การศรัทธาต่อบรรดามะลาอิกะฮฺ ( เทวทูต )


การศรัทธาต่อบรรดาเทวทูตอัลลอฮฺ พวกเขาคือใคร ...???
  • การศรัทธาต่อ บรรดามะลาอิกะฮฺของพระองค์ ( เทวทูต )

คือ  การศรัทธาว่า  อัลลอฮฺทรงมีบรรดามะลาอิกะฮฺมากมาย  ไม่มีใครรู้จำนวนของพวกเขานอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น   พวกเขาจะปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺในการบริหารและรักษาจักรวาลนี้   ตลอดจนสรรพสิ่งทั้งหลายตามที่อัลลอฮฺได้กำหนดมาแล้ว ( ดู อิฆอซาตุล ละฮฺฟาน 2/120 ) พวกเขาถูกมอบหน้าที่เพื่อบริหารฟากฟ้าและเเผ่นดินนี้   ทุกๆความเคลื่อนไหวในโลกนี้เป็นหน้าที่ของพวกเขาดังที่อัลลอฮฺประสงค์จะให้เป็น   อัลลอฮฺได้ตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :

“แล้วพวกเขา (มะลาอิกะฮฺ) ผู้บริหารกิจการ”

ตรัสในคัมภีร์อัลกุรอานอีก ความว่า :

“ขอสาบานต่อมะลาอิกะฮฺ ผู้จัดสรรการงาน”( อัซซาริยาต 4 )

บรรดามะลาอิกะฮฺถูกสร้างขึ้นมาจากรัศมี   ท่านศาสนทูตอัลลอฮฺ – ขอความสันติจงมีเเด่ท่าน -   กล่าว ความว่า :

  “มะลาอิกะฮฺถูกสร้างมาจากเเสงรัศมี   ส่วนญินถูกสร้างมาจากเปลวไฟ   ส่วนอาดัม( มนุษย์ ) ถูกสร้างมาจากสิ่งที่ได้อธิบายไป(ดิน)”( เศาะฮีฮฺ มุสลิม 4/2294 เลขที่ 2996  )

พวกเขาถือได้ว่าเป็นสิ่งเร้นลับ  มองเห็นกับตาไม่ได้  แต่อัลลอฮฺก็ทรงให้ลักษณะพิเศษแก่พวกเขาคือ พวกเขาสามารถที่จำแลงร่างเป็นสิ่งอื่นซึ่งสามารถมองเห็นได้    ดังที่อัลลอฮฺได้เเจ้งให้เราทราบถึงเรื่องราวของญิบรีลครั้นไปพบพระนางมัรยัมในลักษณะที่เขาจำแลงเป็นมนุษย์   อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :

 “แล้วนางได้ใช้ม่าน กั้นให้ห่างพ้นจากพวกเขาแล้วเราได้ส่งวิญญาณของเรา (ญิบรีล) ไปยังนางแล้วเขาได้จำแลงตนแก่นาง ให้เป็นชายอย่างสมบูรณ์   นางกล่าวว่า “แท้จริงฉันขอความคุ้มครองต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีให้พ้นจากท่าน หากท่านเป็นผู้ยำเกรง    เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นเพียงทูตแห่งพระเจ้าของเธอ เพื่อฉันจะให้ลูกชายผู้บริสุทธิ์แก่เธอ” ( มัรยัม 17 -19 )

 “ท่านศาสนทูตอัลลอฮฺได้เห็นญิบรีลมาแล้วครั้งหนึ่งในลักษณะดั้งเดิมของเขาที่ได้ถูกสร้างมา    ซึ่งเขามีปีก 600 ปีก  ปิดบังฟากฟ้าเนื่องจากความยิ่งใหญ่ของเขา”  ( เศาะฮีฮฺบุคอรีย์ 4/1840 เลขที่ 4575 )

ฉะนั้นบรรดามะลาอิกะฮฺดังกล่าวจะมีปีกสอง หรือ สาม หรือ มากกว่านั้น  อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :

“บรรดาการสรรเสริญเป็น ของอัลลอฮฺผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน  ผู้ทรงแต่งตั้งมะลาอิกะฮฺให้เป็นผู้นำข่าว ผู้มีปีกสอง สาม และสี่ ทรงเพิ่มในการสร้างตามที่พระองค์ทรงประสงค์” ( ฟาฏีร 1 )  

ส่วนเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวกับพวกเขาถือว่าเป็นความลับที่อัลลอฮฺรับรู้เพียงผู้เดียว

วันเวลาของพวกเขาคือ การรําลึกถึงอัลลอฮฺ  หรือการกล่าวสรรเสริญในความบริสุทธิ์ของพระองค์  หรือ การกล่าวยกย่องพระองค์เท่านั้น  อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :

“พวกเขาจะแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ในเวลากลางคืน และกลางวัน โดยไม่ขาดระยะ” ( อัลอัมบิยาอฺ 20 )

อัลลอฮฺทรงสร้างบรรดามะลาอิกะฮฺเพื่อทำการภักดีต่อพระองค์  อัลลอฮฺคตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน   ความว่า :

“อัล-มะซีห์นั้นจะไม่หยิ่งเป็นอันขาดที่จะเป็นบ่าวของอัลลอฮฺ และมลาอิกะฮ์ผู้ใกล้ชิด (พระองค์) ก็ไม่หยิ่งด้วย( อันนิซาอฺ 172 )

พวกเขาคือ ทูตที่ทำหน้าที่ระหว่างพระองค์กับบรรดาศาสนทูตของพระองค์”   อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน   ความว่า :

“อัรรูห์ (เทวทูตอัลลอฮฺ มีนามว่า อัรรูห์ ) ผู้ซื่อสัตย์ ได้นำมันลงมา    ยังหัวใจของเจ้าเพื่อเจ้าจักได้เป็นผู้ตักเตือนคนหนึ่ง   เป็นภาษาอาหรับอันชัดแจ้ง”

( อัซซุอะรออฺ 193-195 )

หน้าที่ของพวกเขา คือ ปฏบิติทำทุกการงานที่อัลลอฮฺทรงบัญชาให้ปฏิบัติตาม   อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน    ความว่า :

“พวกเขาจะกลัวพระเจ้าของพวกเขา ผู้ทรงอำนาจเหนือพวกเจ้า ปฏิบัติตามสิ่งที่พวกเขาถูกบัญชา”( อันนะฮฺลุ 50 )

พวกเขาไม่ใช่ลูกของพระองค์อัลลอฮฺ  ที่เราควรเคารพหรือรักพวกเขา อัลลอฮฺได้ตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน    ความว่า :

“และพวกเขา (มุชริกูน) กล่าวว่า พระผู้ทรงกรุณาปรานีทรงยึดมะลาอิกะฮฺเป็นพระบุตร มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ แต่ว่าพวกเขา (มะลาอิกะฮฺ) เป็นบ่าวผู้มีเกียรติ  พวกเขาจะไม่ชิงกล่าวคำพูดก่อนพระองค์ และพวกเขาปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์”( อัลอัมบิยาอฺ 26-27 )  

พวกเขาไม่คล้ายคลึงอัลลอฮฺและ ไม่ได้เป็นผู้ร่วมมือกับพระอฃค์  อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน    ความว่า :

“และ เขาจะไม่ใช้พวกเจ้าให้ยึดเอามะลาอิกะฮฺและบรรดาศาสดาเป็นพระเจ้า เขาจะใช้พวกเจ้าให้ปฏิเสธศรัทธา หลังจากที่พวกเจ้าเป็นผู้นอบน้อมแล้วกระนั้นหรือ?”( อาละอิมรอน 80 )

อัลลอฮฺได้ทรงตั้งชื่อพวกเขาและแบ่งภาระหน้าที่  ส่วนหนึ่งที่อัลลอฮฺเเจ้งให้เราทราบคือ

- ญิบรีล   ( ขอความสันติจงประสบเเด่เขาด้วยเถิด ) รับหน้าที่เป็นผู้รับโองการจากอัลลอฮฺ  ( วะฮฺยู )  อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน    ความว่า :

“อัรรูห์ (เทวทูตอัลลอฮฺ มีนามว่า อัรรูห์ ) ผู้ซื่อสัตย์ ได้นำมันลงมายังหัวใจของเจ้าเพื่อเจ้าจักได้เป็นผู้ตักเตือนคนหนึ่ง” ( อัซซุอะรออฺ )

- มีกาอีล  (ขอความสันติจงประสบเเด่เขาด้วยเถิด ) รับหน้าที่ดูเเลฝนและพืชพันธุ์  อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน    ความว่า :

“ใครที่เป็นศัตรูต่ออัลลอฮฺ และมะลาอิกะฮฺของพระองค์ และบรรดาศาสนทูตของพระองค์และเป็นศัตรูต่อญิบรีล และมีกาอีลนั้น แท้จริงอัลลอฮฺ ทรงเป็นศัตรูแก่ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย”( อัลบะเกาะเราะฮฺ 98 )

- มะลิกุ้ลเมาตฺ  ( รับหน้าที่เป็นผู้เอาชีวิตมนุษย์ ) อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน   ความว่า :

“จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด มะลักผู้ปลิดชีวิต ผู้ได้รับมอบหมายเกี่ยวกับพวกท่าน จะปลิดชีวิตของพวกท่าน แล้วพวกท่านจะถูกนำกลับไปยังพระเจ้าของพวกท่าน” ( อัซซัจดะฮฺ 11 )

- อิสรอฟีล  รับหน้าที่เป็นผู้เป่าสังข์ในวันฟื้นคืนชีพ  อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน    ความว่า :

“ดังนั้นเมื่อสังข์ได้ ถูกเป่าขึ้น ดังนั้นจะไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติระหว่างพวกเขาในวันนั้น และพวกเขาจะไม่ไต่ถามซึ่งกันและกัน” ( อัลมุอฺมินูน 101 )

- มาลิก  รับหน้าที่เป็นผู้เฝ้าประตูนรก อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน   ความว่า :

“และ พวกเขาจะร้องเรียกขึ้นว่า โอ้มาลิก (ยามเฝ้าประตูนรก) โปรดให้พระเจ้าของท่านจัดการให้เราตายเสียเถิด เขา (มาลิก) จะกล่าวว่า แท้จริงส่วนมากของพวกเจ้าเป็นผู้พำนักอยู่ตลอดไป” ( อัซซุครุฟ 77 )

อัซซะบานียะ   พวกเขาคือผู้รับหน้าที่ลงโทษชาวนรก  อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน   ความว่า :

 “แล้วให้เขาเรียกที่ประชุมของเขา   เราก็จะเรียกผู้คุมนรก”( อัลอะลัก 17-18 )

- มะลาอิกะฮฺที่อยู่กับมนุษย์ โดยปกติแล้วมนุษย์ทุกคนจะมีสองมะลาอิกะฮฺ  มะลักหนึ่งจะจดบันทึกการงานที่ดี  อีกมะลักหนึ่งจะจดบันทึกเต่การงานที่ไม่ดี  อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน   ความว่า :

“จงรำลึกขณะที่มะลาอิกะฮฺผู้บันทึกสองท่านบันทึก ท่านหนึ่งนั่งทางข้างขวา และอีกท่านหนึ่งนั่งทางข้างซ้าย     ไม่มีคำพูดคำใดที่เขากล่าวออกมา เว้นแต่ใกล้ ๆ เขานั้นมี (มะลัก) ผู้เฝ้าติดตาม ผู้เตรียมพร้อม (ที่จะบันทึก)”( ก็อฟ 17-18 )

-  ริฏวาน  ผู้เฝ้าประตูสวรรค์  และมะลาอิกะฮฺอื่นที่รับหน้าที่เพื่อปกป้องและดูเเลมนุษย์  เป็นต้น  ซึ่งจะถูกกล่าวในคุมภีร์กุรอ่านและวัจนะท่านศาสนทูต    ส่วนบางมะลาอิกะฮฺที่ไม่อัลลอฮฺไม่ทรงแจ้งให้เราทราบ  เราก็จำต้องศรัทธาต่อพวกเขาทั้งหมด.

ประโยชน์ของการศรัทธาต่อบรรดามะลาอิกะฮฺ :

  1. ได้ทราบถึงความยิ่งใหญ่  ความเกรียงไกร  และความรับรู้ของอัลลอฮฺต่อทุกสรรพสิ่งในจักรวาลนี้  เพราะความยิ่งใหญ่ของจักรวาลนี้บ่งบอกถึงความยิ่งของผู้สร้างมัน
  2. เน้นให้เรากระทำความดี  หลีกเลี่ยงความชั่ว  ทั้งเวลาลับและเวลาเปิดเผย   เนื่องจากมนุษย์รู้ว่ามีมะลาอิกะฮฺกำลังจับจ้องและสังเกตการกระทำและการพูดของเขาอยู่  
  3. หลีกเลี่ยงการตกหลุมเรื่องไร้สาระและผิดพลาด  ซึ่งส่วนมากคนที่ไม่เชื่อในสิ่งเร้นหลับจะตกหลุมนี้เสมอ
  4. ความเมตตาและความเอาใจใส่ของอัลลอฮฺต่อบ่าวซึ่งได้ทรงมอบมายหน้าที่ให้กับบรรดามะลาอิกะฮฺเพื่อดูเเลและบริหารกิจการมนุษย์ .
หมายเลขบันทึก: 336788เขียนเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2010 18:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 15:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท