ใจหนูปรารถนาหนี หนีจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอยู่แม้กระทั่งการหายใจ การรั้งจิตใจให้อยู่ฟังลมหายใจมันทรมาร ใจหนูมันดื้อ จะจับอะไรยัดเข้าไปจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่เรื่อง่ายเลย แค่ฝึกหายใจ ก็อยากให้มันสบายโล่งโปร่ง เพราะเคยสัมผัสได้เพียงชั่วแว๊บในการนั่งสมาธิ แต่การที่หนูอยู่ในชีวิตประจำวันมีสิ่งมากระทบมากมาย ยอมรับเลยค่ะว่า เลือกไม่ได้ แม้กระทั่งพายุรุนแรงที่ดันมาจากภายใน มันหนักหนาที่สุด มันอึดอัด มันทุกข์ แล้วก็ระลึกถึงคำที่ครูเคยสอนว่า “ช่างมัน มันจะเป็นอะไรก็ช่างมัน” แต่ใจนี้ก็ไม่ได้ปล่อย ยังสำคัญมั่นหมายว่า “ฉันเป็นทุกข์”
พอเขียนแบบนี้ จิตของหนูก็บอกว่า “ท่านไม่ได้สอนให้คร่ำครวญ ทีเรื่องไม่ได้สอนหล่ะเก่งนัก” แต่พอได้เขียนมันก็สบายขึ้น แต่จิตหนูก็ได้เสพอารมณ์ขุ่นมัวไปแล้ว
ถึงแม้ที่ทำมาจะยังไม่ถึงพร้อม ความอดทนที่มี พอเจอบททดสอบก็หงายเก๋ง มันเป็นเช่นนี้หนอชีวิต แต่ถ้าทำได้สมบูรณ์ก็คงไม่ใช่นักเดินทางที่ต้องยังต่อสู้ฝ่าฟัน ก็ในเมื่อกระโดดลงสนามแล้ว และก็ถอยไม่ได้ด้วย ก็ต้องสู้ต่อไป พราะเส้นทางที่ได้ยินได้ฟังมา ไม่มีท่านใดที่ผ่านได้อย่างสบาย ๆ แทบจะอยู่ฟากความตายด้วยซ้ำ เมื่อถูกกำหนดมาแล้วก็ต้องเผชิญต่อไปจนกว่าจะถึงวันที่ไม่มีสิ่งใดให้เผชิญ
ไม่มีความเห็น