พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา
ยอดวีรบุรุษ แห่ง สภ.บันนังสตา จ.ยะลา....คนดีที่จากโลกไป
๐ พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
๐ นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
(คำฉันท์ตอนหนึ่ง พระนิพนธ์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส)
ประวัติท่าน....ที่น่ายกย่อง
“”" พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.กระดูกเหล็ก แห่ง สภ.บันนังสตา ยะลา หรือ ”
จ่าเพียรมือปราบ ” ..ในอดีต ..
… สิ่งที่จะได้นำมาเสนอในครั้งนี้ ไม่ใช่จะมาช่วยกู้ภาพลักษณ์ให้กับวงการตำรวจ “แต่อยาก” นำแบบอย่างของ “ตำรวจดี ” นายหนึ่งที่ตลอดทั้งชีวิต ในเครื่องแบบสีกากี ตั้งแต่ เป็น ” พลตำรวจ ” จนถึงปัจจุบัน ” พันตำรวจเอก “ กว่า30 ปี ที่เขาทำงานคลุกคลีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านการปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบมานับร้อยครั้ง ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ หลายต่อหลายหนจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ปัจจุบัน นายตำรวจผู้นี้ดำรงตำแหน่ง ” ผู้กำกับการตำรวจภูธร สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ” …
… ใช่แล้ว เขาคือ ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ” ผู้กำกับฯ ” กระดูกเหล็ก ” แห่งวงการตำรวจชายแดนใต้ ที่ชื่อเป็นที่ครั่นคร้ามของกลุ่มแนวร่วมฯ ในนามของ ” จ่าเพียรมือปราบ ” ฉายาที่ติดตัวมาตั้งแต่เป็นตำรวจชั้นประทวน ..
… ตั้งแต่ปี 2513 หลังจบการศึกษา โรงเรียนตำรวจภูธร 9 จังหวัดยะลา พลฯสมเพียร เอกสมญา ถูกส่งเข้าเป็นตำรวจประจำ สภอ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งในขณะนั้น พื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตเคลื่อนไหวของขบวนการโจรก่อการร้าย แบ่งแยกดินแดน อย่างหนักทำให้ภาครัฐต้องระดมสรรพกำลัง ทั้งทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง เข้าไปแย่งชิงมวลชน และดูแลความสงบเรียบร้อย หลายครั้งที่เกิดการปะทะ ทำให้มีการสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย และ ปฐมบทแห่งการเป็น จ่าเพียรมือปราบ ก็เกิดขึ้นที่นั่น …
“”"” ผู้ฝากผลงาน ด้านการสืบสวน ปราบปราม สู้กับ โจรก่อการร้าย ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มากว่า 30 ปี “”"
… จากชีวิตตำรวจที่คลุกคลีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด เขาได้สร้างผลงานด้านการปราบปราม ต่อสู้กับโจรก่อการร้ายอย่างห้าวหาญ สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ของผู้บังคับบัญชา ทำให้กรมตำรวจ (ในขณะนั้น) ได้อนุมัติให้เข้ารับการ อบรมหลักสูตร ” นายตำรวจสัญญาบัตร ” โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก และได้รับการเลื่อนลำดับขั้น จากผงพวงการทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด …
… และหากนับผลการปฏิบัติราชการตรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ ปี 2513 จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่เป็น ” พลตำรวจ” จนถึงยศ “พันตำรวจเอก ” เขาได้เข้าทำการปะทะต่อสู้กับโจรก่อการร้าย โจรจีนคอมมิวนิสต์ มาแล้วนับ 100 ครั้ง สามารถสังหารฝ่ายตรงข้าม ยึดอาวุธปืน และที่พักเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลในการนำกำลังเข้าปะทะกับโจรก่อการร้ายดังกล่าว ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทั้งเล็กน้อยและสาหัส จำนวน 8 ครั้ง เช่นในปี 2519 ได้ยิงปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้าย กลุ่มนายลาเตะ เจาะปันตัง ที่จับกุมตัวตำรวจและครอบครัวไปเรียกค่าไถ่ ที่เทือกเขาเจาะปันตัง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ผลการปะทะทำให้ เขา ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขาซ้าย หน้าอกได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งรักษาตัว รพ.ศูนย์ยะลา และจากการปะทะในครั้งนี้ทำให้ขาข้างซ้ายแทบพิการ ..
“”" ไม่ทิ้งงานมวลชน ในพื้นที่ “”"
… และปี 2526 ได้ยิงปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้าย กลุ่มนายคอเดร์ แกแตะ กับพวกประมาณ 30 คน ที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทำให้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ต้นขาขวากระสุนฝังใน …… เป็นต้น ..
… จากความทุ่มเท มุ่งมั่น ทำงานอย่างหนักในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ มวลชนให้ความยอมรับให้ความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ ” ฝ่ายตรงข้ามเกรงกลัว ” จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง ในปี 2550 เขาได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ” ผู้กำกับการตำรวจภูธร สภ.บันนังสตา จ.ยะลา แห่งเดียวกับที่เริ่มรับราชการครั้งแรก เมื่อยังเป็นตำรวจชั้นประทวน …
"เครื่องแบบนายตำรวจ น้อยครั้งที่จะนำมาสวมใส่ เนื่องจากต้องการทำตัวให้ใกล้ชิดและ เข้าถึงชุมชนให้มากที่สุด "
… พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา กลับสู่บันนังสตา ในขณะแผ่นดินกำลังลุกเป็นไฟ กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ สามารถจัดตั้งแนวร่วมฯ และกองกำลังรบขนาดเล็ก ( RKK) เพื่อใช้ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ ให้ได้รับความสูญเสียเป็นจำนวนมาก โชคดีที่ พ.ต.อ.สมเพียร เคยทำงานอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาเป็นเวลานาน แม้รูปแบบการก่อความไม่สงบของกลุ่มคนร้ายได้ปรับเปลี่ยนไปจาก เมื่อ เกือบ 30 ปี ที่แล้วมาก แต่อาศัยเป็นผู้ชำนาญในพื้นที่มาก่อน และมีแหล่งข่าวเก่าที่เคยทำงานร่วมกันในอดีต จึงไม่เกินความสามารถที่จะที่จะสืบเสาะหาแหล่งกบดาน และติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ และหลังจากเขาเข้ามารับตำแหน่ง ผกก.สภ.บันนังสตาได้ไม่นาน วันที่ 1 สค.50 ได้ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้าปิดล้อมตรวจค้น และยิงปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้ายที่บ้านเตี๊ยะ หมู่ 5 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา กลุ่มนายสุริมิง เปาะสา ที่ก่อเหตุร้ายในพื้นที่หลายครั้ง ผลการปะทะ ทำให้กลุ่มคนร้ายเสียชีวิต 6 ราย สามารถยึดอาวุธปืนสงครามและยุทธภัณฑ์ได้เป็นจำนวนมาก …
… นอกจากนี้ยังได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และพลเรือน เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอีกหลายครั้ง สามารถจับกุม สร้างความสูญเสียให้กับกลุ่มคนร้าย และทำลายฐานที่มั่น ได้หลายแห่ง จนขบวนการกลุ่มก่อความไม่สงบ รวมตัวกันไม่ติด หนีหลบซ่อนออกนอกพื้นที่และบริเวณป่าเขา ทำให้เหตุร้ายใน พื้นที่ อ.บันนังสตา เบาบางลงมาก …
… แม้ พ.ต.อ.สมเพียร จะมีความสามารถในงาน สืบสวน ปราบปราม แต่ งานมวลชน เขาก็ไม่ได้ละทิ้ง ยังคงติดต่อฟื้นสายสัมพันธ์เก่า กับประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมในพื้นที่ ที่เคยทำงานร่วมกันมาเมื่อครั้งอดีต ด้วยใจถึงใจ ต่อกัน มีกิจกรรมใดๆที่เกี่ยวกับการสร้างความเข้าใจและความรู้สึกอันดีกับชุมชน เขาไม่เคยที่จะปฏิเสธในการเข้าไปมีส่วนร่วม แม้จะรู้ว่ามีอันตรายแฝงอยู่ในทุกย่างก้าว …
“”" เป็นกันเองกับผู้ใต้บังคับบัญชา “”"
… ผลจากการทำงานทุ่มเทมาตลอดชีวิตข้าราชการตำรวจ ทำให้ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ได้รับการยกย่อง และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆเป็นจำนวนมาก และ ที่สร้างความปลาบปลื้ม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสูงสุดในชีวิต และครอบครัว คือ ได้รับการโปรดเกล้า ฯ เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับพระราชทาน ” เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เหรียญมาลาเข็มกล้ากลางสมร ” ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง และกระทำพิธี ” ถือน้ำพิพัฒน์สัตยา “ ณ อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2525 …
“”"” ภาระกิจในพื้นที่ บันนังสตา ต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียว “”"
… และนับเป็น ตำรวจเพียงคนเดียว ในขณะมียศแค่ ” จ่าสิบตำรวจ ” ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ …
… นอกจากนี้ พ.ต.อ.สมเพียร ยังได้รับพระราชทาน และประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆอีกมากมาย เช่น ..
1.ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้นสอง ประเภทหนึ่ง
2.ได้รับประกาศนียบัตร ” ผู้มีผลงานสู้รบดีเด่น ” จากกระทรวงมหาดไทย
3.ได้รับเข็มรักษาดินแดนสดุดี จากกระทรวงมหาดไทย
4.ได้รับมอบเกียรติบัตรผู้ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติด้วยความเสียสละ จากองค์การทหารผ่านศึก
5.ไดัรับประกาศผู้มีผลงานดีเด่นด้านการปราบปราม จากกองบัญชาการตำรวจภูธร 9
6.ได้รับการคัดเลือกเป็นศิษย์เก่า โรงเรียนตำรวจภูธร 9 ดีเด่น
7.ได้ รับหนังสือสำคัญ จากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต ) ยกย่องเชิดชู เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคงของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน และรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง ด้วยความเข้มแข็งเสียสละ
8 .ฯลฯ …
“”" และล่าสุด หลังจากรับตำแหน่ง ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ตั้งแต่ปี 2550 เป็นตันมา พ.ต.อ.สมเพียร ได้นำกำลังเข้าปิดล้อม ตรวจค้น และได้มีการปะทะยิงต่อสู้กับแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบ (RKK) มาแล้วจำนวน 7 ครั้ง ทำให้คนร้ายเสียชีวิต จำนวน 17 คน สามารถยึดอาวุธสงครามและยุทธภัณฑ์ได้เป็นจำนวนมาก ทำให้เขาได้รับการยกย่องเป็น ” ผู้นำหน่วยยอดเยี่ยม ” จากศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า ( ศปก.ตร.สน ) …
บทสัมภาษณ์สุดท้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา...อยากให้ผู้บังคับบัญชารับรู้ว่าพวกเราทำงานกันอย่างไร
ก่อนถูกระเบิดเสียชีวิตไม่ถึง 10 วัน พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ทีมข่าวอิศรา” เอาไว้ เป็นบทสัมภาษณ์สุดท้ายที่สะท้อนให้เห็นตัวตนและจุดยืนของเขากับการทำงานใน พื้นที่เสี่ยงอันตรายนี้...ก่อนที่เขาจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
“ที่ผมเดินทางไปโวยวายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมไม่ได้ไปโวยวายเพื่อให้ตัวเองได้ดิบได้ดี แต่อยากให้ผู้บังคับบัญชาในระดับสูงรับรู้ว่าพวกเราทำงานกันอย่างไร เราทำงานท่ามกลางความขาดแคลน แต่ไม่เคยเอาอุปสรรคตรงนี้ไปอ้างเพื่อสร้างปัญหา” พ.ต.อ.สมเพียร เปิดใจถึงเรื่องที่บุกไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามความเป็นธรรมเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย
“เช่นเดียวกับที่ผมไปทำเนียบรัฐบาล ก็ไม่ได้ไปเพราะความผิดหวังที่ไม่ได้โยกย้ายไปที่อื่น แต่มันถึงเวลาแล้ว อายุราชการผมเหลืออีกปีกว่าๆ ก็น่าจะมาพูดคุยกัน ต้องพูดความจริงว่าในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดอะไรขึ้น”
พ.ต.อ.สมเพียร ทำเรื่องขอย้ายจาก สภ.บันนังสตา ไปเป็นผู้กำกับการ สภ.กันตัง จ.ตรัง โดยให้เหตุผลกับผู้บังคับบัญชาว่าเขาทำงานด้วยความลำบากตรากตรำในพื้นที่ เสี่ยงอันตรายมาหลายสิบปี น่าจะได้พักบ้างในช่วง 18 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ แต่แล้วเขาก็ต้องพลาดหวัง กระทั่งต้องบุกไปยื่นหนังสือถึงศูนย์กลางอำนาจในเมืองหลวง
“หลังจากผมไปยื่นหนังสือก็มีกระแสการตอบรับที่ดี บอกตรงๆ หลังจากเกษียณราชการแล้ว ผมอยากนั่งกินน้ำชา นั่งนินทาเพื่อน แล้วก็กลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวบ้าง เพราะผมไม่ได้อยู่กับครอบครัวมานานถึง 40 ปี เวลาที่อยู่กับครอบครัวมีน้อยมาก ผมโดดเดียว อยู่คนเดียวมาตลอด“
แต่เมื่อไม่ได้ย้ายก็คือไม่ย้าย พ.ต.อ.สมเพียร บอกว่าพร้อมจะทำงานต่อไปจนสิ้นอายุราชการ โดยเฉพาะกับ อ.บันนังสตา ซึ่งเขามีความหลังให้ระลึกถึงไม่น้อยเลย
คำสุดท้าย พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.บันนังสตา
ครูป้อมต้องขอขอบคุณกับบทความที่สะท้อนสังคมไทยอันแท้จริงเลยนะครับ
ความเห้นอกเห้นใจ จะมีไหมเล่าในหมูมวลมนุษย์ ตำรวจดีๆ ก็มีบ้าง ทหางเลวๆ ก็มีเยอะ
ส่วนใหญ่ผู้รับใช้ชาติที่สละชีพส่วนใหญ่ ผมเห็นแต่ยศต่ำๆ คนผู้น้อย แต่อยากถามย้อนกลับว่าพวกที่ยศใหญ่ๆ ไปตีกล์อฟสนามไหน
ไปเที่ยวที่ต่างประเทศไหน ไปนั่งประชุม(อันไร้ค่า)ที่โรงแรม 5 ดาวไหน ได้โบนัสกี่ 100 เท่าของเงินเดิน ฯลฯ
สงสารคนที่ตั้งใจทำงาน ใน 3 จังหวัด และขอประนามหัวหน้าทีสักแต่สั่งการ..
เห็นด้วยอย่างยิ่ง กับคุณราชิต สุพร