้ผู้บังคับบัญชาในระดับสูงรับรู้ว่าพวกเราทำงานกันอย่างไร เราทำงานท่ามกลางความขาดแคลน แต่ไม่เคยเอาอุปสรรคตรงนี้ไปอ้างเพื่อสร้างปัญหา” พ.ต.อ.สมเพียร เปิดใจถึงเรื่องที่บุกไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามความเป็นธรรมเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย

          “เช่นเดียวกับที่ผมไปทำเนียบรัฐบาล ก็ไม่ได้ไปเพราะความผิดหวังที่ไม่ได้โยกย้ายไปที่อื่น แต่มันถึงเวลาแล้ว อายุราชการผมเหลืออีกปีกว่าๆ ก็น่าจะมาพูดคุยกัน ต้องพูดความจริงว่าในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดอะไรขึ้น”

          พ.ต.อ.สมเพียร ทำเรื่องขอย้ายจาก สภ.บันนังสตา ไปเป็นผู้กำกับการ สภ.กันตัง จ.ตรัง โดยให้เหตุผลกับผู้บังคับบัญชาว่าเขาทำงานด้วยความลำบากตรากตรำในพื้นที่ เสี่ยงอันตรายมาหลายสิบปี น่าจะได้พักบ้างในช่วง 18 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ แต่แล้วเขาก็ต้องพลาดหวัง กระทั่งต้องบุกไปยื่นหนังสือถึงศูนย์กลางอำนาจในเมืองหลวง

          “หลังจากผมไปยื่นหนังสือก็มีกระแสการตอบรับที่ดี บอกตรงๆ หลังจากเกษียณราชการแล้ว ผมอยากนั่งกินน้ำชา นั่งนินทาเพื่อน แล้วก็กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวบ้าง เพราะผมไม่ได้อยู่กับครอบครัวมานานถึง 40 ปี เวลาที่อยู่กับครอบครัวมีน้อยมาก ผมโดดเดียว อยู่คนเดียวมาตลอด“

          แต่เมื่อไม่ได้ย้ายก็คือไม่ย้าย พ.ต.อ.สมเพียร บอกว่าพร้อมจะทำงานต่อไปจนสิ้นอายุราชการ โดยเฉพาะกับ อ.บันนังสตา ซึ่งเขามีความหลังให้ระลึกถึงไม่น้อยเลย 


วันสุดท้ายของชีวิต....


           ศูนย์ วิทยุสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณกลุ่มบ้านทับช้าง ม.2 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 นาย ทราบชื่อ คือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ โลมา รองสารวัตรปราบปรามบันนังสตา ด.ต.โสภณ อินทรบวร และ ส.ต.ท.ระวิกรณ์ สังข์ศิริ ทั้งหมดถูกลำเลียงทั้งทางรถยนต์และเฮลิคอปเตอร์ ส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เป็นการด่วน
        จากการสอบสวน ทราบว่า ขณะที่ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา นั่งรถยนต์กระบะ มาพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นาย เพื่อออกไปติดตามหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายออกมาเคลื่อนไหว เมื่อเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบกลุ่มกดระเบิดที่ฝังไว้ จนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ซึ่งในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิดกว้างประมาณ 2 เมตร ลึกประมาณ 1 เมตร ที่คนร้ายซุกระเบิดไว้ใต้ท่อระบายน้ำใต้ผิวถนน แล้วลากสายไปยังป่าข้างทาง         เบื้องต้นเชื่อว่า เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบอย่างต่อเนื่อง

และพ.ต.อ.สมเพียร  เอกสมญา ได้เสียชีวิตลง....เป็นการจากลาโดยคาบน้ำตาของคนไทย

……….. นี่คือเรื่องราวเพียงเศษเสี้ยวของชีวิต ตำรวจนายหนึ่ง ที่ทำงานทุ่มเท เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับตำรวจน้ำดีในพื้นที่อีกหลายคน พวกเขาเสมือนผู้ปิดทองหลังพระ  ภายใต้เครื่องแบบสีกากี ที่เขาแสนภาคภูมิใจ แม้จะเหน็ดเหนื่อย ตรากตรำ และ เสี่ยงต่ออันตรายแค่ไหน แต่เขาไม่เคยย่อท้อ แม้อายุราชการ ของ พ.ต.อ.สมเพียร จะเหลืออีกไม่กี่ปี แต่เขายืนยัน ปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด สมดั่งปรัชญา ” ตำรวจคือ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ” …

 

 ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ !!  

คำสุดท้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.บันนังสตา



 





 


 ขอดวงวิญญาณ ท่าน พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา จงสู่สุคติ

       ขอให้คนไทยทุกคนชื่นชมความกล้า ความเสียสละชีวิตทั้งชีวิต...เพื่อแผ่นดิน  ตลอดไป   เป็นบทเรียนของคนทำงานจริง...ไม่ใช่ทำงานเอาหน้า เลียบผู้บังคับบัญชาและนักการเมืองเท่านั้น    ด้ามขวานทองของเรา(ภาคใต้)....จะสงบมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างนี้ค่ะ....

หมายเลขบันทึก: 346669เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2010 11:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 11:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ครูป้อมต้องขอขอบคุณกับบทความที่สะท้อนสังคมไทยอันแท้จริงเลยนะครับ

ความเห้นอกเห้นใจ จะมีไหมเล่าในหมูมวลมนุษย์ ตำรวจดีๆ ก็มีบ้าง ทหางเลวๆ ก็มีเยอะ

ส่วนใหญ่ผู้รับใช้ชาติที่สละชีพส่วนใหญ่ ผมเห็นแต่ยศต่ำๆ คนผู้น้อย แต่อยากถามย้อนกลับว่าพวกที่ยศใหญ่ๆ ไปตีกล์อฟสนามไหน

ไปเที่ยวที่ต่างประเทศไหน ไปนั่งประชุม(อันไร้ค่า)ที่โรงแรม 5 ดาวไหน ได้โบนัสกี่ 100 เท่าของเงินเดิน ฯลฯ

สงสารคนที่ตั้งใจทำงาน ใน 3 จังหวัด และขอประนามหัวหน้าทีสักแต่สั่งการ..

เห็นด้วยอย่างยิ่ง กับคุณราชิต สุพร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท