วารสาร องค์กรศาสนา ฉบับที่ 1

 

 

 

 

 

   องค์กรศาสนา  โรงพยาบาลซานคามิลโลได้มีการจัดทำวารสาร / แมกกาซีนขององค์กรศาสนาขึ้น  เพื่อแบ่งปันสิ่งดีๆ  ให้แก่ลูกนักบุญคามิลโลทุกแผนก  ทุกคน  ซึ่งผู้จัดทำได้แก่หมอป๋วย  ทันตแพทย์ของเราซึ่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งขององค์กรศาสนา  แมกกาซีนแต่ละฉบับหมอป๋วยจะเป็นคนเขียนและวาดด้วยตัวเอง  เป็นภาพที่น่ารักมาก  ได้รับการตอบรับจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี  จึงอยากนำมาแบ่งปันให้คนอื่นๆ  ได้อ่านบ้างค่ะ  แล้วฉบับต่อๆ  ไปจะตามมานะคะ

วารสาร 

องค์กรศาสนา

 ฉบับที่ 1 ก.ย. 2552 

© We care                                                                                                                                      

©  We  share

©  We  are  SHA

 

                สวัสดีค่ะ  พบกับวารสารองค์กรศาสนาฉบับปฐมฤกษ์  จุดประสงค์ของวารสารฉบับนี้  เพื่อตอบสนองต่อกระแส  SHA  ที่กำลังฮิตฮอตในร.พ.เราขณะนี้  เรามาช่วยกันให้ร.พ.ของเราเป็นร.พ.สร้างเสริมสุขภาพ  ผ่านกระบวนการคุณภาพ  เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน  โดยเน้นการพัฒนามิติด้านจิตใจและสังคม  ซึ่งก็เข้ากันกับหลักของศาสนาที่ว่า “การพัฒนาแบบยั่งยืน  ย่อมมากับความสุขแบบยั่งยืน” (กล่าวไว้โดย ป.อ ปยุตโต)  แล้วความสุขแบบยั่งยืนคืออะไรกันล่ะ??  พวกเราลูกหลานนักบุญคามิลโล  มาร่วมกันหาคำตอบไปพร้อมๆ กันกับองค์กรศาสนานะจ๊ะ

                ฉบับแรกนี้  ได้นำเอาคำสอนของพระอาจารย์มิตซูโอะ  คเวสโก  มาเล่าสู่กันฟัง  ซึ่งเดิมท่านเป็นนักเคมีอยู่ที่ญี่ปุ่น  แต่สนใจศึกษาธรรมะ  จนได้มาบวชเป็นพระในเมืองไทย  ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดสุนันทวราราม  อ.ไทรโยค  จ.กาญจนบุรี

                           ........หวังว่า  พวกเราคงได้ข้อคิดดีๆ  จากคำสอนของท่านนะจ๊ะ

                                                                                                                                                                รักนะจุ๊บๆ

******************************************

 

การเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก 

พระอาจารย์มิตซูโอะ  คเวสโก 

                พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า  การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้น  เป็นเรื่องยาก  ต้องมีบุญมาก  อุปมาเหมือนเต่าตาบอดตัวหนึ่ง  ดำน้ำอยู่ในทะเล  ทุกๆ 100 ปี  เต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่หัวขึ้นมาจากทะเล  ในทะเลมีห่วงเล็กๆ ขนาดใหญ่กว่าหัวเต่าหน่อยลอยอยู่ 1 ห่วง  โอกาสที่เต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่ขึ้นมาแล้วสวมเข้ากับห่วงให้พอดียากเพียงใด  โอกาสนั้นก็ยังมีมากกว่าการที่เหล่าสรรพสัตว์จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์

                เมื่อพูดถึงจิตวิญญาณที่ท่องเที่ยวไปในวัฏสงสาร  ไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิใด  กล่าวได้ว่า “มนุษย์” เป็นภพภูมิที่ประเสริฐสูงสุดในโลกมนุษย์นี้  โดยอาศัยอัตภาพร่างกายมนุษย์  จิตของเรามีโอกาสที่จะมีประสบการณ์ได้ทุกภพ

                คนที่ขี้เกียจ  กินแล้วนอน  นอนแล้วกิน  ชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับงู

                คนที่ชอบทะเลาะวิวาท  ต่อยตีกัน  ก็เป็นเหมือนไก่ชน

                คนที่ซุกซน  อยู่เฉยไม่ได้  ก็เหมือนกับลิง

                หรือบางคน  ชีวิตเป็นทุกข์  เดือดร้อนใจ  จนบอกว่าเหมือนตกนรกทั้งเป็น  ก็เป็นใจที่มีประสบการณ์เหมือนตกนรก 

                คนที่ไม่รู้จักพอ  มีเท่าไหร่ก็ยังหิวโหย  อยากจะได้อยู่ร่ำไป  ก็เป็นใจเปรต

                บางคนถือตัวถือตน  ชอบใช้อำนาจข่มเหงรังแกผู้อื่น  ก็มีใจเหมือนยักษ์ 

                บางคน  รักสวยรักงาม  อารมณ์ดี  ใจดี  มีหิริโอตตัปปะปะ  ก็เป็นใจเทวดา

                บางคนบำเพ็ญสมาธิภาวนา  เข้าฌาน  เป็นรูปพรหม  รูปพรหม  ก็มีใจเป็นพรหม

                คนที่ประพฤติตนเหมาะสมกับมนุษย์  ก็มีใจเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

 

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า...

เป็นการยากที่ได้เกิดเป็นมนุษย์

เป็นการยากที่ชีวิตสัตว์จะได้อยู่อย่างสงบ

เป็นการยากที่จะได้ฟังธรรมของสัตบุรุษ

เป็นการยากที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติมา

 

                เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว  เราจึงควรเห็นคุณค่าของการเกิดเป็นมนุษย์  อย่าให้เสียโอกาส  เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์  เอาใจใส่รักษาความเป็นมนุษย์ไว้ให้มั่นคง  ถึงจะเกิดเป็นมนุษย์แล้วก็ตาม  แต่จิตใจก็เป็นได้ 2 ทางคือ

       © ใจต่ำ  เป็น “อกุศลจิต”  ใช้ชีวิตอย่างประมาท  ขาดสติ  เป็นทางของสัตว์เดรัจฉาน  เปรต  ยักษ์  สัตว์นรก

       © ใจสูง  เป็น “กุศลจิต”  ดำเนินชีวิตอย่างมีสติปัญญา  ไม่ประมาท  สร้างกุศลกรรมความดี  สร้างบารมี  เป็นทางของมนุษย์  เทวดา  พรหม  อริยมรรค  อริยผล  นิพพาน

       ดังนั้น  สำหรับการเกิดเป็นมนุษย์ในชาติหนึ่ง  การเลือกทางดำเนินชีวิตของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด...  แต่ทางทุกทางย่อมมีปัญหา  อุปสรรค  ในบทต่อไป  พระอาจารย์  มิตซูโอะ  ได้กล่าวถึงการแก้ปัญหาไว้  ดังนี้

******************************************

 

การแก้ปัญหาชีวิต

ด้วย  ทาน  ศีล  ภาวนา

                พูดถึงปัญหาชีวิต  มีสารพัดอย่าง  ปัญหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องความรัก, เงินทอง  สำหรับความเห็นของอาจารย์ (มิตซูโอะ)  การแก้ปัญหาทุกเรื่องต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน  อาจารย์เคยพบกับพระองค์หนึ่ง  ก่อนที่จะบวชเป็นพระเขาเป็นคนที่มีฐานะดี  เป็นลูกชายของผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงในสังคมไทย  เขาเล่าประสบการณ์ให้อาจารย์ฟังว่า  หลังจากจบมหาวิทยาลัยเขาก็ทำงาน  สร้างฐานะ  เมื่อมีเงินก็ชอบเที่ยวเหมือนผู้ชายทั่วไป  กินเหล้า  เที่ยวกลางคืน  ใช้ชีวิตแบบหนุ่มเจ้าสำราญนี่แหละ

                แต่แล้ววันหนึ่ง  ธุรกิจของเขาเกิดปัญหา  มีหนี้สินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  ช่วงที่เขามีปัญหาอยู่นี้  ได้พบกับอุบาสิกาท่านหนึ่ง  อุบาสิกาคนนี้  แนะนำวิธีแก้ปัญหาให้เขา 3 ข้อ คือ...

1. ให้ทาน  เขากำลังมีปัญหา  เรื่องหนี้สินอยู่หลายล้าน  แต่อุบาสิกาแนะนำให้เขาทำบุญให้ทานเป็นข้อแรก

2.  รักษาศีล  ต้องหยุดเที่ยวกลางคืน  เลิกอบายมุข  หยุดกินเหล้าเมายา  ตั้งใจรักษาศีล 5

3.  เจริญเมตตาภาวนา  ให้ฝึกทำสมาธิ  เพื่อให้ใจสงบ มีความสุขใจ 

                เข้าก็เชื่อฟังอุบาสิกา  ปฏิบัติตามคำแนะนำ คือ ทำบุญให้ทาน  รักษาศีล  และเจริญภาวนา  ปรากฏว่าไม่นานชีวิตเขาก็เปลี่ยนไป  แก้ปัญหาได้  ภาระหนี้สินค่อยๆ หมดไป  จนในที่สุด  เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย  เขาก็บวชเป็นพระจนถึงปัจจุบัน

                เมื่อเขาบวชเป็นพระแล้ว  เวลามีโยมผู้หญิงมากราบ  มาปรึกษาปัญหา  ท่านก็ให้อุบาสิกาช่วยรับแขก  ทุกข์ของผู้หญิงส่วนมากมี 2 เรื่องนั่นแหละ  คือ  ผิดหวังในความรัก  กับเรื่องหนี้สินเงินทอง  *อุบาสิกาก็สอนวิธีแก้ปัญหาในชีวิต ตาม 3 ข้อนี้ คือ  ให้ทาน  รักษาศีล  เจริญภาวนา  ใครปฏิบัติตามนี้แล้วก็แก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง

                การให้ทาน  บางคนอาจจะคิดว่า  ตัวเองมีปัญหาหนี้สินอยู่  จะมีเงินที่ไหนไปทำบุญทำทาน  จริงๆ แล้ว  การทำบุญทำทานนั้น  ไม่จำกัดอยู่เฉพาะการทำบุญกับวัด  กับพระเท่านั้น  ไม่ว่าจะให้แก่พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อน ผู้ขาดแคลน  หรือกับสรรพสัตว์ทั้งหลาย  ก็เรียกว่าเป็นทานทั้งสิ้น  จะให้มากให้น้อย  ก็แล้วแต่กำลังศรัทธา  และกำลังทรัพย์ของผู้ให้

                การให้ทาน  เป็นอุบายอย่างหนึ่งที่จะเปลี่ยนความรู้สึกของทั้งผู้ให้และผู้รับ  โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีปัญหาเคยทะเลาะกัน  ไม่พูดกัน

                เมื่อฝ่ายหนึ่งแสดงน้ำใจ  ด้วยการซื้อขนมหรือผลไม้มาฝาก  ก็ช่วยให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน  เปลี่ยนความรู้สึกที่เคยขุ่นเคืองมาเป็นมิตรได้  มีอานิสงค์เหมือนการทำบุญให้ทานเช่นกัน...

                นอกจากการให้ทรัพย์สินเงินทองแล้ว  การทำทานมีหลายวิธี  ทุกคนไม่ว่าจะมีฐานะอย่างไร  ก็สามรถเป็นผู้ให้ได้เสมอ  ตามหลักการบำเพ็ญทาน  10  ประการ  ได้แก่

                1. ให้ทานด้วยทรัพย์สินเงินทอง

                2.  ให้ทานด้วยสายตาที่เมตตาปรานี

                3.  ให้ทานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

                4.  ให้ทานด้วยวาจาที่ไพเราะน่าฟัง

                5.  ให้ทานด้วยแรงงานช่วยเหลือผู้อื่น

                6.  ให้ทานด้วยการอนุโมทนายินดีเมื่อผู้อื่นทำดี

                7.  ให้ทานด้วยการให้อาสนะ  (ที่นั่ง)

                8.  ให้ทานด้วยการให้ที่พัก

                9.  ให้ทานด้วยการให้อภัย

                10. ให้ทานด้วยการให้ธรรมะ

 

                    การรักษาศีล  เมื่อมีปัญหาให้สำรวจตัวเองก่อนว่า  ตัวเรานั้น  สำรวมกาย  วาจา  ใจ  เรียบร้อยหรือไม่  ให้สำรวจตัวเองด้วยใจเป็นธรรม  บางทีเราอาจขี้บ่น  คำพูดของเรา  การแสดงออกของเรา  สร้างปัญหาแก่ตัวเอง  และผู้อื่นหรือไม่  ตั้งเจตนาในการรักษาศีล 5 ให้สมบูรณ์  อย่างน้อย  ก็เป็นกรอบทำให้เราไม่เบียดเบียนผู้อื่น

หัวใจของศีลคือความไม่เบียดเบียน

ตามปกติก็ให้เรารักษาศีลก่อน

เมื่อเรารักษาศีลสมบูรณ์

ศีลเกิดขึ้นแล้ว-ในที่สุดศีลก็จะรักษาเรา

 

                   การเจริญภาวนา  เมื่อมีปัญหา  อย่าเพิ่งรีบร้อนที่จะแก้ปัญหาภายนอก  ให้ตั้งสติ  หยุดทำ  หยุดพูด  หยุดคิด  หยุดทุกอย่างก่อน

                   กำหนดลมหายใจออกยาวๆ  ลมหายใจเข้าลึกๆ  ให้มีสติ  มีความรู้สึกตัวกับลมหายใจเข้า  ลมหายใจออก  ติดต่อกัน  ต่อเนื่องกัน  มีสมาธิตั้งมั่นกับลมหายใจ  ปล่อยวางความรู้สึกที่ไม่ดี  ปล่อยวางจิตให้ว่างๆ  ว่างจากอดีต  ว่างจากอนาคต  ว่างจากความไม่สบายใจ  เหลือแต่จิตที่มีความรู้สึกตัว

                   โอปนยิโก  น้อมเข้าหาธรรมชาติของจิต  ที่เป็นประภัสสร  บริสุทธิ์ผุดผ่อง  เมื่อจิตใจสงบเบาสบายแล้ว  จึงค่อยๆ  คิดแก้ปัญหาด้วยสติปัญญา  เมื่อจิตใจดีสบายใจแล้ว  ทุกสิ่งทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง  ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นกับเรา

 

สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต คือ รักษาใจของเราให้ดี

เพราะใจเป็นประธาน ใจเป็นหัวหน้า

เมื่อใจดี ก็คิดดี พูดดี ทำดี

ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้นตามเหตุปัจจัย

               

*********************************************

            ส่วนใครที่อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการข้อมูลเต็มๆในเรื่องที่องค์กรศาสนาได้นำมาเสนอก็สามารถติดตามได้ที่

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

1.  หนังสือ  “มีสุข”  เขียนโดย  พระอาจารย์มิตซูโอะ  คเวสโก  สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี  ราคา  140  บาท