อาหารเพื่อสุขภาพ


เก็บมาฝาก...............อาหารเพื่อสุขภาพ

อาหารเพื่อสุขภาพ

 

Click for enlage picture.

นอกเหนือจากผลไม้แล้ว เรายังมีอาหารหลายชนิดที่มีแร่สำคัญต่างๆ อาหารเหล่านี้เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีภายในร่างกายของเราอย่างไรบ้าง และอะไรที่สามารถจัดเป็นอาหารสุขภาพ มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ ซึ่งอาหารที่ว่านี้เขาเรียกขานกันว่า อาหารชีวจิตค่ะ

ระยะนี้ถ้าใครไม่พูดถึงอาหารชีวจิต ดูจะล้าสมัยอย่างไม่น่าให้อภัยเลยทีเดียว จึงขอนำสาระสำคัญจากหนังสือชุดชีวจิตของ ดร.สาทิส  อินทรกำแหง ที่มียอดขายสูงเฉียดแสนเล่มแล้วขณะนี้มาขยายต่อให้คุณผู้อ่านที่สนใจ ลองไปปฏิบัติดูบ้าง

ดร.สาทิส ให้ข้อคิดว่าการบริโภคอาหารใดๆ ก็ตามขอให้เรายึดหลักสายกลาง และคงความเป็นธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด การใช้ชีวิตแบบคืนสู่ธรรมชาติได้มากเท่าใดร่างกายของเราก็จะปรับสภาพให้มีความสมดุลได้มากเท่านั้น เมื่อร่างกายไม่ขาดสมดุล การเจ็บไข้ได้ป่วยตลอดจนสุขภาพที่ทรุดโทรม เสื่อมสภาพก็จะเกิดขึ้นได้ช้า คนยุคคอมพิวเตอร์ครองเมืองอย่างเราจึงเสียสภาพสมดุลในร่างกายไปทุกวัน ก็เพราะอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ หนึ่งในสิ่งแวดล้อมนั้นก็คืออาหารที่เราท่านบริโภคนี่เอง

อาหารประจำวันที่ควรบริโภคตามรูปแบบของชีวจิตนั้นมี ข้าวซ้อมมือ จมูกข้าว รำข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวหอม ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง เห็ดทุกชนิด ปลา ตับไก่จากไก่ที่เลี้ยงตามธรรมชาติ เมล็ดธัญพืชทุกชนิดรวมไปถึงน้ำจากผัก ผลไม้ที่คั้นด้วยวิธีธรรมชาติ หากเรารับประทานทุกอย่างได้ครบถ้วน และได้สัดส่วนจริงๆ นอกจากทำให้เราอิ่มแล้ว อาหารเหล่านี้ยังสามารถสร้างเซลล์ในร่างกายที่กำลังเสื่อมให้กระปรี้กระเปร่าเป็นหนุ่มสาวขึ้นมาได้ เพราะอาหารที่ว่า ประกอบด้วย DNA ปละ RNA อันเป็นสาระสำคัญของนิวคลีโอลัส ที่จะควบคุมการทำงานของนิวเคลียสซึ่งเป็นหัวใจของเซลล์ ทำให้เซลล์ที่เกิดใหม่แข็งแรง กระชุ่มกระชวยขึ้นได้ ต่อไปนี้คือสูตรอาหารสุขภาพตามแนวแมคโครไบโอติกส์ และชีวจิตของดร.สาทิสค่ะ

 



  1. อาหารประเภทแป้งซึ่งไม่ได้ขัดขาว หรือที่เรียกว่า Whole Grains เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ข้าวโพดทั้งเม็ดทั้งฝัก ถ้าเป็นแป้งขนมปังก็ควรเป็นขนมปังโฮลวีท อาหารประเภทนี้ให้รับในปริมาณ 50% ของแต่ละมื้อ

    Click for enlage picture.

  2. ผัก ควรเป็นผักดิบ ผักสุกอย่างละครึ่ง บริโภคในรูปสลัดผักสด หรือผักสุกจิ้มน้ำพริกก็ได้ เน้นว่าต้องเป็นผักปลอดสารพิษ สารเคมี ก่อนรับประทานให้แช่น้ำ หรือด่างทับทิมนานๆ หน่อย ปริมาณประมาณ 25% ของแต่ละมื้อ

    Click for enlage picture.

  3. โปรตีนจากถั่วต่างๆ ที่ต้องบริโภคให้ได้ปริมาณประมาณ 15% ของแต่ละมื้อ คือ ถั่วเขียว ถั่วแดง ถั่วเหลือง ถั่วดำ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากถั่ว จำพวกเต้าหู้โปรตีนเกษตร และดัดแปลงในรูปต่างๆ ส่วนโปรตีนจากสัตว์ อนุญาตให้รับได้เป็นครั้งคราว ประมาณอาทิตย์ละครั้งก็คือปลา และอาหารทะเล

    Click for enlage picture.

  4. แกงหรือซุปให้เป็นแกงจืด แกงเลียง หรือซุปที่ปรุงด้วยมิโซ่หรือเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น ที่ไม่ควรขาดคือสาหร่ายทะเล งาสด งาคั่วโรยอาหารเป็นเครื่องปรุงรส เพิ่มเติมด้วยเมล็ดพืชกินเล่น จำพวกถั่วคั่ว เมล็ดฟักทอง เมล็ดแตงโม ผลไม้ควรเป็นผลไม้เขียว และไม่หวาน อย่างเช่น ฝรั่ง และมะม่วงดิบ อาหารประเภทนี้ปริมาณต่อมื้อประมาณ 10%


 


อาหารที่ควรงด ก็คือเนื้อสัตว์ประเภท เนื้อ หมู ไก่ น้ำตาลขาวทุกชนิด ขนมหวาน เครื่องดื่มที่ผลิตจากน้ำตาลประเภท ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ไอศกรีม น้ำหวาน เค้ก อาหารมันๆ นม เนย กะทิ น้ำมัน สุดท้ายคือห้ามแป้งขาวทุกชนิด ไม่ว่าข้าวขัดขาว ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน และแม้แต่ขนมปังขาวค่ะ


Click for enlage picture.
 

 



นอกจากนี้ท่านยังแนะนำอาหารมังสวิรัติอันเป็นตำรับอาหารบริสุทธิ์ของพระเซน ชื่อชุด เจ็น ไหม (Gen Mai) ที่ง่ายๆ ประกอบด้วยข้าวซ้อมมือแช่ค้างคืน 3 ½ ส่วน สงให้แห้ง ผัดไม่ใส่น้ำมันให้เหลือง หุงใส่น้ำ 8 เท่า ผสมน้ำมันงานิดหน่อย กับผักแครอทหั่นเป็นลูกเต๋า 2 ส่วน หัวไชเท้า 1 ส่วน และต้นหอมอย่างผอม (Leek) อีก 2 ส่วน เคี่ยวไปจนแห้ง โดยไม่ต้องปรุงรส เวลาจะกินก็โรยงาคั่ว และเกลือคั่วนิดหน่อย หรือจะเป็นซีอิ้วญี่ปุ่นก็ได้

หากใครเป็นโรคหัวใจ ก็ลองเมนูอาหารสูตรของนายแพทย์ดีน ออร์นีช อีกตำรับ ท่านบอกว่าในแต่ละมื้อ เราควรรับไขมันจากพืช 10% คอเลสเตอรอลจากไข่ขาว 1 ฟอง ข้าวต่างๆ 70-75%  โปรตีนจากพืชประเภทถั่วต่างๆ 10-15% อนุญาตให้คนที่เคยดื่มไวน์อยู่แล้ว ดื่มได้วันละ 1 แก้ว ห้ามกาแฟ ผงชูรส นมสดทุกอย่าง ยกเว้นโยเกิร์ต และนมพร่องไขมัน

สูตรนี้ขาไวน์คงตีปีก เพราะถูกใจสุดๆ เป็นที่สังเกตว่าในไวน์แดงมีสารควิซิทิน (Quercetin) ซึ่งช่วยรักษาโรคหัวใจ และต่อต้านมะเร็งได้ เราคนไทยในยุคประหยัดไม่ต้องขวนขวายดื่มไวน์ให้เปลืองงบ เพราะสารชนิดนี้มีอยู่มากมายใน หัวหอม คะน้า และบร็อคโคลี่ ซึ่งสามารถรับประทานได้ทั้งสด และสุก มีใยอาหารหล่อลื่นกระเพาะแถมให้อีก สบายกระเป๋า สบายทั้งท้องดีจริงๆ


 
 

 


ประเด็นสำคัญอีกประการที่จับได้จากข้อเขียนของดร.สาทิส คือ อาหารที่เป็นกุญแจไขความลับสู่สุขภาพที่ดีของชีวิตมนุษย์นั้น ต้องเป็นอาหารที่ได้จากวิธีธรรมชาติไม่ผ่านการปรุงแต่ง ขัดสีเลยจะดีที่สุดที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ สัดส่วนของอาหารสุขภาพทุกตำรับ ทุกสูตรต่างเน้นที่พืชผักผลไม้มากกว่าเนื้อสัตว์ค่ะ

พืชผักสุขภาพของไทย ที่ใช้ประโยชน์ได้ทั้งการปรุงกลิ่น และเป็นสมุนไพรในตัวมีมากมายหลายชนิดให้เลือก เช่น

Click for enlage picture.


 


นี่คือตัวอย่างผักปรุงกลิ่นเพื่อสุขภาพแบบไทยๆ ที่เราคุ้นเคยกันมานาน คราวนี้ลองหันมาดูพืชผักปรุงกลิ่นเมืองหนาว ที่ปลูกได้ผลดีทางภาคเหนือของไทยในโครงการหลวง แม่เม้าขอคัดจากหนังสือพืชผักโครงการหลวง มาให้ชื่นชมสักนิดว่า พืชเมืองหนาวเหล่านี้ได้กลายมาเป็นพืชเศรษฐกิจของไทยที่มีเค้าว่า เรามีศักยภาพในการผลิตได้หลายชนิด ซึ่งอาจจะกลายเป็นธุรกิจการค้าส่งออกได้ในอนาคตข้างหน้า


 

 



ผักชนิดแรกคือ โกโบ (Gobo) ใช้ส่วนรากรับประทานซึ่งมีลักษณะเรียวเล็ก และยาวได้ถึง 1 เมตร นิยมมากในญี่ปุ่น ใช้บรรเทาโรคไขข้ออักเสบ และโรคผิวหนัง เป็นยาฟอกโลหิตด้วย อุดมด้วยวิตามินบี มีเส้นใยมาก ใช้เป็นอาหารลดความอ้วนได้

 

 



เชอร์วิล (Chervil) เป็นพืชปรุงกลิ่นที่เหมาะกับอาหารประเภทปลา ไข่ ซุป และสลัด ใช้ฟอกโลหิต ลดความดันโลหิต ช่วยย่อย ขับเหงื่อ แก้สะอึก

ซอเรล (Sorrel) ใบของผักชนิดนี้มีกลิ่นแรง แต่ใช้เป็นยาลดไข้ แก้ผิวหนังอักเสบ เมื่อปรุงกลิ่นรสสำหรับ ซุป สลัด และน้ำซอสต่างๆ จะช่วยบำรุงตับ และไต

 เซจ (Sage) เหมาะที่จะปรุงอาหารที่มีความมันมากๆ เพราะใบมีรสขมเล็กน้อย บริโภคเป็นผักจะช่วยย่อยอาหารฟอกโลหิต น้ำต้มจากใบช่วยแก้ปวดศีรษะ ลดความเครียด ผสมเป็นยาสีฟันก็จะช่วยรักษาเหงือก ทำให้ฟันสะอาด น้ำต้มจากใบเซจใช้สระผมบ่อย ป้องกันอาการผมร่วง และหงอกก่อนวัย ทำให้ผมดกดำได้เหมือนเดิม


Click for enlage picture.

 
 
 

 

ทายม์ (Thyme) เป็นพืชปรุงกลิ่นที่ให้รสชาติของอาหารฝรั่งอร่อยขึ้น ทายม์มีสารทายมอลที่ช่วยในการย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ทำให้เจริญอาหารมากขึ้น

