เธอไม่เคยลืมครูของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะพวกเธอต่างผลัดเวียนกันส่งข่าว ความสำเร็จเป็นระยะให้ครูของเธอทราบจวบจนบัดนี้หลายคนแต่งงานมีครอบครัว ก็ยังส่งข่าวเขยศิษย์ให้ทราบ นึกๆดูก็น่าขัน ทำให้ฉันนึกถึงสุภาษิตโบราณสมัยที่ฉันเป็นเด็กขึ้นมาทันที ..เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ความรู้เจ้ายังอ่อนด้อยเร่งศึกษา เมื่อเติบใหญ่เราจะได้มีวิชาเป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน...............
เป็นผลงานเชิงประจักษ์ ที่น่าภาคภูมิใจที่พวกเขาพากันเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ
ย้อนอดีต กับคำว่า Best Practices, Best Practices
ใครๆก็พูดถึง Best Practices
เป็นที่น่าสงสัยมากเมื่อ ปี พุทธศักราช 2542
ฉันอยากเรียกว่าเป็นยุคที่ครูไทย มีการปรับเปลี่ยนพัฒนาการจัดการเรียนการสอนและ เกิดแนวความคิดครั้งใหญ่ของเมืองไทยที่หันมาให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อย่างจริงจัง เมื่อพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545และมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 กำหนดให้กระทรวงศึกษาธิการกระจายอำนาจบริหารและการจัดการศึกษา ทั้งด้านวิชาการ งบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารงานทั่วไป เพื่อให้สถานศึกษามีความคล่องตัวสามารถบริหารจัดการการศึกษาในสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล มีความสะดวกรวดเร็วถูกต้อง
การปฏิรูปการศึกษาในครั้งนั้นส่งผลทำให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ต้องปรับเปลี่ยนบทบาท โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน เน้นการบริหารแบบมีส่วนร่วม ร่วมคิดร่วมทำ จนสามารถนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมสามารถบรรลุผล ตรงตามกับความคาดหวังของบุคลากรและชุมชนที่มีต่อสถานศึกษานั้นต้องการ ซึ่งผู้รับผิดชอบในสถานศึกษานั้นๆ ต้องปฏิบัติและต้องแสดงผลในเชิงประจักษ์ ให้บุคลากรทางการศึกษาทั้งประเทศได้รับรู้รับทราบโดยทั่วกัน การปฏิบัติที่เป็นเลิศนี้เองแหละที่เรียกว่า” Best Practices ผลงานเป็นที่ประจักษ์บ่งบอกความสำเร็จ หรือมีความเป็นเลิศที่ก้าวสูงขึ้น เป็นที่ยอมรับ และตอบสนองความพึงพอใจของสังคมชุมชนนั้นๆ อันได้แก่ ผู้ปกครอง สถานประกอบการที่พร้อม และเต็มใจรับผลผลิตจากโรงเรียนหรือสถานศึกษาเข้าทำงาน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสุงสุดที่สถานศึกษาสามารถผลิตคนออกมาได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของคนทำงาน ไม่ใช่วิ่งเต้นพวกใครพวกมัน
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น Best Practices หรือไม่ Best Practices
ก็ต้องมาตรวจสอบว่า
1. ผลการดำเนินการบรรลุ และผลตอบสนองความต้องการของชุมชน หรือของตลาด หรือไม่
2. มีกระบวนการ แบบ P D C A มีตัวชี้วัด มีสิ่งที่บอกได้ว่าเป็นความสำเร็จ (พอถึงตรงนี้ มีผู้รู้บอกว่ามันช้า /มันล้าไปแล้ว มันต้องให้ความรักก่อน ก้าวเดินด้วยรัก รักที่จะทำให้ดี รักด้วยความรู้สึกเอื้ออาทรต่อกัน รักที่จะเรียนรู้ และนำพาความรักให้เป็นพลัง พลังที่ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี กระบวนการPDCA ก็ตามมาเอง ทำไปแก้ไป ด้วยทัศนคติที่เป็นบวก การพัฒนาก็เกิดขึ้น ด้วยสติ และปัญญา)
3. บี้ให้ได้ ว่า What How Why นั้นทำอย่างไร บี้ให้เห็นเลยว่าหน้าตาจะออกมาอย่างนี้ ๆ มีขั้นตอน แบบนี้ 1 2 3 ว่าไปเลย ให้มันชัดเจน เพราะทำจริง ทำอย่างไร ก็ว่าไปตามนั้น ของฉันมันเป็นแบบนี้ จะให้ฉันไปตามเธอ เหมือนเธอได้ยังไง จะผัด จะแกง ก็เป็นอาหารได้ประโยชน์เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครมีแนวทางทำแบบไหน ได้ผลก็มาแลกเปลี่ยนกัน ใครอร่ยอกว่ากัน ยังไง แบบไหน แสดงแผ่กันให้เห็นถึงกึ๋น
4. ผลลัพธ์ในแต่ละขั้นตอน มีหน้าตา รูปร่างอย่างไร แต่งองค์ทรงเครื่องแบบไหน ก็บอกรายละเอียดได้ (แสดงว่าทำจริง ไม่ได้make up) ทุกขั้นตอนเป็นไปตามข้อกำหนดของการพัฒนาคุณภาพเชิงระบบ
5.แล้วทำอย่างต่อเนื่อง ๆ ดีขึ้น มั่นคงขึ้น เกิดการพัฒนาๆ จนเป็นที่ยอมรับของตลาด เกกกิดความเฃื่อมั่น
6. สุดท้ายการปฏิบัตินั้นต้องใช้กระบวนการ การจัดการความรู้ที่เรียกว่า Knowledge Management หรือ (KM) เอาไปใช้ได้ เป็นแบบอย่างได้ สร้างสุขในการทำงานได้
ขออนุญาตยกบทความจาก.. http://www.dopa.go.th/iad/km/km_des.html
ซึ่ง นพ.วิจารณ์ พานิช ได้ให้ความหมายของคำว่า “
การจัดการความรู้ไว้ดังนี้ .....การจัดการความรู้คือ เครื่องมือ เพื่อการบรรลุเป้าหมายอย่างน้อย 4 ประการไปพร้อมๆ กัน ได้แก่
1. บรรลุเป้าหมายของงาน
2. บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคน
3. บรรลุเป้าหมายการพัฒนาองค์กรไปเป็นองค์กรเรียนรู้ และ
4. บรรลุความเป็นชุมชน เป็นหมู่คณะ ความเอื้ออาทรระหว่างกันในที่ทำงาน
ขอบคุณค่ะ
* ชุมชนพอใจ ผู้ปกครองยอมรับ
* ผมว่านี่แหละครับ Best practices ที่แท้จริง
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ พี่ครูต้อย
เรืองนี้ พอลล่าคิดว่า ผลงานที่ดีต้องสะท้อนกับเป้าหมายองค์กร เป็นเรื่องที่องค์กรให้ความสำคัญ
ผลงานนั้น ชัดเจนที่เป้าหมาย มีตัววัดผลงานที่ชัดเจน ค่ะ มี PDCA ครบอย่างที่พี่ครูต้อยบอกค่ะ
มีการสรุปบทเรียนจากเรื่องนั้นค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ใหญ่
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
อรุณสวัสดิ์ค่ะครูพี่ต้อย
ขอบคุณมุมมองดีๆ จาก best practice ค่ะ น่าจะแตกต่างไปตามสภาพงาน และพื้นที่
สุดท้ายแล้วสอดคล้องกับองค์กร ชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกระดับค่ะ
แวะมาเยี่ยมชมบ้านครูต้อยค่ะ
ชอบกิจกรรมดีดี ของครู
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
สวัสดีค่ะครูต้อย ขอแนะตัวจริงก่อนค่ะ ชื่อ อรทัย รัตนบรรดาล ค่ะ จากรร.จุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีธรรมราช
ยินดีมากค่ะที่ครูต้อย สนใจการอบรมที่ มวล. ติดต่อ อ.นิศารัตน์ ( 089-892-2612 )บอกว่าทราบจาก อ. อรทัย
อ.นิศารัตน์ จะบอกรายละเอียดอีกครั้งค่ะ( จะทราบผลแน่นอนกว่า ) ถ้าติดต่อไม่ได้ก็ ( 089-195-7934 )ใจใสใส ครูจ๋าค่ะ
ใจใสใส ก็จะนำน.ร.ไปหลายคนค่ะ ช่วงปิดเทอมเด็กๆว่างค่ะ
รักค่ะ