หยก อัญมณีกับความเชื่อ


หยกอัญมณีแห่งความศักดิ์สิทธิ์

เรามักจะเห็นชาวจีนส่วนใหญ่นิยมชมชอบอัญมณีประเภทหนึ่งนั้นคือ หยก แต่เราเคยทราบเรื่องราวที่มาและความเชื่อเกี่ยวกับอัญมณีประเภทนี้หรือเปล่า ถ้าไม่โบขอนำเรื่องราวของอัญมณีประเภทนี้มาให้ทุกคนได้อ่านเพื่อเพิ่มความรู้ในเรื่องนี้กันดีกว่า

อัญมณีแต่ละชนิดต่างก็มีค่าแตกต่างกันไปตามความเชื่อของชนในแต่ละชาติ เช่น ชาวอินเดียนแดงเห็นว่าเทอร์ควอยส์ คือ อัญมณีศักดิ์สิทธิ์ แต่สำหรับชาวจีนแล้วไม่มีอัญมณีชนิดใดที่มีค่าเท่ากับหยกซึ่งเป็นอัญมณีที่ชาวจีนเชื่อมั่นและศรัทธามากว่าหลายพันปี

                หยก หรือ ยู่ ในภาษาจีนกลาง หรือ เง็ก ในภาษาจีนแต้จิ๋ว คือ อัญมณีที่ชาวจีนยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งคุณธรรม 5 ประการ คือ ใจบุญ สมถะ กล้าหาญ ยุติธรรม และมีสติปัญญา ชาวจีนมีความผูกพันกับหยกตั้งแต่เกิดจนตายก็ว่าได้ เพราะชาวจีนเชื่อว่าหยกเป็นอัญมณีศักดิ์สิทธิ์ที่นำมาซึ่งสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความร่ำรวย ความมีโชคแก่ผู้ครอบครองและทำให้อายุยืนด้วยดังนั้น ชาวจีนในสมัยก่อนไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใดจึงนิยมใช้หยกเป็นเครื่องประดับและเครื่องใช้ต่าง เช่น พระจักรพรรดิใช้หยกเป็นตราพระราชลัญจกร พระธำมรงค์ พระคทา หรือพระที่นั่ง ชาวจีนทั่วไปมักจะให้ลูกหลานของตนพกหยกติดตัวไว้เสมอ ถ้าเป็นเด็กหญิงจะสวมกำไลหยก แต่ถ้าเป็นเด็กชายก็จะพกเครื่องใช้ที่ทำด้วยหยกหรือจี้พระหยก เมื่อเสียชีวิตหยกก็จะถูกฝังลงไปพร้อมกับศพ

                การที่ชาวจีนฝังหยกลงไปด้วยกันกับศพนี้ เนื่องจากเชื่อกันว่าหยกสามารถรักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อยได้ ดังที่มีการขุดพบฉลองพระองค์หยกของพระจักรพรรดิในราชวงศ์ฮั่นตะวันตกเมื่อ 2,000 ปีก่อน ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันความเชื่อนี้ ส่วนประเพณีทำศพนั้น ชาวจีนมักจะนำหยกที่แกะสลักเป็นรูปกลมแบนมีรูตรงกลางซึ่งแทนสัญลักษณ์ของสวรรค์ที่เรียกว่า "ปิ" (Pi) มาวางไว้ด้านหลังศพ ส่วนบนท้องศพจะวางหยกรูปสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโลก เรียกว่า "จุง" (Tsung) เพื่อให้สวรรค์หนุนหลัง

                หยกสีเขียว คือ สีที่ผู้คนนิยมสวมใส่มากที่สุด แต่นอกจากสีเขียวแล้วหยกยังมีสีสันอื่น ๆ อีก เช่น แดง ม่วง เหลือง น้ำตาล สีของหยกที่แตกต่างกันเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของสิริมงคลที่แตกต่างกันไป เช่น หยกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวย หยกสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความมีโชค หยกสีม่วงเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์พร้อม หยกสีอ่อน ๆ เนื้อแก้วเป็นสัญลักษณ์ของจิตใจที่สงบสุข ส่วนลักษณะที่แข็งและหนาแน่นของหยกเปรียบเหมือนความฉลาดและความกล้าหาญ ความลื่นเป็นมันของผิวหยก คือ ความยุติ - ธรรม และการให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลเป็นเครื่องหมายของความกตัญญู

                นอกจากนี้ ชาวจีนยังเชื่อกันอีกว่าหยกมีอำนาจคุ้มครองผู้สวมใส่ให้พ้นจากสิ่งชั่วร้าย เป็นเครื่องรางบอกเหตุได้ว่าผู้สวมใส่กำลังมีโชคหรือมีเคราะห์อย่างไร สังเกตได้จากสีของหยก หากหยกมีสีสันสดใส นั่นก็หมายความว่า เจ้าของหยกกำลังจะมีโชค แต่ถ้าหากหยกมีสีหมองลงหรือมองเห็นรอยแตกร้าวชัดขึ้นก็แปลว่า เจ้าของหยกกำลังจะมีเคราะห์มาเยือน หยกที่ชาวจีนใช้เป็นเครื่องรางมักจะแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ เช่น ปลา เต่า จิ้งหรีด หน้าเสือ ทางด้านการรักษาโรค ชาวจีนเชื่อกันว่าหากกินหยกบดละเอียดจะช่วยรักษาโรคไต โรคเจ็บสีข้าง โรคโลหิตจาง โรคหอบหืดชาวจีนศรัทธาและยกย่องอัญมณีสีเขียวล้ำค่านี้มากจนนำคำว่า "หยก" มาใช้เป็นคำแสดงลักษณะอาการที่ประณีต งดงาม และมีความหมายในทางที่ดีงามอีกด้วย เช่น

                "ยู่หนู่" แปลตามตัวว่า ผู้ที่ทำด้วยหยก แต่ความหมายที่แท้จริง คือผู้หญิงสวย

                "ยู่เมี่ยน" แปลว่าหน้าหยก แต่ความหมายที่แท้จริง คือใบหน้าอันงดงาม

                "ยู่ถี่"แปลว่า ร่างที่ทำด้วยหยก แต่ความหมายที่แท้จริง คือร่างอันมีค่าของคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง

                ทุกวันนี้ชาวจีนส่วนใหญ่ยังคงใช้หยกเป็นเครื่องประดับอยู่ แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานาน แต่ความเชื่อความศรัทธาในคุณค่าของอัญมณีชิ้นหนึ่งสามารถถ่ายถอดมาสู่ผู้คนรุ่นหลังได้โดยไม่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่า หยก คือ อัญมณีคู่ชีวิตของชาวจีนจริง

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://www.showded.com/myprofile/mainblog.php?user=gemparty&jucId=34914&jnId=59484

หมายเลขบันทึก: 335780เขียนเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2010 09:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 17:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท