ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ หัวหน้าโครงการChild Watch ผ.อ.สถาบันรามจิตติ กล่าวว่าจากข้อมูลโครงการติดตามสภาวการณ์เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ พบว่า ช่วงเทศกาลบอลโลกเยาวชนระดับประถมศึกษาเล่นพนันบอลทั้งแบบทุกคู่ และบางคู่ 5.64% โดยเด็กอายุน้อยที่สุดที่เล่นพนันบอลคือประถมศึกษาปีที่ 4 ส่วนมัธยมศึกษา-อุดมศึกษาเล่นพนันบอล 15.26% ซึ่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือเล่นพนันบอลมากที่สุด ทั้งระดับประถมศึกษาคือ 11.88% และระดับมัธยม-อุดมศึกษา 20.18% โดยทั้งระดับประถมศึกษาและอุดมศึกษาเยาวชนชายนิยมเล่นพนันบอลมากกว่าเยาวชนหญิง 3 และ 4 เท่าตามลำดับ
“ส่วนข้อมูลจากการศึกษาภาคสนามเรื่อง “มาเฟียเด็ก” ของนิสิตปริญญาโท ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่า ในโรงเรียนมีการรับแทงบอลราคา 1,000-10,000บาท โดยเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างเด็กในโรงเรียนและเจ้ามือภายนอก ถ้าแพ้มีวิธีการทวงเงิน 3 ระดับ คือ 1.ขู่ 2.รุมซ้อมทำร้ายร่างกาย 3.ฆาตกรรม ช่วงบอลโลกการลักขโมยเงินพ่อแม่ รีดไถเงินเพื่อน จึงเพิ่มสูงขึ้น แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ มีเยาวชนทั้งชาย-หญิง จำใจเอาตัวเข้าแลก เพื่อจ่ายหนี้พนันบอล ได้รับค่าตัวครั้งละ 1,500-5,000 บาท ซึ่งอาจใช้ตัวจ่ายเป็นเงินต้น แล้วทยอยจ่ายดอกเบี้ยภายหลัง ขณะที่บางคนก็ถูกบังคับข่มขู่ มีกรณีหนึ่งเด็กชายติดหนี้พนันหลายหมื่นบาท จนถูกจับตัวลากขึ้นรถจากหน้าโรงเรียน ถูกซ้อม และถูกกักขังอยู่ในม่านรูดถึง 4-5 วัน ก่อนที่จะสามารถติดต่อพ่อแม่ให้มาเคลียร์หนี้ให้ กรณีนี้เกิดมากในโรงเรียนชั้นนำ ที่เด็กมีเงินมักย่ามใจแทงพนันแบบใช้บัตรเครดิตทีละมากๆ พอมีปัญหาก็เรียกพ่อแม่มาเคลียร์”ดร.อมรวิชช์ กล่าว
ดร.อมรวิชช์ กล่าวอีกว่า งานวิจัยในสหรัฐฯกับแคนนาดาระบุชัดว่า การเป็นหนี้สินจากการพนันคือสาเหตุประการต้นๆ ของการฆ่าตัวตายในวัยรุ่น และเป็นเหตุของการฆาตกรรมระหว่างกลุ่มวัยรุ่น จึงขอเตือนวัยรุ่นที่กำลังคิดเล่นพนันว่า โทษภัยของมันถึงขั้นเสียผู้เสียคนและเสียชีวิตได้ งานวิจัยระบุอีกว่า วัยรุ่นมีโอกาสเสียคนจากการพนันง่ายกว่าผู้ใหญ่ เพราะขาดความยั้งคิดหรืออยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มเพื่อน โดยผู้ใหญ่ที่ติดพนันจะมีประมาณ 1-3% ที่ถึงขั้นเกิดปัญหากับตนเองและครอบครัว ขณะที่วัยรุ่นจะสูงกว่าคือ 5-8% พร้อมกันนี้ขอให้พ่อแม่สังเกต 10 สัญญาณเตือนที่แสดงให้เห็นว่ากำลังติดพนันบอลมีอาทิ ลูกพกนิตยสารบอลแบบหลบๆซ่อนๆ ลูกกลับบ้านช้ากว่าปกติ เริ่มโกหกพ่อแม่
นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า นอกการพนันจะเป็นสิ่งที่น่าห่วงในช่วงฟุตบอลโลกแล้ว การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ชมบอลโลก โดยเฉพาะวัยรุ่นก็น่าเป็นกังวล เพราะธุรกิจแอลกอฮอล์ ถือโอกาสใช้กลยุทธ์การตลาดประเภททุนอุปถัมภ์ และการโฆษณาทางโทรทัศน์ชักจูงให้วัยรุ่นดื่มเหล้า เบียร์อย่างหนัก ในช่วงการแข่งขันกีฬาที่ได้รับความนิยมสูง ข้อมูลปี พ.ศ.2545 พบมีผู้ชมการแข่งขันฟุตบอลโลกมากกว่า 2,800 ล้านคนใน 213 ประเทศ รวมเวลาถ่ายทอดโทรทัศน์กว่า 41,000 ชั่วโมงและมีผู้ชมมากกว่า 1 พันล้านคนรับชมการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งหลักฐานจากทั่วโลกชี้ว่าการชมโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางโทรทัศน์ทำให้วัยรุ่นมีโอกาสดื่มสุราหนักขึ้น โดยเฉพาะในกีฬาฟุตบอล กีฬาที่ถูกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใช้เป็นเครื่องมือ จึงกลายเป็นวงจรมรณะ ที่มีทั้งผีพนันเข้าสิงแล้วยังติดสุรานำมาสู่อาชญากรรมร้ายแรงได้อีกด้วย
“ในปี 1996 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า ได้ประกาศให้ฟุตบอลโลกงดรับการสนับสนุนจากบุหรี่มาแล้ว ดังนั้นเพื่อปกป้องเยาวชนและผู้ร่วมชมกีฬาบอลครั้งยิ่งใหญ่นี้ โครงการรณรงค์ให้การถ่ายทอดกีฬาปลอดแอลกอฮอล์ ของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อสาธารณะ วอชิงตัน ประเทศสหรัฐฯ จึงเชิญชวนให้ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้ฟีฟ่า ประกาศเลิกรับการสนับสนุนจากผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อจะได้ไม่มีการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในเกมกีฬาอีกต่อไป ขณะนี้มีผู้ร่วมลงนามแล้วกว่า 300 องค์กร ในกว่า 30 ประเทศ ส่วนประเทศไทยร่วมลงนาม 69 องค์กร และเนื่องจากมีองค์กร จากหลากหลายประเทศที่อยากเข้าร่วม จึงขยายเวลาการลงนามจากวันที่ 6 มิ.ย. ไปถึง 22 มิ.ย. นี้“ นพ.สุภกร กล่าว
นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี หนึ่งในจังหวัดที่สนใจเข้าร่วมโครงการจังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็ก กล่าวว่า โครงการจังหวัดน่าอยู่สำหรับเด็ก มีสมาชิกทั่วทุกภาคจำนวน 15 จังหวัด อาทิ มหาสารคาม น่าน สระแก้ว ความร่วมมือระหว่าง Child Watch และ สสส. ได้ออกมาตรการร่วมกันเพื่อปกป้องเยาวชนจากการพนันในช่วงฟุตบอลโลก โดยกำชับผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจให้กวดขันขั้นเด็ดขาดจับกุมผู้เล่นพนัน โดยเฉพาะภายในโรงเรียนประสานความร่วมมือกับครู อาจารย์ฝ่ายปกครอง พร้อมทั้งออกหนังสือเวียนไปยังผู้ประกอบการ สถานบันเทิง โรงแรม หอพัก คาราโอเกะ ร้านอาหาร ท่ารถ โรงแรม หอพัก ขอความร่วมมือในการเป็นหูเป็นตา ไม่ส่งเสริมการเล่นพนันฟุตบอล และขอให้โรงเรียนบันทึกเทปการแข่งขันฟุตบอลฉายให้เด็กดูในช่วงพักกลางวันเพื่อให้อยู่ในสายตา ยิ่งกว่านั้นกลุ่มสมัชชาเยาวชนของแต่ละจังหวัดยังสร้างกลไกเฝ้าระวัง เป็นเครือข่ายเจ้าหน้าที่คอยจับตา ดูแลให้คำแนะนำเพื่อน
พลตำรวจตรีคำรบ ปัญญาแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นนทบุรี กล่าวว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งในและนอกเครื่องแบบออกตรวจตราสถานบันเทิง โรงแรม สถานบริการ คาเฟ่ ร้านอาหารทั่วไป และสถานที่อื่นๆ ที่จัดให้มีการชมการแข่งขันฟุตบอล รวมถึงประสานความร่วมมือไปตามสถานศึกษา เจ้าของหอพัก บ้านเช่า สถานบริการ สถานประกอบการให้สอดส่องดูแลมิให้มีการพนันฟุตบอลโลก และขอความร่วมมือจากองค์กรธุรกิจที่ให้บริการอินเตอร์เน็ต ให้หลีกเลี่ยงการบริการเว็บไซต์พนันทายผลฟุตบอล ซึ่งเป็นช่องทางที่วัยรุ่นนิยม และในชั้นพนักงานสอบสวนให้ขยายผล เพื่อแจ้งจับเจ้าของกิจการหรือผู้ที่จัดให้มีการชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโดยเฉพาะจุดที่มีวัยรุ่นไปใช้บริการมาก และปล่อยปละละเลยให้มีการเล่นพนันบอลโดยใช้มาตรการพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาต กับสถานบริการดังกล่าวด้วย
<hr width="100%" size="2" />