คือ การศรัทธาว่า อัลลอฮฺทรงมีบรรดามะลาอิกะฮฺมากมาย ไม่มีใครรู้จำนวนของพวกเขานอกจากอัลลอฮฺเท่านั้น พวกเขาจะปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺในการบริหารและรักษาจักรวาลนี้ ตลอดจนสรรพสิ่งทั้งหลายตามที่อัลลอฮฺได้กำหนดมาแล้ว ( ดู อิฆอซาตุล ละฮฺฟาน 2/120 ) พวกเขาถูกมอบหน้าที่เพื่อบริหารฟากฟ้าและเเผ่นดินนี้ ทุกๆความเคลื่อนไหวในโลกนี้เป็นหน้าที่ของพวกเขาดังที่อัลลอฮฺประสงค์จะให้เป็น อัลลอฮฺได้ตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“แล้วพวกเขา (มะลาอิกะฮฺ) ผู้บริหารกิจการ”
ตรัสในคัมภีร์อัลกุรอานอีก ความว่า :
“ขอสาบานต่อมะลาอิกะฮฺ ผู้จัดสรรการงาน”( อัซซาริยาต 4 )
บรรดามะลาอิกะฮฺถูกสร้างขึ้นมาจากรัศมี ท่านศาสนทูตอัลลอฮฺ – ขอความสันติจงมีเเด่ท่าน - กล่าว ความว่า :
“มะลาอิกะฮฺถูกสร้างมาจากเเสงรัศมี ส่วนญินถูกสร้างมาจากเปลวไฟ ส่วนอาดัม( มนุษย์ ) ถูกสร้างมาจากสิ่งที่ได้อธิบายไป(ดิน)”( เศาะฮีฮฺ มุสลิม 4/2294 เลขที่ 2996 )
พวกเขาถือได้ว่าเป็นสิ่งเร้นลับ มองเห็นกับตาไม่ได้ แต่อัลลอฮฺก็ทรงให้ลักษณะพิเศษแก่พวกเขาคือ พวกเขาสามารถที่จำแลงร่างเป็นสิ่งอื่นซึ่งสามารถมองเห็นได้ ดังที่อัลลอฮฺได้เเจ้งให้เราทราบถึงเรื่องราวของญิบรีลครั้นไปพบพระนางมัรยัมในลักษณะที่เขาจำแลงเป็นมนุษย์ อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“แล้วนางได้ใช้ม่าน กั้นให้ห่างพ้นจากพวกเขาแล้วเราได้ส่งวิญญาณของเรา (ญิบรีล) ไปยังนางแล้วเขาได้จำแลงตนแก่นาง ให้เป็นชายอย่างสมบูรณ์ นางกล่าวว่า “แท้จริงฉันขอความคุ้มครองต่อพระผู้ทรงกรุณาปรานีให้พ้นจากท่าน หากท่านเป็นผู้ยำเกรง เขา (ญิบรีล) กล่าวว่า “แท้จริงฉันเป็นเพียงทูตแห่งพระเจ้าของเธอ เพื่อฉันจะให้ลูกชายผู้บริสุทธิ์แก่เธอ” ( มัรยัม 17 -19 )
“ท่านศาสนทูตอัลลอฮฺได้เห็นญิบรีลมาแล้วครั้งหนึ่งในลักษณะดั้งเดิมของเขาที่ได้ถูกสร้างมา ซึ่งเขามีปีก 600 ปีก ปิดบังฟากฟ้าเนื่องจากความยิ่งใหญ่ของเขา” ( เศาะฮีฮฺบุคอรีย์ 4/1840 เลขที่ 4575 )
ฉะนั้นบรรดามะลาอิกะฮฺดังกล่าวจะมีปีกสอง หรือ สาม หรือ มากกว่านั้น อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“บรรดาการสรรเสริญเป็น ของอัลลอฮฺผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน ผู้ทรงแต่งตั้งมะลาอิกะฮฺให้เป็นผู้นำข่าว ผู้มีปีกสอง สาม และสี่ ทรงเพิ่มในการสร้างตามที่พระองค์ทรงประสงค์” ( ฟาฏีร 1 )
ส่วนเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวกับพวกเขาถือว่าเป็นความลับที่อัลลอฮฺรับรู้เพียงผู้เดียว
วันเวลาของพวกเขาคือ การรําลึกถึงอัลลอฮฺ หรือการกล่าวสรรเสริญในความบริสุทธิ์ของพระองค์ หรือ การกล่าวยกย่องพระองค์เท่านั้น อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“พวกเขาจะแซ่ซ้องสดุดีพระองค์ในเวลากลางคืน และกลางวัน โดยไม่ขาดระยะ” ( อัลอัมบิยาอฺ 20 )
อัลลอฮฺทรงสร้างบรรดามะลาอิกะฮฺเพื่อทำการภักดีต่อพระองค์ อัลลอฮฺคตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“อัล-มะซีห์นั้นจะไม่หยิ่งเป็นอันขาดที่จะเป็นบ่าวของอัลลอฮฺ และมลาอิกะฮ์ผู้ใกล้ชิด (พระองค์) ก็ไม่หยิ่งด้วย( อันนิซาอฺ 172 )
พวกเขาคือ ทูตที่ทำหน้าที่ระหว่างพระองค์กับบรรดาศาสนทูตของพระองค์” อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“อัรรูห์ (เทวทูตอัลลอฮฺ มีนามว่า อัรรูห์ ) ผู้ซื่อสัตย์ ได้นำมันลงมา ยังหัวใจของเจ้าเพื่อเจ้าจักได้เป็นผู้ตักเตือนคนหนึ่ง เป็นภาษาอาหรับอันชัดแจ้ง”
( อัซซุอะรออฺ 193-195 )
หน้าที่ของพวกเขา คือ ปฏบิติทำทุกการงานที่อัลลอฮฺทรงบัญชาให้ปฏิบัติตาม อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“พวกเขาจะกลัวพระเจ้าของพวกเขา ผู้ทรงอำนาจเหนือพวกเจ้า ปฏิบัติตามสิ่งที่พวกเขาถูกบัญชา”( อันนะฮฺลุ 50 )
พวกเขาไม่ใช่ลูกของพระองค์อัลลอฮฺ ที่เราควรเคารพหรือรักพวกเขา อัลลอฮฺได้ตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“และพวกเขา (มุชริกูน) กล่าวว่า พระผู้ทรงกรุณาปรานีทรงยึดมะลาอิกะฮฺเป็นพระบุตร มหาบริสุทธิ์แห่งพระองค์ แต่ว่าพวกเขา (มะลาอิกะฮฺ) เป็นบ่าวผู้มีเกียรติ พวกเขาจะไม่ชิงกล่าวคำพูดก่อนพระองค์ และพวกเขาปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์”( อัลอัมบิยาอฺ 26-27 )
พวกเขาไม่คล้ายคลึงอัลลอฮฺและ ไม่ได้เป็นผู้ร่วมมือกับพระอฃค์ อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“และ เขาจะไม่ใช้พวกเจ้าให้ยึดเอามะลาอิกะฮฺและบรรดาศาสดาเป็นพระเจ้า เขาจะใช้พวกเจ้าให้ปฏิเสธศรัทธา หลังจากที่พวกเจ้าเป็นผู้นอบน้อมแล้วกระนั้นหรือ?”( อาละอิมรอน 80 )
อัลลอฮฺได้ทรงตั้งชื่อพวกเขาและแบ่งภาระหน้าที่ ส่วนหนึ่งที่อัลลอฮฺเเจ้งให้เราทราบคือ
- ญิบรีล ( ขอความสันติจงประสบเเด่เขาด้วยเถิด ) รับหน้าที่เป็นผู้รับโองการจากอัลลอฮฺ ( วะฮฺยู ) อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“อัรรูห์ (เทวทูตอัลลอฮฺ มีนามว่า อัรรูห์ ) ผู้ซื่อสัตย์ ได้นำมันลงมายังหัวใจของเจ้าเพื่อเจ้าจักได้เป็นผู้ตักเตือนคนหนึ่ง” ( อัซซุอะรออฺ )
- มีกาอีล (ขอความสันติจงประสบเเด่เขาด้วยเถิด ) รับหน้าที่ดูเเลฝนและพืชพันธุ์ อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“ใครที่เป็นศัตรูต่ออัลลอฮฺ และมะลาอิกะฮฺของพระองค์ และบรรดาศาสนทูตของพระองค์และเป็นศัตรูต่อญิบรีล และมีกาอีลนั้น แท้จริงอัลลอฮฺ ทรงเป็นศัตรูแก่ผู้ปฏิเสธศรัทธาทั้งหลาย”( อัลบะเกาะเราะฮฺ 98 )
- มะลิกุ้ลเมาตฺ ( รับหน้าที่เป็นผู้เอาชีวิตมนุษย์ ) อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด มะลักผู้ปลิดชีวิต ผู้ได้รับมอบหมายเกี่ยวกับพวกท่าน จะปลิดชีวิตของพวกท่าน แล้วพวกท่านจะถูกนำกลับไปยังพระเจ้าของพวกท่าน” ( อัซซัจดะฮฺ 11 )
- อิสรอฟีล รับหน้าที่เป็นผู้เป่าสังข์ในวันฟื้นคืนชีพ อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“ดังนั้นเมื่อสังข์ได้ ถูกเป่าขึ้น ดังนั้นจะไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติระหว่างพวกเขาในวันนั้น และพวกเขาจะไม่ไต่ถามซึ่งกันและกัน” ( อัลมุอฺมินูน 101 )
- มาลิก รับหน้าที่เป็นผู้เฝ้าประตูนรก อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“และ พวกเขาจะร้องเรียกขึ้นว่า โอ้มาลิก (ยามเฝ้าประตูนรก) โปรดให้พระเจ้าของท่านจัดการให้เราตายเสียเถิด เขา (มาลิก) จะกล่าวว่า แท้จริงส่วนมากของพวกเจ้าเป็นผู้พำนักอยู่ตลอดไป” ( อัซซุครุฟ 77 )
- อัซซะบานียะ พวกเขาคือผู้รับหน้าที่ลงโทษชาวนรก อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“แล้วให้เขาเรียกที่ประชุมของเขา เราก็จะเรียกผู้คุมนรก”( อัลอะลัก 17-18 )
- มะลาอิกะฮฺที่อยู่กับมนุษย์ โดยปกติแล้วมนุษย์ทุกคนจะมีสองมะลาอิกะฮฺ มะลักหนึ่งจะจดบันทึกการงานที่ดี อีกมะลักหนึ่งจะจดบันทึกเต่การงานที่ไม่ดี อัลลอฮฺตรัสในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า :
“จงรำลึกขณะที่มะลาอิกะฮฺผู้บันทึกสองท่านบันทึก ท่านหนึ่งนั่งทางข้างขวา และอีกท่านหนึ่งนั่งทางข้างซ้าย ไม่มีคำพูดคำใดที่เขากล่าวออกมา เว้นแต่ใกล้ ๆ เขานั้นมี (มะลัก) ผู้เฝ้าติดตาม ผู้เตรียมพร้อม (ที่จะบันทึก)”( ก็อฟ 17-18 )
- ริฏวาน ผู้เฝ้าประตูสวรรค์ และมะลาอิกะฮฺอื่นที่รับหน้าที่เพื่อปกป้องและดูเเลมนุษย์ เป็นต้น ซึ่งจะถูกกล่าวในคุมภีร์กุรอ่านและวัจนะท่านศาสนทูต ส่วนบางมะลาอิกะฮฺที่ไม่อัลลอฮฺไม่ทรงแจ้งให้เราทราบ เราก็จำต้องศรัทธาต่อพวกเขาทั้งหมด.
ประโยชน์ของการศรัทธาต่อบรรดามะลาอิกะฮฺ :
ไม่มีความเห็น