กรมบัญชีกลาง ประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หารือแนวทางการตรวจสอบเพื่อให้การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเป็นไปด้วยความเหมาะสม
นายมนัส แจ่มเวหา ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้หารือกับ ป.ป.ท. และ สตง. เพื่อร่วมมือกันทำงานในเรื่องการควบคุมการเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลข้าราชการให้เป็นไปด้วยความเหมาะสม ซึ่งทุกฝ่ายที่มาประชุมมีความยินดีที่จะช่วยดำเนินการ โดยในขั้นแรกกรมบัญชีกลางจะนำข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบที่พบการเบิกจ่ายผิดไปจากกฎหมายหรือหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ส่งให้ สตง. ตรวจสอบโรงพยาบาลอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นมาตรการเชิงรับ สำหรับมาตรการเชิงรุกอยู่ในระหว่างพิจารณาหลักเกณฑ์เพื่อลดความเสี่ยงในการเบิกจ่ายเงินที่ผิดพลาด ซึ่งคงต้องอาศัยความร่วมมือจากโรงพยาบาลเป็นหลัก และหลายท่านคงได้ทราบข่าวกรณีกรมบัญชีกลางได้ดำเนินคดีอาญากับผู้ใช้สิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการซึ่งมีพฤติกรรมทุจริตเบิกจ่ายยา โดยในเรื่องนี้ศาลได้ลงโทษตัดสินจำคุกแต่รอลงอาญาไว้ 1 ปี เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพกรมบัญชีกลางและ ป.ป.ท. จะร่วมมือกันป้องปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยจะทำบันทึกความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงาน โดย ป.ป.ท. จะเข้าไปตรวจสอบในระดับบุคคล ติดตามพฤติกรรมเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน หากมีการพิสูจน์ทราบว่าเข้าข่ายการกระทำผิดอาญาจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด สำหรับผู้ใช้สิทธิที่ไม่ได้มีเจตนาทุจริตแต่อยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวังพฤติกรรมเพราะเหตุค่าใช้จ่ายสูงผิดปกติ ก็จะกำชับ
ไปยังสถานพยาบาลผู้ดูแลในการสั่งยาให้เป็นไปตามความเหมาะสม และอาจต้องให้บุคคลดังกล่าวใช้ระบบเบิกจ่ายตรงที่โรงพยาบาลเพียงแห่งเดียว เพื่อมิให้เกิดการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่เกินความจำเป็น ซึ่งคาดว่าจะได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือในเดือนมีนาคมนี้
นายมนัส แจ่มเวหา ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมบัญชีกลางได้เสนอมาตรการควบคุมค่ารักษาพยาบาลข้าราชการเพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารให้ความเห็นชอบ คาดว่าจะเข้า ครม.
ในเดือนมีนาคม 2553 ซึ่งมาตรการดังกล่าวก็จะช่วยให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณเป็นไปด้วยความเหมาะสม
อีกทางหนึ่ง
ไม่มีความเห็น