การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาฯ (กขป.) ครั้งที่ ๑


การประชุมสมัชชาขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา ภายใต้แนวคิด "คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ" ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ ๖-๗ มีนาคม ๒๕๕๓ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดเพื่อชูธงการปฏิรูปการศึกษาในเวลา ๙.๐๐ น.

ห้องประชุมกระทรวงศึกษาธิการ - นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กขป.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ โดยมีนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์  นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมประชุมพร้อมกันด้วย

รมว.ศธ.กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบถึงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กขป.) ซึ่งกำหนดไว้ตาม "ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง พ.ศ.๒๕๕๒" รวมทั้งยังได้รับทราบสรุปผลการสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ เมื่อวันที่ ๙-๑๐ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมทั้งสรุปประเด็นการสัมมนาแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา "สี่ใหม่" อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาด้วย

  • เห็นชอบเป้าหมายการปฏิรูปการศึกษาเมื่อสิ้นสุดปี ๒๕๖๑

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบการกำหนดเป้าหมายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง พ.ศ.๒๕๖๑ ดังนี้

  • การพัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระวิชาหลักเกินกว่า ๕๕% มีการผลิตกำลังคนอาชีวศึกษาที่ใช้งานได้จริง สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ บัณฑิตมีคุณภาพระดับสากล และเป็นไปตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ

  • การพัฒนาคุณภาพครูยุคใหม่  ผลิตครูยุคใหม่ให้ได้เฉลี่ยอย่างน้อยปีละ ๑๒,๐๐๐ คน และสอดคล้องกับอัตราเกษียณของข้าราชการครู นอกจากนี้ครูประจำการทุกคนได้รับการพัฒนาตรงตามวิชาที่สอนและอย่างเป็นระบบอย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง ส่วนภาระงานสอนโดยเฉลี่ยไม่เกินสัปดาห์ละ ๑๘ ชั่วโมง

  • การพัฒนาสถานศึกษาและแหล่งเรียนยุคใหม่  สถานศึกษาทั้ง ๑๐๐% ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก สมศ. พร้อมกับมีโรงเรียนและแหล่งเรียนรู้ดีที่ได้คุณภาพมาตรฐานอย่างน้อยตำบลละ ๑ โรงรวม ๗,๔๐๙ โรง มีแหล่งเรียนรู้ที่ได้มาตรฐานทั่วถึงทุกตำบล ๗,๔๐๙ แห่ง และมีค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือของคนไทยเพิ่มขึ้นเป็นปีละ ๑๒ เล่มต่อคน

  • การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการใหม่  จำนวนปีการศึกษาเฉลี่ยของคนไทยเพิ่มขึ้นเป็น ๑๒ ปี สัดส่วนผู้เรียนระหว่างสถานศึกษารัฐและเอกชนเป็น ๖๓:๓๗ สัดส่วนผู้เรียนสังกัด อปท.เพิ่มขึ้นจาก ๑๑.๖% ในปี ๒๕๕๑ เป็น ๒๐% ของจำนวนผู้เรียนทั้งหมด และมีโรงเรียนขนาดเล็กลดลงเหลือ ๕๐% จากปัจจุบันที่มีโรงเรียนขนาดเล็ก ๑๓,๙๑๕ โรง

นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายจากการอภิปรายของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (กนป.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คือ ๑) พัฒนาผู้เรียนจนเต็มตามศักยภาพ ให้คิดเป็นทำเป็น มีความรู้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ เป็นผู้มีจริยธรรมและมีความสุขกับชีวิต ๒) ทำให้ครูเป็นครูเพื่อศิษย์ที่มีคุณภาพและยั่งยืนในวิชาชีพได้อย่างสง่างาม ๓) สร้างนิสัยใฝ่รู้และสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย เกื้อหนุนโดยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมเพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิต ๔) ปรับวิธีการบริหารจัดการศึกษา โดยใช้เขตพื้นที่การศึกษาหรือเครือข่ายสถานศึกษาเป็นกลไกรับผิดชอบความสำเร็จและความล้มเหลว

คำสำคัญ (Tags): #ประชุม ศธ.
หมายเลขบันทึก: 339937เขียนเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2010 17:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2012 20:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท