อบรมวิชาการทันตสาธารณสุข (ปิยะภรณ์ ภาษา)

รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

อบรมเรื่อง  โครงการอบรมพัฒนาศักยภาพและนำเสนอผลงานนวัตกรรมด้านทันตกรรมระดับชาติ

ผู้เข้ารับการอบรม   นางสาวปิยะภรณ์    ภาษา

                              นายชิราวุธ    ปุญณวิช

อบรมที่    ณ โรงแรมหัวหินแกรนด์แอนด์พลาซ่า  อำเภอหัวหิน  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

             วันที่ 24 - 27 พฤษภาคม 2553

งบประมาณ      1. ค่าอบรมวิชาการ  2800 บาท

                        2. ค่าห้องพัก 4วัน วันละ 1,600 X 4 = 6,400 บาท

                        3. ค่ารถ ไป - กลับ      1,200 บาท          

                                         รวม    10,400 บาท

      มีบทความดีดีมาฝากให้กลับผู้หญิงทุกคน ซึ่งเราจะเห็นว่าในปัจจุบันทุกวันนี้ภัยมืดวิ่งเข้ามาทุกวัน

แต่เราไม่รู้ว่าภัยร้ายเหล่านั้นจะวิ่งมาหาตัวเราวันไหน และจะมาในรูปแบบไหน ดังนั้นการที่เราจะรู้จักการ

ระวังภัยร้ายเหล่านี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะอย่างน้อยก็เป็นการป้องกันตัวจากภัยร้ายต่างๆๆได้ และเหตุผลที่

ดิฉันนำเรื่องนี้มาเสนอก็เพราะว่า ในเช้าวันหนึงดิฉันได้เดินกลับไปที่บ้านพักโรงพยาบาลห้วยแถลง เพื่อไป

เอาของที่บ้านพัก แต่ได้เดินไปเจอผู้ชายคนหนึงได้มีลักษณะแปลก ซึ่งได้มองซ้าย มองขวาไปทางบ้านพัก

และได้เดินไปในบ้านพัก พอผู้ชายคนนั้น

ได้เห็นดิฉันเดินผ่านไปก็รีบเดินออกไป ซึ่งมีท่าทางพิรุธมาก ดิฉันจึงได้นำกลับมาคิดว่าถ้าคนนั้นคือคนร้าย

และได้เข้ามาทำร้ายเราจะทำเช่นไร จึงได้ไปเปิดในอินเตอร์เน็ตดูวิธีป้องกันภัยในรูปแบบต่างๆๆจึงเห็นบท

ความหนึงได้อ่านจึงอยากนำมาให้เพื่อนๆได้อ่านด้วยค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์กับใครหลายๆคนที่ใช้ชีวิต

โสดหลายๆคน ซึ่งทางโรงพยาบาลเราก็ได้มีผู้หญิงอาศัยอยู่กันมากจึงอยากให้ลองอ่านและก็ระวังตัวกันบ้าง

นะค่ะ มาเริ่มอ่านกันเลยค่ะ

ป้องกันตัวอย่างไร ให้ห่างภัยร้าย เหมาะมากสำหรับผู้หญิง

          ตอนนี้เพื่อนๆ ที่ได้อ่านข่าวอาชญกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงวัยรุ่น ในสมัยนี้
ทั้งข่าวลักพาตัวไปข่มขืน หลอกไปข่มขืน หรือเพื่อนกันนี้แหละที่เป็นผู้ข่มขืน
เหตุการณ์พวกนี้ที่เกิดขึ้นได้ เกิดจากการที่เราเชื่อคนอื่นมากเกินไป แล้วก็ไม่ค่อยระวังตัว หรืออีกอย่างหนึ่งเราก็ระวังตัวดีแล้ว แต่ภัยร้ายก็ยังเข้ามาถึงตัว อันนี้ก็เรีกว่า ความโชคร้ายแล้วหล่ะคะ ซึ่งทั้งนี้ ทั้งนั้นผู้หญิงอย่างเรารู้จักวิธีป้องกันตัว ภัยร้ายก็จะลดความรุนแรงลงได้ แล้ววันนี้ ก็มีเรื่อง ที่วัยรุ่นผู้หญิง ต้องรู้!! เกี่ยวกับ อาวุธป้องกันตัว และ อุปกรณ์ป้องกันตัว ซึ่งเป็นการป้องกันตัวอีกรูปแบบหนึ่ง มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง กันคะ

อุปกรณ์ป้องกันตัว กับอาวุธต่างกันอย่างไร?

1. อุปกรณ์ป้องกันตัว (หรือ อาวุธป้องกันตัว สำหรับผู้หญิง) : เราเน้นที่ว่าเมื่อเกิดเหตุใครจะมาทำร้ายเรา มันจะใช้เพียงเพื่อการป้องกันตัวเรา
แต่มันจะไม่ก่อผลร้ายกับคนร้ายมากนัก เพียงแค่ต้องการให้เค้าหยุดการกระทำนั้น แค่พอว่าเรารอด อาจจะทำให้แค่ ตกใจ หรือสำลัก
ทำให้คนร้ายหนีไป และทำให้เรามีเวลาพอ ที่จะหลบหนี เช่น สเปรย์พริกไทย, อุปกรณ์ส่งเสียงดัง (Personal Alarm : เครื่องส่งเสียงดังรบกวนไว่เตือนภัย) เป็นต้น
ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่เหมาะแก่การนำไปทำร้ายผู้อื่น

2. อาวุธ : นอกจาก จะใช้ป้องกันตันเองแล้ว ยังสามารถทำร้ายผู้อื่นได้อีกด้วย
อาจจะต้องรบราฆ่าฟันกันสักหน่อยหนึ่ง เช่น ปืนพก, ดาบ เป็นต้น
เรามาดูกันดีกว่า ว่าการป้องกันตัวด้วย อาวุธป้องกันตัว หรืออุปกรณ์ป้องกันตัว ที่วัยรุ่นอย่างพวกเรา สามารถพกพากันได้นั้นมีอะไรบ้างคะ

อาวุธป้องกันตัวแบ่งได้เป็น 2 ประเภท

1. อาวุธป้องกันตัวแบบ เน้นให้คนร้ายตกใจ แต่ไม่ส่งผลอะไรกับคนร้ายเลย เช่น อุปกรณ์ส่งเสียงดัง Alarm ต่างๆ :Alarm พวกนี้เวลาเกิดเหตุร้ายขึ้น เ
ราก็แค่ดึงสลักออก มันก็จะส่งเสียงดัง ขนาดความดังก็จะขึ้นอยู่กลับรูปแบบการออกแบบของ อุปกรณ์ส่งเสียงดังประเภทนั้นๆ มี 2 ทั้งแบบ




1.1 แบบที่ใช้แบตเตอร์รี่ : โดยใช้หลักการใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ทำให้เกิดเสียงดัง เมื่อดึงสลักออก หรือกดสวิตช์ อุปกรณ์ส่งเสียงดังประเภทนี้ จะมีข้อดีคือ มันจะมาพร้อมกับลูกเล่นอื่นๆ ที่สามารถใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้ เช่น ไฟฉายในตัว หรืออุปกรณ์เสริมก้ามปู เปลี่ยนอุปกรณ์ส่งเสียงดัง ของเราไปเป็น อุปกรณ์เตือนผู้บุกรุกทางประตหน้าต่าง(Door/Window Entry Alarm) โดยนำก้ามปูไปเสียบที่ช่องระหว่างประตู กับพื้นมันก็จะทำหน้าที่เตือนเรา เมื่อหลับไปก่อนที่คนร้ายจะมาถึงตัว

1.2) แบบที่ใช้ก๊าซ : โดยใช้หลักการให้ลมวิ่งผ่านลิ้น ทำให้เกิดเสียงดัง
ข้อดีของอุปกรณ์ส่งเสียงดังประเภทนี้ คือ ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่
สำหรับอาวุธป้องกันตัว ในประเภทแรกเข้าใจว่าเค้าประดิษฐ์มาเพื่อการป้องกันต ัว แบบเมื่อเราเห็นท่าไม่ดี คนนี้ท่าจะไม่น่าไว้วางใจ เราก็ดึงสลักเลยคะ หรือกดให้เกิดเสียงดัง
คนร้ายก็จะตกใจแล้วก็หลีกหนีเราไป

2. อาวุธป้องกันตัวแบบ ต่อสู้กับคนร้ายได้ด้วย เกิดผลร้ายกับคนร้าย
ในรูปแบบต่างๆ เช่น เครื่องช๊อตไฟฟ้า, สเปรย์พริกไทยม มีด เป็นต้น

2.1) สเปรย์พริกไทย : มันมีข้อดี คือเราไม่ต้องประชิดตัวกับคนร้ายเลย
โดยมันจะออกฤทธิ์กับ ผิวหนังและทางเดินหายใจ ถ้าคนร้ายอยู่ในระยะ 2 เมตร
ก็จะโดนสเปรย์พริกไทย เค้าจะแสบหน้าแสบตา ลืมตาไม่ขึ้นประมาณ 20-30 นาที
ซึ่งเพียงพอให้เราหนีรอดมาได้





ข้อเสีย ของอาวุธป้องกันตัว ประเภทนี้ คือมันจะเป็นก๊าซออกไป
เวลาการใช้งานอาจจะต้องดูทิศทางลมด้วย ให้เราอยู่เหนือลมเข้าไหว
ฉะนั้น ก่อนใช้มันต้องตั้งสตินิดหนึ่ง ถ้าอยู่ในทิศทางที่สวนลมเราอาจจะต้องเบี่ยงตัวหนี หรือถ้านึกอะไรไม่ออก นึก Step นี้ไว้ก่อน
คือ สเปรย์พริกไทย ฉีด แล้ววิ่งหนี ฉีด แล้ววิ่งหนี
ยังไงที่ตีกลับมาก็จะโดนเราน้อยกว่าคนร้ายแน่นอน

2.2) เครื่องช๊อตไฟฟ้า (ที่ช๊อตไฟฟ้า) : หลักการของมันคือ ใช้พลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ผ่านวงจรทางไฟฟ้า
ทำให้เกิดกำลังความต่างศักดิ์สูง(เป็นแสนโวลต์)
ระหว่างขั้ว ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ากระโดดข้ามขั้วทั้งสอง
เราจะเห็นกระแสไฟฟ้าวิ่งหากัน ถ้าอ้างถึงกฎหมายไทย
ตำรวจเราถือว่ามันเป็น อาวุธ(ยุทธภัณฑ์) ประเภทหนึ่งพกพาในที่สาธารณะ
ก็อาจจะถูกตำรวจจับได้ เหมือนพกมีด ดังนั้น
โดยรูปลักษณ์ของเครื่องช๊อตไฟฟ้า ค่อนข้างไม่สมควรแกการพกพาเท่าไร
และไม่แนะนำ





อย่าได้นิ่งนอนใจนะค่ะว่าจะไม่เกิดขึ้นกับตนเองเดี๋ย วนี้ มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วที่อาญากร
จะมีการแต่งตัวที่แปลกแตกต่างกับคนธรรมดา หรือเราจะคอยระวังแต่พวกติดยาเหมือนเมื่อก่อน
เพราะในปัจจุบัน ภัยสังคมมาได้จากคนทุกกลุ่ม อาญากรหลายคนก็เป็นคนทำงาน หน้าที่การงานปกติ แต่มีจิตใจที่เลวร้าย หรือขาดสติ
ดังนั้นเราจะป้องกันโดยมองจากการแต่งตัวไม่ได้ เพราะใครก็ได้อาจจะเป็นคนร้าย
รวมถึงเพื่อนหรือญาติของเราเอง

การหลีกเลี่ยง “3 เสี่ยง” ดังนี้

1. สถานที่ เสี่ยง : ในที่เปลี่ยว ไร้ผู้คน ที่สามารถ ให้ความช่วยเหลือได้
สถานที่ไม่มีผู้คนเข้าออก หรือเข้าออกได้เพียงทางเดียว
ห้องหับที่ปิดมิดชิดและอาจถูกปิดล็อกได้ง่าย สถานบันเทิงเริงรมย์ต่างๆ
ซึ่งมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

2. เวลา เสี่ยง : จากสถิติคดีอาชญากรรมจะเกิดในช่วงเวลากลางคืน
มากกว่ากลางวัน ดังนั้น เวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินถือเป็นเวลาเสี่ยง
ทางที่ดีก็ควรงดการออกจากที่พักอาศัย


3. บุคคล เสี่ยง : บุคคลวิกลจริต คนเสพยาเสพติด คนเมาสุรา
เป็นบุคคลที่หลีกเลี่ยงมากที่สุด แต่การอยู่ผู้ชาย สองต่อสอง
โดยคนที่เราไม่รู้จักมักคุ้น หรือเป็นเพื่อนชายของเราเอง
ก็ถือเป็นเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นได ้

การหลีกเลี่ยง 3 เสี่ยง นี้ น่าจะช่วยลดอัตราการจะเกิดเรื่องร้ายกับเราได้ไม่น้อ ย
ถือเป็นการป้องกันตัวที่ต้นเหตุ ก่อนที่ภัยสังคมต่างๆ จะมาถึงตัว

ผู้หญิงไทยเรามีแนวคิดเหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ สิ่งร้ายๆ จะไม่เกิดกับเราหรอก มันจะเกิดกับคนอื่นๆ
แต่ไม่มีทางเกิดกับเรา เช่น เพื่อนๆ หลายคนบอกว่า ฉันไม่สวย ฉันอ้วน ฉันไม่ได้แต่งตัวโป๊
อาวุธป้องกันตัวทั้งหลายที่แฟนซื้อให้ก็ไม่พก เพราะฉันไม่น่าจะโชคร้ายอย่างนั้น
แต่จริงๆ แล้วเราต้องคิดเสมอว่าสิ่งร้ายๆ ก็มีสิทธิจะเกิดกับเรานะ
เราจะได้มีสติ คอยคิดการป้องกันตัว ลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ ขอให้เรามีสติ เพราะการมีสติ มันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเสมออยู่
แล้วใครจะรู้หละคะว่า อันตรายจะเกิดขึ้นกับเราได้ วันไหน