พาร์สลีย์ (Parsley) อุดมด้วยวิตามินเอ บี และซี นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่หลายชนิด เช่น เหล็ก แคลเซียม จึงบำบัดอาการของโรคโลหิตจาง กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร และไต เคยใช้เป็นยาบรรเทาปวดประจำเดือนของสตรีในสมัยก่อนด้วย ใบสดๆ ของพาร์สลีย์บดพอกแก้ฟกช้ำ เคล็ดขัดยอก แมลงกัดต่อยได้ เคล็ดที่ไม่ลับของพาร์สลีย์ก็คือ ใช้พอกรักษาอาการนมคัดของสตรีมีครรภ์ น้ำจากใบที่แช่ค้างคืนเป็นน้ำยาโลชั่นทำความสะอาดผิวชั้นดีที่หนึ่ง ตลอดจนเคี้ยวเป็นยากำจัดกลิ่นปาก ทำให้ลมหายใจสดชื่น

มาเจอแรม และออรีกาโน (Marjoram and Oregano) ช่วยย่อยอาหาร ขับประจำเดือน ระงับประสาท ถ้าใส่ในหมอนหนุนศีรษะ จะทำให้นอนหลับง่ายค่ะ

นอกจากนี้ก็มี สวีทเบซิล (Sweet Basil) ที่เหมือนโหระพาไทย โรสแมรี (Rosemary) ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงประสาท แทรากอน (Tarragon) พืชพวกเดียวกับโกฐจุฬาลัมพา

Click for enlage picture.


 
 
 

 



พืชผักที่ใช้เพื่อสุขภาพ สามารถแก้ปัญหาทางสังคมแบบไทยๆ ที่ควรจะทราบไว้ก็คือ บุก (Konjae) ซึ่งเป็นพืชที่กำลังได้รับความนิยม และฮือฮาไม่แพ้ฟุตบอลโลกอยู่ในขณะนี้ สื่อต่างๆ กำลังเผยแพร่สรรพคุณว่า แป้งกลูโคแมนแนนที่มีอยู่ในหัวบุกนั้น มีคุณสมบัติพิเศษเป็นใยอาหาร (Dietary fiber) ที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้ ดังนั้นแม้บุกจะไม่มีสรรพคุณทางยาโดยตรง แต่มีประโยชน์ทางอ้อม คือช่วยเป็นตัวทำให้เนื้อที่ของกระเพาะอาหารเต็มโดยเร็ว เมื่อรับประทานแป้งบุกในรูปของแคปซูลหรือผงละลายกับน้ำดื่มก่อนอาหาร 10-20 นาที จึงใช้เป็นยาลดความอ้วนได้ เพราะกินได้น้อยลงทั้งยังรักษาโรคเบาหวาน แก้โรคท้องผูก และลดคอเลสเตอรอลได้

Click for enlage picture.


สุดท้ายคือ เอื้องหมายนา (Costus) เป็นพืชมีสาร diosgenin ที่มีสรรพคุณเป็นยาคุมกำเนิด ซึ่งโครงการหลวงได้เริ่มวิจัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เป็นต้นมา โดยมีความหวังว่า ถ้าการวิจัยประสบความสำเร็จ เอื้องหมายนาที่ว่านี้จะกลายเป็นพืชสร้างรายได้ให้คนไทยทางภาคเหนือไม่ยิ่งหย่อนกว่าพืชชนิดอื่นๆ

 
 
 

 



สุดท้ายคือ เอื้องหมายนา (Costus) เป็นพืชมีสาร diosgenin ที่มีสรรพคุณเป็นยาคุมกำเนิด ซึ่งโครงการหลวงได้เริ่มวิจัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เป็นต้นมา โดยมีความหวังว่า ถ้าการวิจัยประสบความสำเร็จ เอื้องหมายนาที่ว่านี้จะกลายเป็นพืชสร้างรายได้ให้คนไทยทางภาคเหนือไม่ยิ่งหย่อนกว่าพืชชนิดอื่นๆ

Click for enlage picture.

 


 
 

 



 

ต่อไปคนไทยคงต้องทักกันด้วยประโยคว่า วันนี้คุณรับประทานผัก (ปลอดสารพิษ) แล้วหรือยัง อาหารเพื่อสุขภาพมีอยู่รอบตัวเรานี่เอง บริโภคกันเถิดค่ะ ช่วยชาติ ช่วยชีวิตเราให้ยืนยาวได้จริงๆ นะคะ

 

Click for enlage picture.

อ้างอิง:http://www.dhamma5minutes.com/

หมายเลขบันทึก: 337834เขียนเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2010 19:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 03:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท