โครงการความสุขในที่ทำงานของคุณ......ตอนสาม

มาถึงตอนสามแล้ว เป็นอย่างไรกันบ้าง หากยังไม่ได้ลองทำอะไร ลองเขียนดูในกระดาษไปก่อน หรืออย่างน้อยเราก็ได้มานั่งคิดถึงการดำเนินชีวิต การทำงานของเราว่าเป็นอย่างไร เราทำงานเราให้คุณค่ากับอะไร ความสัมพันธ์ในที่ทำงานเป็นอย่างไร ... อดแทรกเรื่องที่กำลังฟังอยู่คือฟังจาก audio book เรื่อง Art of Happyness at Work ซึ่งมีการสัมภาษณ์ ดาไล ลามะ แห่งทิเบต เรื่องของศิลปแห่งความสุขในที่ทำงาน มีอยู่ตอนนึงที่ถามท่านว่า ท่านทำงานอะไร ท่านตอบว่าไม่ได้ทำอะไร เมื่อผู้ถามย้ำให้ท่านตอบ ท่านกล่าวว่าท่านแค่ดูแลตัวท่านเองเท่านั้น และกล่าวว่ามันอาจดูว่าเป็นคำตอบที่ไร้สาระ แต่จริงๆ แล้วที่ทุกคนทำงานนั้นก็เพื่อดูแลตัวเอง (เพื่ออาหาร เพื่อเครื่องนุ่งห่ม เพื่อยารักษาโรค เพื่อที่อยู่อาศัย) นั่นคือจุดหมายที่สำคัญในการทำงานของเราคือเพื่อดูแลตัวเอง ก็น่าคิดนะ แล้วตอนนี้เราทำงานเพื่ออะไร เราได้ดูแลตัวเองกันหรือไม่..... มาว่าเรื่องของคุณ Karl กันต่อดีกว่า ตอนสาม คือให้คิดว่างานที่เราทำอะไรที่รู้สึกสนุกกับมัน

ความปรารถนาของคุณ..... สนุกกับสิ่งที่คุณทำ

ชัดเจนใช่ไหม ดังนั้นทำไมเราหลายคนจึงยังคงทำงานที่ไม่ชอบอยู่ เราล็อคตัวเองอยู่กับบทบาทหน้าที่ และกลัวที่จะเปลี่ยนแปลง เราเป็นเสมือนถูกขังไว้ในความคิดของการทำงานที่เป็นเหมือนกองภูเขา มากกว่าที่จะยอมให้ตัวเราเองสนุกกับความงามของขั้นตอนการทำงานแต่ละขั้นตอน

หวังว่าคุณได้เขียนสิ่งที่คุณสนุกที่จะทำมันในงานที่คุณทำเป็นประจำมาแล้ว 5 อย่างหรือถ้ายังก็ยังเขียนได้ในตอนนี้

สำหรับตัวเองลองเขียนดูก็น่าจะเป็น เรื่องที่มีเรื่องเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ การค้นคว้าเอกสาร งานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ งานใหม่ๆ ที่ท้าทาย

จากนั้น เขียนวิธีหรือหนทางที่จะทำให้มันเป็นจริง อืม... ต้องใช้เวลาหน่อย ก็อย่างที่ Karl กล่าวไว้ว่า

การเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปเป็นกุญแจสำคัญ เราต้องคอยหาการเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในงานปัจจุบันที่เราทำจนกระทั่งมันกลายเป็นอะไรบางอย่างที่ให้พลังกับตัวของเรา ฉันชอบที่จะคิดว่าเหมือนกับกระดานหก หลายคนมักจะติดอยู่ในงานที่ไม่ได้ทำให้เราเห็นจุดแข็งของตัวเองหรือเพิ่มเติมจุดแข็งให้ยิ่งดียิ่งขึ้นไป เพราะเรามีเพื่อนตัวใหญ่ยักษ์นั่งอยู่อีกด้านของกระดานหก หัวเราะเยาะเราอยู่เพราะเราติดอยู่ข้างบน ควบคุมไม่ได้ ทุกๆวันเราต้องเพิ่มน้ำหนักให้กับตัวเองจนกระทั่งทำให้กระดานหกกลับ เพื่อให้เรามีความสุขขึ้น จากนั้นเราก็จะสามารถควบคุมความสุขของตนเองได้

นั่นคือเสนอตัวเขาทำโครงการหรืองานที่เหมาะกับความต้องการของเรา ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรักที่จะติดต่อสื่อสารกับลูกค้าแต่คุณติดแหง็กอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน คุณอาจอาสาเพื่อที่จะเริ่มทำโปรแกรมที่จะออกไปประชาสัมพันธ์เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้า

แล้วมันก็จะกลับมาสู่การเข้าใจว่าอะไรที่เราให้คุณค่ากับมันและหาวิถีทางที่จะทำมันให้ได้มากที่สุด

เป็นไงบ้างคะ หาหนทางได้หรือยังกับการนำเอาสิ่งที่เราทำแล้วสนุกมาทำให้เป็นจริง ต้องค่อยเป็นค่อยไป ค่ะ อย่างน้อยสำหรับตัวเองก็อาสามาแปลเอกสารพวกนี้ให้เพื่อตัวเองจะได้ทำงานเกี่ยวข้องกับภาษา การรับอาสาทำก็จะเป็นทางหนึ่งที่ทำให้เพื่อนร่วมงานเห็นและยอมรับในสิ่งที่เราทำ และเราก็ได้สนุกกับมันด้วย

สำหรับผู้ที่ยังค้นหาความปรารถนาอย่างแรงกล้าของตนอยู่ก็เอาใจช่วยคะ ตัวเองเคยใช้เวลาอยู่พักนึงจึงจะได้ข้อสรุปของตัวเอง ลองดูหลายๆ วิธีในการค้นหาความปรารถนาของเรา

หาแมกกาซีนรูปสวยๆ ที่ไม่อ่านแล้วมาเลือกรูปที่เราชอบ ตัดมาแปะบนกระดาษแผ่นใหญ่พอสมควร ดูความเหมือนหรือแนวโน้มของกลุ่มภาพที่เราตัดมา

ดูว่าอะไรที่เราชอบและรักที่จะทำ ยังไม่ต้องในเรื่องงานก็ได้

เรามักใช้เวลากับอะไรมาก หรือถ้าค้นเอกสารหรืออ่านอะไรบางอย่างมันจะเกี่ยวกับเรื่องอะไรเป็นส่วนใหญ่

ลองถามเพื่อน คนใกล้ชิด ในเรื่องนี้เผื่อเขาจะสังเกตได้

หากค้นพบแล้ว ก็ขอให้สนุกกับสิ่งที่ทำนะจ๊ะ และนำเอาสิ่งที่เราสนุกกับมันมาผูกไว้กับงานที่เราทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป งานในที่ทำงานก็จะสนุกและเราจะมีความสุขขึ้นกับที่ทำงานของเรา.....