เขากับเธอเป็นเพื่อนนักเรียนมัธยมปลาย ระหว่างคนทั้งสองมีเพียงช่องทางเดินเล็ก ๆ ระหว่างโต๊ะกั้นกลางเอาไว้ หญิงสาวนั้นเป็นคนสวย น่ารัก ฉลาด และเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆ สำหรับชายหนุ่มนั้นเป็นคนพูดน้อยและไม่เคยที่จะเริ่มพูดคุยกับใครก่อนเลยโดยเฉพาะกับเพื่อนผู้หญิง แต่หญิงสาวชอบที่จะไปเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะแถวเดียวกับเขา และเธอก็ได้สังเกตเห็นว่าผู้ชายคนนี้กำลังนั่งทำอะไรบางอย่างอยู่ ด้วยความที่เป็นคนช่างสังเกตทำให้เธอมองชายหนุ่มคนนี้อย่างเต็มไปด้วยคำถามและข้อสงสัย เธออยากรู้ว่าเขาคนนี้วันๆ คิดอะไรอยู่
บางทีเขาก็ได้มีโอกาสมาพูดคุยกับเธอ แต่ก็จะพูดกับเธอเฉพาะเรื่องที่ต้องคุย เมื่อจบเรื่องที่ต้องสนทนา ก็ไม่มีเรื่องใดที่จะสนทนากันอีก ถึงแม้จะเป็นอย่างนี้แต่เธอก็พบสาเหตุบางอย่างว่า ทุกครั้งก่อนการสอบเขาจะขอยืมดินสอของเธอ และเมื่อคืนกลับมาดินสอถูกเหลาให้อย่างดีโดยไม่มีรอยใด ๆ ให้เห็นเสมือนงานหัตถกรรมชิ้นงามชิ้นหนึ่ง เธอหยิบดินสอมาใช้อย่างกลั้นความตื้นตันไว้ไม่ได้ และทุกครั้งเธอจะแกล้งทำดินสอให้ทู่ลงเพื่อที่จะให้เขามีเหตุผลมาเอาดินสอของเธอไปเหลา
เป็นที่รู้กันของทั้งสองคนว่า เขาและเธอต่างก็มีใจให้กัน แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอพบว่าเขาคืนดินสอให้เธออย่างผิดปกติ เธอจึงเปิดกล่องดินสอออกมาดูและพบว่าข้างในนั้นมีกระดาษอยู่แผ่นหนึ่งซึ่งเป็นจดหมายรักที่ๆไม่มีถ้อยคำอันหวานซึ้งเลย มีเพียงข้อความสั้น ๆว่า " สำหรับผมแล้วคุณคือความรักสุทธิ 21 กรัมของผม " เธอคิดว่าทำไมความรักของเขาที่มีต่อเธอมีค่าเพียง 21 กรัม เธอรู้สึกโกรธเขามาก
ในวันหนึ่งมีการจัดสอบวิชาคณิตศาสตร์ ทางโรงเรียนเกรงว่าจะมีนักเรียนคอยลอกข้อสอบกันจึงมีการแยกสนามสอบ เขาแยกไปสอบอยู่นอกชั้นเรียนแต่เธอนั่งสอบอยู่ในห้องเรียน เมื่อถึงเวลาใกล้สอบเขาก็มองหาเธอเพื่อจะยืมดินสอเหมือนทุกครั้ง แต่เขากลับเห็นเธอยื่นสมุดเล็กเชอร์ให้เพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง เธอคิดเพียงแค่อยากยั่วให้เขารู้สึกโกรธไม่พอใจเท่านั้น เขาเองก็ถามขึ้นมาด้วยเสียงอันสั่นเทาว่า " เธอจะไม่ให้เล็กเชอร์ฉันยืมหน่อยหรือ " เธอตีหน้าบึ้งและบอกเขาว่า " ทำไมฉันต้องให้เธอยืมด้วยล่ะ " ในเวลาชั่วพริบตาเธอสังเกตเห็นสีหน้าเขาที่ซีดเผือดลง เขาจ้องมองตาเธอและหันหลังกลับไปนั่งที่ซึ่งไม่มีใครนั่งข้าง ๆ เขาเลย
วันจันทร์ต่อมาก็มีการประกาศผลสอบ คะแนนของเธออยู่ในระดับที่ดีแต่เขากลับสอบตก ทั้งครูและเพื่อนทุกคนต่างก็ตำหนิเขา เธอรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อยเมื่อคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ เธอคิดว่าควรจะขอโทษเขาดีไหมทว่าการทำแบบนั้นอาจดูเสียหน้า และทำไมเธอต้องขอโทษเขาด้วย เธอลังเลอยู่นานจนถึงเวลาเลิกเรียน สุดท้ายก็คิดว่าพรุ่งนี้จะเขียนคำขอโทษใส่กระดาษให้เขา
แต่พอถึงวันรุ่งขึ้นเขาก็ไม่มาโรงเรียน จนกระทั่งอีกวันต่อมาก็ได้ข่าวว่าเขาย้ายโรงเรียนแล้ว เธอไม่คิดหรอกว่าเขาจะได้รับอันตรายใด ๆ ได้ง่าย ๆ หรือเป็นเพราะความหยิ่งในศักดิ์ศรีแบบนั้นหรือ ความสัมพันธ์ควรจะสิ้นสุดลงกับคนแบบนี้ แต่เธอทำได้เพียงปลอบใจตัวเองเท่านั้นและจะต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้ต่อจากนี้ แต่ในบางคราวเธอก็อดที่จะคิดถึงผู้ชายคนนี้เสียมิได้เหมือนดังที่เขาตั้งใจเข้ามาขอยืมดินสอของเธอทุกครั้งก่อนสอบ
ต่อมาเธอก็ได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย ณ ที่แห่งนี้มีความสวยงาม มีสีสันอันมีชีวิตชีวา มีจดหมายบอกรักมากมายที่ส่งมาถึงเธอในบรรดาจดหมายเหล่านั้น มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้แต่งกลอนให้เธอ และเขาก็กลายมาเป็นแฟนของเธอ ต่อมาเธอรู้ว่ากลอนบทนั้นชายหนุ่มลอกมาจากคนอื่น เธอโกรธมากแต่ก็ยอมให้อภัย ชายหนุ่มทำให้เธอมีความสุขใจขึ้นมาอีกครั้ง นับจากนั้นมาเธอก็รู้ได้เลยว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นผู้ชายคนแรกที่สามารถคว้าหัวใจเธอไว้ได้ ถึงแม้ว่าบางครั้งจะรู้สึกโกรธเขามากแค่ไหนก็ตามแต่หัวใจก็ยังยอมอภัยให้เขา เธอรู้สึกว่านี่คงเป็นพรหมลิขิต ผลลัพธ์ที่ออกมาถูกลิขิตไว้ล่วงหน้าแล้ว และไม่จำเป็นต้องกลับมาย้อนถามว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ช่วงเย็นของสุดสัปดาห์หนึ่ง เธอต้องการให้เขาพาไปดูหนังแต่เขากลับพูดขึ้นมาว่า วันนี้ตอนเย็นมีการถ่ายทอดฟุตบอลนัดสำคัญ ทันทีที่ได้ยินเขาพูดเธอโมโหเป็นอย่างมาก แล้วย้อนถามกลับไปว่ากี่ครั้งแล้วที่เป็นแบบนี้ เขาเองก็คล้ายกับจะโกรธเช่นกันและเขาก็ได้ปฏิเสธเธอ เธอก็ทำได้เพียงแค่ยืนดึงเสื้อเพื่อชวนเขาไปดูหนังอยู่ข้าง ๆ ในที่สุดเขาก็ยอมพาเธอมาถึงโรงหนังด้วยความรู้สึกไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร " ทำไมไม่ยอมเข้าไปดูสักทีล่ะ " ชายหนุ่มพูดขึ้นมา เธอกลับตอบไปว่า " เธอคิดว่าเธอเป็นใคร ถึงมาสั่งฉัน " ทันทีที่เขาได้ยินก็ได้ตบหน้าเธอไปหนึ่งที เธอเองก็ได้ตบหน้าเขาคืนเช่นกันพร้อมกับพูดว่า " นับจากนี้ความสัมพันธ์ของเราจบกัน " เธอก็วิ่งกลับหอไป
นับจากนั้นชายหนุ่มไม่โทรศัพท์มาหาเธออีกเลยแม้ในเวลาที่เธอป่วยอย่างหนัก เมื่ออาการป่วยดีขึ้น เธอออกมาเดินเล่นตามลำพังจนมาถึงหน้าโรงหนัง แล้วเดินเข้าไปดูหนังด้วยใจอันเลื่อนลอย ระหว่างนั้นก็ได้เห็นคู่รักคู่หนึ่งที่นั่งดูหนังอยู่ด้านหน้า เธอได้ยินเสียงทั้งคู่พูดคุยกันว่า " เป็นเพราะอะไร หนังเรื่องนี้ถึงชื่อว่า 21 กรัมล่ะ เธอรู้สึกแปลกใจไหม " หญิงสาวถามขึ้นมา " เด็กโง่ 21 กรัม ก็คือน้ำหนักของวิญญาณไง คนตะวันตกเล่าสืบกันมาว่าคนที่ตายแล้วจะมีน้ำหนักหายไป 21 กรัม ...." ชายหนุ่มตอบเธอ
" 21 กรัม...21 กรัม... " หญิงสาวพึมพำ วันเวลาได้หมุนผ่านไปดั่งคลื่นของทะเลที่ถาโถม ฉับพลันเธอก็รู้สึกว่ามีเข็มมาทิ่มแทงให้เธอต้องรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว เธอยกสองมือของเธอมาปิดหน้าซับหน้าตา แต่น้ำตากลับไหลผ่านร่องมือเป็นสายไม่หยุด...
ไม่มีความเห็น