ทางแยก ตัวนับ และการขอเวลา


Appreciative Inquiry : การขอเวลา

เมื่อวานกลัวผู้ที่ติดตามขาดตอนครับ อัพซะ 2 บทความเลย

ห่างกันประมาณ 18 ชม.ได้ แต่ก็ได้ผลตอบรับที่ดีครับ...

ดีใจมากมายที่งานของผมโดนใจใครหลายๆคน โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลาย...  ^^

โอกาสหน้าๆจะหามานำเสนออีกครับ โลกธุรกิจจำเป็นจะต้องตามกระแส

ของคุณผู้หญิงเหล่านี้ครับ เพราะอำนาจการตัดสินใจซื้ออยู่ที่พวกเธอทั้งนั้น

ถ้าเราทำการบ้านมาดี ตอบโจทย์ของพวกเธอได้โดนใจแล้วละก็ ธุรกิจไปไกลแน่ครับ



เรื่องราวในวันนี้ผมเชื่อเหลือเกินว่าทุกท่านต้องเคยพบ/เคยเจอมาแล้วทั้งนั้น...

ใช่แล้วครับ... ผมกำลังจะพูดถึงสัญญาณไฟจราจร หรือเรียกภาษาบ้านๆคือไฟเขียว-ไฟแดงนั้นเอง

เคยรู้สึกเหมือนผมไหมครับว่า "ไฟแดงที่มีตัวเลขนับถอยหลัง กับไม่มี...มันให้ความรู้สึกต่างกัน"

และด้วยความรู้สึกนี้เอง ผมจึงเอาคำถามนี้ไปถามเพื่อนๆน้องๆเพื่อไขข้อข้องใจ

คำตอบที่ได้จะเป็นยังไงนั้น ตามผมมาเลยครับ.... ^^



คนแรกที่เจอไม่ใช้ใครที่ไหนครับ"น้องพลอย"นั้นเอง น้องพลอยเคยให้เคสดีๆในการขอกับพวกเรามาแล้วครับ

ถ้าอยากรู้ว่าน้องเขาขอยังไง คุณพ่อถึงให้รถมาตังคันหนึ่งแหนะ >>> คลิกอ่านได้ที่นี้ครับ <<<

ผมถาม "พลอยๆพลอยว่าไฟแดงที่มีตัวเลขนับถอยหลัง กับไม่มีให้ความรู้สึกต่างกันมะ???"

พลอยตอบ "ต่างจิ... ที่มีตัวเลขก็ดี จะได้รู้ว่าต้องรออีกนานไหม ถ้าไม่มีเหมือนมันจะรอนานกว่าอะ"

ยังไม่พอเท่านั้นครับ... ผมยังเอาคำถามนี้ไปถามเพื่อนอีกคนหนึ่ง คนนี้ชื่อ"กิ๊ก"ครับ กิ๊กเป็นเพื่อนเรียน MBA ด้วยกัน

ผมถามด้วยคำถามเดียวกัน... คำตอบที่กิ๊กบอกมาคือ "มันก็ต่างกันไม่มากนะที่จริง แต่เค้ารู้สึกว่ามีตัวเลขจะปลอดภัยกว่า

คือเป็นอะไรที่คาดเดา รู้สึกไม่ต้องกังวล แต่ถ้าไม่มีตัวเลขนี่ก็ลุ้นๆว่าเมื่อไหร่มันจะเขียว ยิ่งอยู่คันแรกหนิลุ้นหนักเลย"



เท่านี้ยังไม่พอครับ... ลองมาถามความคิดของเด็กๆดูบ้าง น้องคนนี้ชื่อ"น้องมีน"เรียนอยู่ขอนแก่นวิทย์ ม.6 ครับ

ด้วยคำถามเดียวกัน น้องมีนตอบว่า "ต่างงงง...ถ้ามีเลข เราก็จะรู้ว่าอีกนานแค่ไหน ถ้าไม่มีเราก็ไม่รู้  สมมติจะก้มลงหาของ

ถ้ามีตัวนับเราก็รู้ว่าเรามีเวลาหาพอมั้ย ถ้าไม่มี เราก็ไม่รู้ ไม่สามารถหาของได้ ต้องนั่งลุ้น เวลาจะข้ามถนนก็กะเวลาได้

ปลอดภัยกว่า รวมถึงพวกรถด้วย ถ้าไฟเขียวแล้วเห็นเวลาน้อยก็จะได้เบรก ไม่พุ่งไป ลดอุบัติเหตุได้"

มาถึงคนสุดท้ายครับ
... น้องคนนี้พึ่งเป็นบัณฑิตใหม่ มข. เธอชื่อ"แก้ว"ครับ... ผมก็ยิงคำถามเหมือนทุกๆคน

แก้วตอบว่า "ต่างอยู่ค่ะ...ชอบแบบมีนับเวลามากกว่า เพราะจะได้รู้ว่าอีกกี่วินาที จะได้เตรียมตัว แบบไม่มีมันต้องดูตลอด มันจะรู้สึกว่านานด้วย"



ตัดมาที่จุดนี้ครับ... เรามาดูกันครับว่า จากข้อสงสัยของผม และคำตอบจากพวกเธอ เราได้อะไรกันบ้าง.. ตามมาครับ ^^

จะเห็นได้ว่า ทุกคนได้รับคำถามที่เหมือนกัน คือ"ไฟแดงที่มีตัวเลขนับถอยหลัง กับไม่มี...มันให้ความรู้สึกต่างมะ ???"

คำตอบที่ได้จากพวกเธอก็แตกต่างกันออกไปครับ... แต่สิ่งที่แปลกแต่จริงคือ ทุกคนตอบว่า ให้ความรู้สึกที่"ต่าง"กัน

และเหตุผลที่ให้มาก็เจอจุดร่วมที่ว่า "ถ้ามีก็จะรู้ว่าได้ไปเมื่อไหร่ ถ้าไม่มีจะรู้สึกว่านานกว่า" แปลกไหมละครับ ทั้งๆที่ได้รอเหมือนกัน

เวลารอก็เท่าเดิม แต่แบบมีตัวเลขดัน"ให้ความรู้สึกที่ดีในการรอมากกว่า" เพราะพวกเธอรู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน แค่นั้นเอง



สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดในวันนี้... ผมขอเรียกว่า "การขอ(ให้รอ)เวลา" ก็แล้วกัน ไม่แปลกแต่จริงครับ เมื่อเรารู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่

เราจะรู้สึกว่ามันไม่นาน เท่ากับการที่รอไปเรื่อยเปื่อยแบบไม่รู้จุดหมาย  ไม่ใช่แต่กับไฟเขียว-ไฟแดงนะครับ

ในชีวิตประจำวันก็เหมือนกัน... เอาง่ายๆอย่างวันสอบ ถ้าไม่รู้เราก็จะรู้สึกเฉยๆ แต่เมื่อวันได้ถูกกำหนดแล้ว เราจะรู้สึกว่า

อีกไม่กี่วันเอง ทำไมเร็วจัง... ลองนำไปปรับใช้ดูครับ ผมว่ามันสามารถนำไปใช้ในการขอ/ยืดเวลา เพื่อทำอะไรสักอย่างได้

 



แล้วคุณละคิดยังไง ^^

หมายเลขบันทึก: 333154เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2010 22:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ขอบคุณค่ะ สำหรับสาระ

เป็นเรื่องใกล้ตัวมากเลย ค่ะ

ชอบที่มีตัวนับเวลา เพราะว่าวันไหนมีเรียน

แล้วตื่นสายเนี่ย จะแต่งหน้าในรถตอนติดไฟแดง

ก็ดีค่ะ ไม่ต้องลุ้น ตะก่อนลุ้นไปลุ้นมา ปากเลอะซะงั้น กร๊าก ๆ ๆ

บุญรักษาค่ะ ^_^

ต่างกันนะ มันก้อดีสองแบบล่ะนะ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าแบบไหนทำให้เกิดอุบัติเหตุเยอะกว่าอ่ะ ส่วนเราชอบมีตัวเลขบอกเวลามาก

กว่าอ่ะ เพราะจะทำให้รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน เราจะได้เตรียมตัวถูก และกะเวลาได้ สมมุติว่าจะเปลี่ยนจากไฟเขียวเป็นไฟแดงถ้าเรารีบขับรถจะทันนะในเวลาแค่นี้ ประมาณเนี้ย ถ้าไม่มีตัวเลขก้อจะไม่รู้เวลาที่แน่นอนเลย รู้แค่ว่าต้องรอ และบางทีก็ทำให้เรากังวลจ้องอยู่กับไฟจราจรอย่างเดียว แต่ก็จะดีตรงที่ทำให้เราเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เช่นสมมุติว่า อาจารย์บอกว่าสัปดาห์หน้าสอบนะ แต่ไม่ระบุวัน เราก้อต้องมีการเตรียมความพร้อมเสมอเริ่มอ่านหนังสือเลย ไม่ใช่ว่าจะรออ่านวันก่อนสอบอย่างเดียว

ต่างกันค่ะ เพราะจะได้วางแผนล่วงหน้าเลยว่าต้องเลี้ยวซ้าย รึจอดรอค่ะ

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ...

@คุณsOul_ >>> ครับ... ส่วนมากเลยจะชอบแบบคุณ ผมก็เหมือนกัย แต่สำหรับผมไม่ต้องแต่งหน้า เลยรู้สึกว่ามันรออีกแปปเดียวก็จะไปได้ละ คือทราบเวลาทีแน่นอน อะไรแบบนั้นอะครับ ความรู้สึกมันจะแบบว่า อีกแปปเดียวเองอะไรทำนองนั้น ขอบคุณครับ ^^

@คุณako >>> ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ... ถ้าในแง่สัญญาไฟจราจร ผมก็เห็นด้วยกับความคิดคุณนะครับ แต่ถ้าในแง่ของการรอคอยแล้ว ผมว่าถ้าเรารู้ระยะเวลาทีแน่นอน เราจะรู้สึกว่าพร้อมหรือยอมรับที่จะทำตาม มากกว่าที่ให้นรอเฉยๆ ประมาณนั้นครับ ^^

@คุณเพลินเพลง >>> ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ... นี่คงกะว่าจะไม่ติดไฟแดงเลยใช่ไหมครับ เหอๆ... ผมก็ทำบ่อยนะ เวลารีบๆไปซ้ายก่อน แล้วค่อยไปลุ้นเอาไฟแดงถัดไป ^^

ขอบคุณทุกความเห็นครับ... ^^

สำหรับผมการรอคอยแบบมีกำหนด กับรอคอยแบบเรื่อยเปื่อย ผมว่าแบบมีกำหนดดีกว่าเป็นไหนๆ ^^

สำหรับผมนี่มีประโยชน์มากเลยครับพี่ ไอ้ตัวบอกเวลาเนี่ย โดยเฉพาะเวลาไฟเขียว

โดยปกติผมจะขับรถค่อนข้างเร็วซักหน่อย เวลาเจอไฟเขียวเนี่ย คันเร่งเหยียบแทบมิดเลยเชียวหละ

แล้วก็ฝ่าไฟแดงมาหลายทีแล้วครับ เพราะบางทีไฟเขียวมันปุ๊บปั๊บจริงๆ แต่พอมีตัวบอกเวลาแล้ว

ผมก็จะกะได้ว่าผมควรจะไปต่อ หรือจะผ่อนดี โดยดูจากความเร็วที่ขับมา + เวลาของไฟเขียวที่เหลือไงครับ

ตัวเลขจะให้ความแน่นอน ความชัดเจน

ถ้าสอบสังคม คำตอบก็หลากหลาย

ถ้าสอบคณิต ก็มีคำตอยเดียว

ชัดเจนและแน่นอนคงต้องใช้ เลข

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ

@น้องเต้ >>> ขอบคุณสำหรับความเห็นครับโปเต้... ถ้าคนขับรถเร็วๆ เวลากับไฟเขียวนี้มีประโยชน์มากๆเลยเนอะ ขอบใจมากที่เข้ามาแชร์กันครับ ^^

@คุณอาร์ชิ >>> เปรียบเทียบได้เห็นภาพมากครับ... คณิตศาสตร์มันเป็นศาสตร์ที่ตายตัวทีเดียว ไม่เหมือนข้อสอบบรรยายที่ตอบได้มากมายหลากหลาย ขอบคุณมากครับที่แชร์มา ^^

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมานะครับ.... แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

มีตัวเลขด้วยชามก็ชอบค่ะมันทำให้รับรู้ว่าต้องรอนานแค่ไหน

ดีกว่ารอแบบไม่รู้อะไร แต่ว่า พวกใจร้อนขับรถเนี่ย

ก็มักจะออกตัวก่อนที่ตัวเลขสีเขียวจะขึ้น หรือยังเหยียบต่อแม้ตัวเลขบอกเวลาจะเป็นสีแดงเนี่ย

อันตรายเหมือนกันนะคะ

ชอบตัวเลขนับถอยหลังเหมือนกัน ขอบใจมากคุณไพรัชช์สำหรับบันทึกสนุกๆ

ตามมาติดๆ

...แบบมีตัวเลขนับถอย ดีกว่า สำหรับพี่

...ห้าแยกใหญ่ที่ชัยภูมิ ประมาณ3 นาทีแน่ะ แต่งหน้าได้เสร็จพอดี ทีเดียว

...และก็เหมือนหลายๆคน ว่าจะได้คำนวณเวลา ถูกว่าจะทำอะไรได้ในระหว่างรอนับถอยหลัง

...แค่นี้ก่อนนะ สวัสดีค่ะ

มีตัวเลขที่นับถอยหลัง ทำให้

เกิดการชนกันน้อยลง ดีแล้ว

ทำให้สามารถกำหนดเวลา หรือ

รอเวลาโดยมีจุดหมายได้

....สวัสดีค่ะ..คุณเอิร์ท....

๐ มันเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ของการทำให้คนที่รอไม่ใช่แค่รอเฉยๆ แต่ยังมีตัวเลขให้เขาได้นับถอยหลังเล่นๆ

๐ แล้วถ้ามีเด็กอยู่ในรถด้วย มันเป็นการสร้างเสริมให้กับเด็ก ได้รู้จักตัวเลข รู้ชื่อของตัวเลข และรู้จักการนับถอยหลัง

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

@น้องชาม >>> ถูกต้องแล้วครับน้องชาม... ต่อให้มีตัวนับ 88 ตัวก็ไม่ช่วยอะไรครับ ถ้าผู้ขับขี่ยังประมาทอยู่ ขอบคุณที่แวะมาครับ ^^

@คุณ...มณีวรรณ ตั้งขจรศักดิ์ >>> ขอบคุณที่ติดตามครับ... ผมก็เป็นคนส่วนมากเหมือนกันครับ ^^

@อาจารย์โย >>> ขอบคุณอาจารย์ที่แวะมาครับ... ไอเดียร์นี้ก็ได้มาจากการที่ผมไปคุยเล่นๆกันอาจารย์นี้ละครับ พอดีมีจังหวะเลยได้ทำจริงๆสักที ^^

@คุณปิ่นธิดา >>> สัวสดีครับ... สาวๆหลายคน ใช้เวลานับถอยหลังในการแต่งหน้าเยอะแยะเลยละครับ การมีตัวเลขบอกเวลานี้มันมีประโยชน์จริงๆ ขอบคุณที่ติดตามครับ ^^

@พี่แจ๋วแหวว >>> ใช่ครับพี่... มันช่วยลดอุบัติเหตุได้เยอะเลย... แต่อย่างว่าละครับ บางคนต่อให้เห็นตัวเลขแล้ว แต่ใจร้อน ใจไว คิดว่าทัน คิดว่ารีบซะเกินความจำเป็น มันก็จะประมาทครับ อุบัติเหตุเลยยังคงมีให้เห็นอยู่บ่อยตามแยกที่มีไฟ ขอบคุณครับ ^^

@คุณสายลงที่หวังดี >>> สวัสดีครับ... นอกจากจะคอยอย่างมีประโยชน์ในแง่ที่มีจุดหมายในการรอแล้ว ยังมีประโยชน์ช่วยให้เด็กเล็กๆสามารถสนุกกับการนับเลขไปได้ด้วย... ขอบคุณที่นำประสบการณ์ดีๆมาแชร์กันครับ ^^

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ.... แสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท