อาหารเสริมกับผู้ป่วยมะเร็ง ... จำเป็นจริงหรือ??


          สวัสดีค่ะ หลังจากไป OD ที่ชะอำ เมื่อวันที่ 3-5 มี.ค.53 ที่ผ่านมา สัปดาห์ถัดมา ช่วงวันที่ 12-14 มี.ค.53 หนึ่งมีโอกาสได้ไปร่วมประชุมวิชาการประจำปี ของสมาคมรังสีรักษาและมะเร็งวิทยา ปีนี้จัดที่ Holiday inn Resort ชะอำค่ะ
          งานนี้หนึ่งได้ update ข้อมูลมากมาย และมีหัวข้อที่หนึ่งสนใจมากๆอยู่ 2-3 เรื่องด้วยกันค่ะ วันนี้หนึ่งจะเล่าถึงเรื่อง "Nutrition in Cancer Patient"

          ที่ศูนย์มะเร็งฯมักจะมีผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย จำนวนมากที่สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการกินอาหารเสริมค่ะ เนื่องจากได้ยินการโฆษณา การบอกต่อๆกันมา หรือจากการโปรโมททางสื่อต่างๆในอาหารต้านมะเร็ง อาหารก่อมะเร็ง วิตามินป้องกันมะเร็ง แอนตี้อ๊อกซิแดนซ์ เบต้าแคโรทีน ฯลฯ เยอะแยะมากมายค่ะ ทำให้พยาบาลต้องทันต่อสถานการณ์พอสมควร ไม่งั้นก็ไม่สามารถให้ข้อมูลผู้ป่วยได้ โชคดีที่หนึ่งมีโอกาสได้เข้าฟังวิชาการครั้งนี้ด้วยค่ะ
หัวข้อนี้บรรยายโดย รศ.ดร.ภญ.จงจิตร อังคทะวานิช และ ศ.พญ.พวงทอง ไกรพิบูลย์
          อ.จงจิตร ได้เกริ่นนำถึงเรื่องการกินอาหารเสริม และความเชื่อของผู้ป่วยมะเร็งและญาติในการกินอาหารเสริมและอาหารแสลง ไว้น่าสนใจมากค่ะ อาจารย์บอกว่า เนื่องจากข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับอาหารเสริมและอาหารก่อมะเร็งนั้น มีมากมายที่ online ใน internet ซึ่งเดี๋ยวนี้นั้นทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ แต่บางข้อมูลที่เราเชื่อว่าน่าจะป้องกันมะเร็ง เมื่อมีการนำมาวิจัยที่มีความน่าเชื่อถือ ผลการวิจัยกลับออกมาแบบน่าตกใจ ในหลายๆงานวิจัยเลยค่ะ
อ.จงจิตรได้คัดสรรนำงานวิจัยที่ดีที่สุดในขณะนี้มานำเสนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และในบางเรื่องหนึ่งเองยังต้องตกใจในผลการวิจัยนั้นๆเลยค่ะ
สไลด์ที่อ.จงจิตรบรรยาย อ่านได้ที่นี่ค่ะ
พอสรุปคร่าวๆได้ดังนี้ค่ะ
1. อาหารที่เกี่ยวกับมะเร็งปอดกันมีรายงานว่า
          "การกินผลไม้(รสหวานน้อย เช่น มะละกอ แตงโม ชมพู่ แก้วมังกร เป็นต้น)และผักผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีน อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอด"
ควรระวัง "ไม่แนะนำ การกินอาหารเสริมเบต้าแคโรทีนชนิดแคปซูล เพราะมีหลักฐานว่าเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด"
          "การกินผัก ผลไม้ทุกๆ 100 gm จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด 6%"
          "ในผู้สูบบุหรี่ ถ้ากินผัก ผลไม้มากๆ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้ถึง 10%" (ข้อนี้หนึ่งไม่ได้สนับสนุนให้สูบบุหรี่นะคะ แต่โดยมากผู้สูบบุหรี่จะเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อมะเร็งปอด จึงมีการทำวิจัยในกลุ่มเสี่ยง) จริงๆถ้าเราไม่สูบบุหรี่ เราก็จะเสี่ยงต่อมะเร็งปอดน้อยกว่ากลุ่มที่สูบอยู่แล้วค่ะ และถ้าเรากินผัก ผลไม้ ก็จะยิ่งลดความเสี่ยง ได้มากกว่า 10% ของกลุ่มสูบบุหรี่อยู่แล้วค่ะ อิอิ
2. มีรายงานพบว่า การเสริม วิตามิน E
ที่เป็นอาหารเสริม ในรูปแบบอัดเม็ด แคปซูล ในผู้ชาย ทำให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอดถึง 64%
          แต่ควรกินอาหาร ผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินอีสูง เช่นเมล็ดธัญพืช ไข่ ถั่ว ปลา จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด 45%
3. โฟเลท การกินโฟเลทที่เป็นอาหารเสริมในรูปแบบต่างๆ ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้น
แต่การกินอาหารที่มีโฟเลทสูง ได้แก่ ตับ ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ผักกาดเขียว บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง พืชตระกูลส้มและน้ำส้ม ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี จมูกข้าวสาลี ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ รวมทั้งถั่วขาวและถั่วดำ จะช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้
4. เกลือ
หากกินมากจะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหาร
5. ไม่แนะนำการกินน้ำผลไม้ ควรกินเป็นผลไม้สดๆดีกว่า
6. การกินนมถั่วเหลือง
ไม่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม (Shu X.O.,2009)
7.เนื้อสัตว์ ไม่มีปัญหา สำคัญตรงที่ขั้นตอนการปรุง
          - ระวังเนื้อสัตว์ ปิ้ง ย่าง ที่ต้องใช้อุณหภูมิสูงๆ
ไม่ควรกินมากเกินไป (กินได้ไม่เกินวันละ 5 ช้อนโต๊ะ)
          - หลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์แปรรูป
เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น เนื้อเค็ม เป็นต้น
          - สำหรับเนื้อสัตว์ให้กินเนื้อปลาเป็นหลัก (กรณีนี้ ท่านอาจารย์พวงทองเสริมว่า หากกินเนื้อปลาควรเลือกกินเป็นปลาตัวเล็กค่ะ เนื่องจากปลาตัวใหญ่จะสะสมสารพิษมากกว่าปลาตัวเล็ก เนื่องจากมลภาวะเป็นพิษทางน้ำที่คนเราก่อขึ้น ปล่อยของเสียลงแม่น้ำลำธาร ทำให้ปลาซึ่งเคยเป็นอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกายเรา กลายเป็นพิษไปได้ และแนะนำว่า หากต้องการกินปลาเป็นประจำ ควรเปลี่ยนตลาดในการเลือกซื้อปลาบ่อยๆ ไม่ควรซื้อที่ตลาดเดิม ซ้ำๆ เนื่องจากการเปลี่ยนตลาดใหม่ ปลาก็จะมาจากแหล่งน้ำคนละแห่งกับที่เราเคยกินค่ะ ลดความเสี่ยงการได้รับสารพิษจากแหล่งน้ำซ้ำๆ)
สรุปได้ว่า
          "การกินอาหาร ผัก ผลไม้ ที่เป็นธรรมชาติของอาหารนั้นๆ จะให้ประโยชน์มากกว่าการกินอาหารเสริมที่อัดเม็ด หรืออาหารที่แปรรูปแล้วค่ะ"
          ปวดหัวซะแล้ว เพิ่งได้อาหารเสริม  อาหารต้านมะเร็ง ก่อมะเร็ง ยังไม่ถึงอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเลยค่ะ ไว้หนึ่งจะมาเขียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับรังสีรักษา ในช่วงเย็นๆนะคะ ตอนนี้ขอพักสายตาก่อนค่ะ ^^ 
หมายเลขบันทึก: 345746เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2010 10:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

สวัสดีค่ะ..

ขอบคุณสำหรับอาหารที่น่าทานและไม่น่าทานนะคะ

สวัสดีค่ะคุณไม่แสดงตน

ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ ^^

มีคนรู้จักเป็นมะเร็งอยู่ 2-3 คนค่ะ หลังจากคีโม ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วค่ะ เห็นเขาชอบทานปลา กับไข่ต้มทานเฉพาะไข่ขาว น่ะค่ะ คือจะทานอาหารสดๆจากธรรมชาติ ไม่ค่อยทานพวกอาหารเสริมค่ะ

สวัสดีค่ะ..

ขอบคุณสำหรับอาหารที่น่าทาน

และไม่น่าทาน..

แต่ตัดใจไม่ลง อิ..อิ..อิ..

สวัสดีหมอฮานะ

วันนี้มีงานให้ช่วย ใครมีหนังสือเกี่ยวกับ รายงานการสังเคราะห์เรื่อง การศึกษาคุณลักษณะและพฤติกรรมการบริหารของผูบริหารโรงเรียน ของ จิตติมา เทียมบุญประเสริฐ บ้างจ๊ะ เล่มที่สอง วิทยาการบริหารสำหรับผู้บริหารมืออาชีพในยุคโลกาภิวัตน์ ของธงชัย วงศ์ชัยสุวรรณ ต้องการด่วน จะทำรายงานส่งอาจารย์ภายในสิ้นเดือนนี้ จ้า ลงเป็นแบบชีส บทความก็ได้

สวัสดีค่ะน้อง Orn

ใช่แล้วค่ะยังไงของจากธรรมชาติก็ดีกว่าของที่สกัดจากธรรมชาติอ่ะเนอะ

ทานอาหารสดๆจากธรรมชาติดีที่ซู้ดดค่ะ ^^

ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ

สวัสดีค่ะคุณแกนด์

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ^^

ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหม่อมนักบิณ

หนังสือที่ว่าหนึ่งไม่มีเลยค่ะ แหะๆ

ขอบคุณสำหรับความรู้ ตอนนี้ตาของเอ๋ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด แต่ตามีจิตใจเข้มแข็งมาก

ครอบครัวเอ๋ต้องหาความรู้เพื่อดูแล ตาอายุ 90 กว่าปีแล้วเลิกสูบบุหรี่มาเกือบ 90 ปีได้แล้ว

ตอนแรกหมอบอกว่าน้ำท่วมปอด แต่อยู่ได้1 อาทิตย์ หมดก้อบอกว่าเป็นมะเร็ง ตกใจกันมาก

ปกติตาจะเป็นคนแข็งแรง ปั่นจักรยานทุกเช้า ออกกำลังกายทุกวัน แต่ก้อมาเป็นโรคนี้ได้

ขอบคุณอีกครั้งจะกลับไปทำอาหารให้ตาทาน ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเอ๋

ยินดีมากๆค่ะที่บันทึกนี้มีประโยชน์กับครอบครัวคุณเอ๋ ^^

ขอเป็นกำลังใจให้คุณตาคุณเอ๋ และครอบครัว ด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ขอรบกวนถามข้อมูลด้วยคนนะค่ะ ดิฉันมีคุณแม่ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ให้คีโมไป 12 ครั้ง ร่างกายทนไม่ไหว คุณหมอเปลี่ยนวิธีการรักษาให้ทานยา ซึ่งคุณหมอบอกว่ามีผลเท่ากับให้คีโม แต่ปรากฎว่า ยาที่ทานไม่ได้ผล ไม่ช่วยรักษา ล่าสุดน้ำท่วมปอด และคุณหมอไม่ให้ยาใดๆ แล้วในตอนนี้ คุณหมอให้แต่วิตามินบำรุง และบอกว่าหากช่วงนี้แม่มีอาการใดๆ ให้ไปที่โรงพยาบาล และหากน้ำท่วมปอด บอกกับคุณหมอที่ดูแลให้เจาะน้ำออก และอย่าเจาะสายค้างไว้เพราะอาจติดเชื้อได้ ดิฉันต้องการทราบว่ารังนกยี่ห้อต่าง ๆ และนมแอนลีน และสาหร่ายสไปรูลิน่าจะมีผลทำให้เซลล์มะเร็งเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะให้คุณแม่รับประทานอยู่ค่ะ อีกอย่างต้องการทราบว่าหญ้าปักกิ่งช่วยให้เซลล์มะเร็งลดลงจริงหรือไม่ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณลักษณ์

การเจาะน้ำในเยื่อหุ้มปอดออกเป็นครั้งๆไปจะช่วยทุเลาอาการหายใจลำบาก(จากภาวะมีน้ำครั่งในเยื่อหุ้มปอด)ของผู้ป่วยมะเร็งปอดได้ค่ะ

สำหรับเรื่องอาหารหากผู้ป่วยสามารถทานได้ แนะนำให้ทานได้ทุกอย่างเท่าที่ผู้ป่วยต้องการค่ะ ไม่มีอาหารแสลง หากผู้ป่วยทานอาหารได้เพียงพอและครบทุกหมู่ จริงๆแล้วก็จะเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้อาหารเสริมยี่ห้อใดๆเลยค่ะ แต่หากทานอะไรไม่ได้เลย อาจต้องเสริมอาหารให้ในส่วนที่ขาด สำหรับอาหารเสริมที่คุณลักษณ์สอบถามมานั้น ว่าจะทำให้เซลล์มะเร็งเพิ่มขึ้นหรือไม่ เท่าที่ผ่านมาหนึ่งยังไม่เคยอ่านรายงานพบว่าช่วยป้องกัน หรือเร่งให้เซลล์มะเร็งเพิ่มขึ้นค่ะ แต่ที่เพิ่มขึ้นคืออาหารเสริมเหล่านี้จะมีราคาแพง แน่นอนที่เราจึงต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้น อิอิ ส่วนหญ้าปักกิ่งเคยได้ยินชื่ออยู่ช่วงเวลานึง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงสามถึงสี่ปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับสารต้านมะเร็งในหญ้าปักกิ่ง มีเขียนรายงานไว้บ้าง ลองเข้าไปอ่านดูนะคะ ที่นี่ค่ะ 

การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายนอกจากการทานอาหารให้ครบทุกหมู่และเพียงพอต่อความต้องการแล้ว ยังมีวิธีง่ายๆอีกวิธีที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายผู้ป่วยนั่นคือ กำลังใจจากคนใกล้ชิด การสัมผัส การกอด การทำให้ผู้ป่วยอารมณ์ดี ให้ได้หัวเราะให้ได้มีรอยยิ้มมีความสุข ในระยะนี้จะช่วยได้เยอะเลยค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยและคุณลักษณ์ด้วยนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณหนึ่ง มีเรื่องอยากสอบถามว่าคนที่เป็นมะเร็งเต้านม ห้ามกินนมถั่วเหลืองจริงหรือเปล่าค่ะ แล้วถ้าห้าม ห้ามเพราะอะไรค่ะ

น้าเป็นมะเร็งเต้านม ระยะที่ 1 ผ่าตัดแล้ว ให้คีโม และ ฉายแสงครบแล้วค่ะ

ขอรบกวนสอบถามง่ายๆสั้นๆครับว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอดในแต่ระยะ จากมีโอกาสหายเป็นปกติหรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ

(การให้ความรู้เป็นทานอันสูงส่ง)

สวัสดีค่ะคุณ sa

ต้องขอโทษจริงๆค่ะที่เข้ามาตอบช้า เพิ่งมาเห็นคอมเม้นของคุณ sa ค่ะ

สำหรับเรื่องนมถั่วเหลือง ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง จะมีสารไฟโตเอสโตรเจน (phytoestrogen) มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่มีฤทธิ์อ่อนกว่า ๕๐๐-๑๐๐๐เท่า เมื่อทานเข้าไปจะไปแย่งจับกับตัวรับ (receptor) ของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ทำให้เชื่อว่าโรคบางอย่างที่สัมพันธ์กับฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่นมะเร็งเต้านม หากทานสานตัวนี้เข้าไปจะทำให้มีโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมน้อยลง ขณะเดียวกันหากทานในปริมาณที่สูง อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านมได้

มีข้อสรุปว่า

  • งานวิจัยทางระบาดวิทยาเชื่อว่า ไฟโตเอสโตรเจนช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม โรคกระดูกพรุน อาการวัยทอง และโรคหลอดเลือดหัวใจ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าต้องทานเท่าไหร่จึงจะป้องกันโรคต่างๆดังกล่าวได้ เชื่อว่าการป้องกันโรคเกิดจากการทานพืชผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆหลากหลายชนิดมากกว่าทานอาหารจำพวกถั่วเหลืองเพียงอย่างเดียว
  • การทานไฟโตเอสโตรเจนในอาหารแต่ละมื้อปริมาณที่ปกติ มีประโยชน์มากกว่าโทษค่ะ
  • การทานเต้าหู้วันละ ๒ ชิ้นจะได้สารไฟโตเอสโตรเจน ๒ มก. ซึ่งเพียงพอต่อการป้องกันโรคกระดูกพรุน
  • การทานถั่วเหลืองวันละ ๒๕กรัม สามารถลดหรือป้องกันอาการวัยทองได้ เช่นร้อนวูบวาบ เหงื่อออกมาก
  • ในจีนมีงานวิจัยพบว่าการทานไฟโตเอสโตรเจนในหญิงวัยรุ่น วัยก่อนหมดประจำเดือน จะมีประโยชน์ในการป้องกันมะเร็งเต้านมมากกว่าทานในช่วงวัยหมดประจำเดือน
  • คนที่เป็นมะเร็งเต้านม การทานไฟโตเอสโตรเจนเป็นข้อควรระวัง แม้ไม่มีงานวิจัยในคนยืนยันว่าไฟโตเอสโตเจนจะทำให้มะเร็งเต้านมกำเริบหรือไม่ก็ตาม

หาข้อมูลมาได้ประมาณนี้ค่ะ แหะๆ

สวัสดีค่ะ ทุกท่านเนื่องจากเป็นสมาชิกใหม่ค่ะที่เข้าิ่อ่าน และขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโรคมะเร็งปอด เนื่องจากมีประสบการณ์ เกี่ยวกับผู้ป่วยที่เป้นมะเร็งปอด เพราะคุณพ่อที่บ้านเป็นมะเร็งปอด อายุ 75 ปี อยู่ในระยะที่ 3 แต่ทุกวันนี้ท่านสุขภาพแข็งแรง สามารถ ทานอาหารได้เยอะ ดิฉันได้รับคำแนะนำจากท่านอาจารย์หมอท่านหนึ่งท่านให้ทาน อาหารเสริม ชื่อว่า นิวเทรน ออปติมัม คุณพ่อทานแล้วรู้สึกว่าท่านจะแข็งแรงขึ้น (ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนนะค่ะว่าไม่ได้มีเจตนาขายสิ้นค้าใดใดทั้งสิ้น ) เพียงแต่อยากมาเล่าสู่กันฟังเท่านั้น วิธีที่ท่านทาน คือ ชงนมนิวเทรน ออปติมัมด้วยนำร้อน 3 ช้อน  กับโอวัลติน 2 ช้อน ท่านทานทุกวัน ตอนเช้า หลังจากทานอาหารเช้า พวกอาหารที่เป็นรังนกไม่แนะนำให้ทานนะค่ะ (สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจสำหรับผู้ป่วย ) เพราะนมชนิดนี้สำหรับผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคมะเร็ง  หวังว่าสิ่งที่ดิฉันเล่าสู่คงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะมีอะรไมาเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ

ขอบคุณทุกทา่นที่อ่านและเสนอแนะค่ะ

สวัสดีคะ

อยากทราบว่า จำเป็นไหมสำหรับน้ำมันมะกอก ที่มาทดแทนน้ำมันชนิดอื่น

น้ำตาลก็ให้เป็นน้ำตาลที่สังเคราะห์พิิเศษ

ปัจจุบันพบว่าเป็นมะเร็ง ปอด ระยะเพิ่มเริ่มต้น แทบจะบอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเป็นหรือเปล่า เพราะว่าน้อยมาก แต่ก็ได้ทำการรักษาอยุ่โดยให้คีโม

2 ครั้ง ต่อเดือน เป็นแบบอ่่อนที่สุด

การรักษาที่บ้าน นอกจากยา ที่หมอสั่ง ก็้จะให้กินน้ำคั้นจากใบ แม่ย่านางด้วย (คั้นสดวันละ 2 แก้ว)

อยากทราบว่า จะต้องระมัดระวังอะไรมากกว่านี้ไหม ผู้ป่วยได้ทำบอลลูนมาด้วยคะ อายุ 74 ปี เพศหญิง

ได้อ่านข้อมูลจากผู้ถามและผู้ตอบ ได้ความรู้มากคะ

ตอนนี้ฉันก็เป็นมะเร็งรังไข่ ผ่าตัดแล้ว กำลังให้คีโม อยู่ ก็ยังสับสนเรื่องการกิน และจะกินอะไรเสริมฮอโมนเพศที่ตัดออกไปแล้ว

ได้บ้างคะ อายุ 40 แล้วคะ

ขอบคุณคะ

แม่เป็นมะเร็งรังไข่ระยะ 1c ตัดรังไข่ออกแล้ว และอยู่ระหว่างการคีโม ห่วงเรื่องอาหารไม่รู้ว่าอะไรที่กินได้และกินไม่ได้ ผักทุกชนิดต้องปรุงสุกหรือไม่ ขอความกรุณาท่านผู้รู้ได้โปรดตอบคำถามให้ด้วย

สวัสดีค่ะ ต้องขอโทษทุกท่านด้วยที่เข้ามาตอบช้า บางคำถามหนึ่งอาจไม่สามารถให้ข้อมูลได้ละเอียดเท่ากับโภชนากร หนึ่งได้ขอข้อมูลจากน้องน้ำ (ประภาพร สุนธงศิริ) โภชนากรศูนย์มะเร็งอุดรธานี ของเรานี่เองค่ะ สรุปได้ดังนี้ค่ะ

  • เรื่องน้ำมัน ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่าไม่ควรบริโภคไขมันเกินวันละ 30% ของพลังงานที่ร่างกายต้องการทั้งหมด น้ำมันที่เหมาะกับกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งควรใช้ชนิดที่เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวหนึ่งตำแหน่ง ได้แก่ น้ำมันมะกอก จะมีราคาแพง และอีกอย่าง คือ นำมาทำอาหารแบบไทยๆ จะไม่ค่อยเข้ากัน นอกจากไปคลุกกับผักทำสลัด แนะนำเป็นอีกตัวที่มีคุณสมบัติเหมือนกัน คือ น้ำมันรำข้าว 
  • เรื่องน้ำตาล ที่บอกว่าน้ำตาลสังเคราะห์พิเศษ หนึ่งไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไรค่ะ จะใช่น้ำตาลเทียมรึเปล่าคะ แต่ถ้าบอกว่าสังเคราะห์พิเศษเพื่อผู้ป่วยมะเร็งเท่าที่ผ่านมาคือไม่เคยมีค่ะ ถ้าเป็นน้ำตาลเทียม อาจต้องการควบคุมน้ำหนักหรือควบคุมน้ำตาลในกระแสเลือด น้ำตาลเทียมที่สังเคราะห์ขึ้นมีหลายชนิด แต่ละชนิดจะให้ความหวานเหมือนน้ำตาลซูโครส แต่มีอันตรายก่อให้เกิดมะเร็งได้เกือบทุกชนิด ยกเว้น "เอซซัลเฟม เค(acesulfame K)" ซึ่งอย.ของอเมริกาและอังกฤษอนุญาติให้ผสมในอาหารได้ และมีใช้ใน ๒๐ประเทศทั่วโลก ส่วนใหญ่จะใช้ผสมในน้ำอัดลม ลูกกวาดและของหวานต่างๆ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่แนะนำใช้น้ำตาลเทียมค่ะ ^^
  • เรื่องกินอะไรเพื่อเสริมฮอร์โมน หลังตัดรังไข่ แนะนำอาหารประเภทถั่วค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณน้องน้ำ โภชนากรของเราด้วยค่ะสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการ ^^

สวสด ค

ะ อยากจะสอบถามวาถาเปนผรกษาคโม

เป็นมะเร็งลำไส้ ระยะที่ 2 ยังไม่ได้ทำคีโม  จะทานอาหารเสริมที่โฆษณาทางทีวีดีมั้ยคะ 

อยากทราบรายละเอียด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท