เชื้อเอชไอวี ภัยเงียบที่ค่อยๆเข้ามา


เอชไอวี

วันนี้ได้มีเวลาก่อนเลิกงานเล็กน้อย  หลังจากคุยกับคนไข้มาทั้งวัน

นั่งทบทวนแล้วเห็นว่าผู้ป่วย 3 คนสุดท้ายมาด้วยเรื่องทำนองเดียวกัน สามี-ภรรยา

 

1.  หนูรับยาต้านไวรัส เมื่อ 2 ปีก่อน  ต้องซื้อยาเอง  เพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชน 

     ยาแพงมาก ค่าเจาะเลือดก็แพง  หนูเลยขาดยาไป       เดือนนี้หนูป่วยมากน้ำหนัก

    ลดเกือบ 10 กิโล  หนูอยากอยู่กับลูก  หนูจึงตัดสินใจมาโรงพยาบาล

    หนูเลิกกับสามีแล้ว  เค้าเจ้าชู้มาก  ตอนนี้มีเมียใหม่แล้ว    เมียใหม่คงติดเชื้อจากเค้า

    แล้ว   แต่เค้าดีนะ  เค้ายังส่งเงินให้หนูอยู่เลย

 

2.  วันนี้หนูมาหาพี่พยาบาลใหม่  หนูขาดยาต้านไวรัสมา 6 เดือน

     หนูทราบว่าขาดยาไม่ได้  ต้องทานต่อเนื่อง   แต่หนูต้องไปอยู่กับสามีที่ต่างจังหวัด

     แต่ตอนนี้เราเลิกกันแล้ว   เพราะเค้าเจ้าชู้  มีเมียใหม่อีก 2 คน   ป่านนี้เมียใหม่คงติด

     เอดส์ไปแล้ว  ....   ส่วนหนูตอนนี้ทำงานโรงแรม  เป็นพนักงานต้อนรับ  มีคนมาจีบ

     เยอะแต่หนูยังไม่อยากมีใหม่

 

3.  วันนี้หนูมาขอรับยาต้านไวรัสก่อนนัด   พอดีหนูย้ายบ้านทำยาหาย

     หนูเลิกกับแฟนหนูแล้ว   เพราะจับได้ว่าเค้ามีลูกติด 2 คน   อายุ 4 ขวบ 1 คน 

     5 ขวบ 1 คน   เค้าปิดบังหนู    ก่อนหน้านี้เค้าเอาลูก 2 คนไปอยู่สถานสงเคราะห์

     พอหนูมีลูกกับเค้า เค้าก็ไปรับลูกมาอยู่ด้วย   ทำให้หนูต้องดูแลเด็กตั้ง 3 คน

     หนูทนไม่ได้  มีเรื่องอื่นอีกที่พี่ไม่รู้   หนูอยู่คนเดียวดีกว่า   แต่ถ้ามีคนดีๆมาจีบหนู

     ก็ไม่แน่

 

4.  แฟนหนูเค้าอยากมีลูก   แต่เค้าไม่รู้ว่าหนูติดเชื้อเอชไอวี  ทำอย่างไงดี  ...

    เพราะหนูให้เค้าใช้ถุงยางเค้าก็บอกว่าอยากมีลูก       ถ้าหนูปล่อยเลยตามเลยเค้าคง

    ติดเชื้อจากหนูแน่เลย   หนูจะทำอย่างไรดี

คำสำคัญ (Tags): #เอชไอวี
หมายเลขบันทึก: 340134เขียนเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2010 16:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 17:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท