เมื่อมีการถามว่าเรียนใน มหาวิทยาลัย เราได้อะไรกลับมา นอกจากใบปริญญา
มันเป็นคำถามที่หาคำตอบได้ยาก เพราะแต่ละบุคคลก็มีคำตอบของคำถามนี้อยู่ด้วยเช่นกัน และก็รวมถึงตัวผมด้วย ที่สามารถตอบคุถามนี้ได้อย่างเต็มภาคภูมิว่าการเรียนมฃในมหาวิทยาลัยไม่ใช่จะเรียนแต่ในตำราอย่างเดียว แต่ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตและการเสียสละ
ตัวผมเองเรียนในมหาวิทยาลัยพายัพ เมื่อปีพ.ศ.2544 ในคณะนิติศาสตร์ โดยจำได้เลยว่าปณิธานของมหาวิทยาลัยพายัพ นั่นคือ "สัจจะ บริการ" ซึ่งตอนเจฃข้าไปเรียนในช่วงแรกนั้นก็งง ว่าคำว่า "สัจจะ บริการ" มีความหมายอย่างไรและทำไมถึงต้องใช้สองคำนี้ และกว่าที่จะได้เรียนรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของสองคำนี้ ผมก็เรียนมาถึงระดับ ชั้นปีที่ 3 จะเรียกได้ว่าเกือบสายไปก็อาจจะเรียกอย่างนั้นได้ แต่สำหรับตัวผมแล้วคิดว่าก็ไม่สายไปหรอกที่จะได้เรียนรู้ความหมายของ 2 คำนี้อย่างแท้จริง เพราะแท้จริงแล้วใน 2 คำนี้นั้นมีความหมายที่ลึกและเป็นแกนในการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี
ที่ว่าความหมายที่ลึกนั้นก็ด้วยเหตุผลที่ว่าหากเข้าใจง่ายๆในความหมายของ 2 คำนั้น ก็เป็นการขุดหลุมฝังตัวเอง เพราะจะทำให้ตนเองหลงทางได้ คำว่า "สัจจะ" นั่นก็คือการที่เรายึดมั่นในคำพูดของเราที่ได้พูดออกไปเพื่องานในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือจะกล่าวง่ายๆว่าเป็นการรักษาซึ่งความจริง
แล้วคำว่า "บริการ" ก็คือ การให้โดยไม่คิดหวังสิ่งตอบแทน การช่วยเหลือแก่คนที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งทางกายและใจ ให้เขาสามารถลุกขึ้นมาต่อสู้กับอุปสรรคได้อีกครั้ง
และก็เพราะ 2 คำนี้ที่ทำให้เข้าใจถึงว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นไม่ใช่แต่จะร่ำเรียนอย่างเดียวโดยไม่รู้จักระบบการดำเนินชีวิต หรือไปรับทราบปัญหาของชาวบ้านที่ทุกข์ แล้วเรานั่นแหละที่ได้ช่วยบรรเทาทุกข์เหล่านั้นให้แก่พวกเขา
แล้วจะมาเขียนต่อนะครับ
ไม่มีความเห็น