เราบางคนกำลังขาดปัญญา


          ช่วงนี้เหตุการณ์บ้านเมืองเข้าขั้นน่าเบื่อ ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าการเรียกร้อง หรือการกระทำใดๆ ที่เรียกว่าสิ่งที่ถูกต้อง หรือเพื่อบ้านเพื่อเมืองนั้น ต้องอาศัยความเดือดร้อนของประชาชนเป็นทางผ่านด้วยหรือ เหมือนกับว่ายิ่ง impact เยอะยิ่งขายได้ ฝ่ายตรงข้ามจะได้ชายตาแลบ้าง ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นการตลาดที่ทำให้อุดมการณ์มีมูลค่าลดลงเสียมากกว่า

          สิ่งที่คนไทยหลายคนกำลังขาดคือสติ ซึ่งสติคือบ่อเกิดแห่งปัญญา ถ้าเกิดพูดถึงปัญญา ศาสนาพุทธของเราบอกวิธีทำให้เกิดปัญญาได้ 3 วิธี ซึ่งมนุษย์คนไทยน่าจะลองนำมาใช้ตั้งสติกัน

          1.  สุตมยปัญญา คือปัญญาที่เกิดโดยการสดับตรับฟัง การศึกษาเล่าเรียน คนไทยบางกลุ่มหูอื้อ ฟังอะไรไม่ค่อยได้ยิน (อันนี้ผมประชดนะ ไม่ได้หูอื้อจริง) ผนวกกับการกระจายการศึกษายังไม่กว้างขวางพอ ทำให้คนไทยส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนมาก ไม่ค่อยฟังอะไรใคร และยังขาดความรู้อีก ผลก็คือกลายเป็นคนที่มีอัตตาเต็มปรี่ ศรัทธาในสิ่งที่ตนเชื่อจนไม่ฟังใครทั้งสิ้น สุดท้ายก็จนด้วยปัญญาและกลายเป็นเครื่องมือของคนอื่นโดยง่าย

         ดังนั้นเราควรศึกษาหาความรู้ให้มาก ถ้าเราขวนขวายศึกษาสิ่งต่างๆ การฟังก็จะเกิดขึ้นไปพร้อมกัน เราก็จะมีข้อมูลมากพอที่จะใช้ตัดสินว่าอะไรผิดและถูก ด้วยปัญญาอันเกิดจากการฟังนี่เอง

          2. จินตามยปัญญา คือปัญญาที่เกิดโดยการคิดค้น การตรึกตรอง หลังจากฟังแล้วก็นำความรู้ที่ฟังมาคิด โดยใช้เหตุและผล แยกแยะดีชั่ว ไม่ใช่ฟังแต่ไม่เคยตีความ เขาบอกอะไรก็เชื่อก็ทำ โดยก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น อันนี้เรียกว่าฟัง แต่ไม่คิด ไม่มีประโยชน์

          3.  ภาวนามยปัญญา คือปัญญาที่เกิดโดยการอบรมจิต การเจริญภาวนา สุดท้ายการไปสู่ปัญญาก็ต้องมีจิตอันมุ่งมั่นตั้งใจทำในสิ่งที่ตนเห็นว่าถูกว่าต้อง เพราะหากฟังและคิดได้ แต่ทำไปเอาหน้า ทำผิวๆเผินๆ ทำแบบไม่ตั้งใจ ผลออกมาก็ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ

          ไม่ต้องถึงภาวนามยปัญญา แค่การฟัง และการศึกษาก็เป็นอุปสรรคต่อการก่อเกิดปัญญาแล้ว ผมคิดว่าหากเรายังให้ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศที่ยังขาดการศึกษาที่สูงพอ เป็นผู้ตัดสินทิศทางของประเทศตามระบอบประชาธิปไตย เราก็คงยังวนเวียนอยู่กับการแสวงหาอำนาจ โดยอาศัยเครื่องมือที่เรียกว่าความเชื่อบรรจุลงในหัวของคนที่ขาดหนทางแห่งการสร้างปัญญา จนกลายเป็นศรัทธาที่สามารถทำให้เกิดอะไรก็ได้เพื่อบรรลุเป้าประสงค์ที่ตน (และผู้แสวงหาอำนาจ) ต้องการ ไปกันแบบนี้ชั่วลูกชั่วหลาน

          จนหลายคนใช้คำว่า "ชิน" กับเหตุการณ์บ้านเมืองไปแล้ว

สรุป

ข้อมูลต่างๆ ->สติ -> ความรู้ -> ปัญญา -> การกระทำอันเป็นประโยชน์ต่อตนเอง และส่วนรวม

ขาดความรู้ -> ข้อมูลผิดๆ -> ความเชื่อผิดๆ -> ศรัทธาผิดๆ -> การกระอันเป็นประโยชน์ต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และอาจทำให้คนส่วนหนึ่งเดือดร้อน 

คำสำคัญ (Tags): #ความคิดเห็น
หมายเลขบันทึก: 343380เขียนเมื่อ 10 มีนาคม 2010 23:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2012 16:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท